กระแสการไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ได้อกมาเป็นระบอก ล่าสุด กลุ่มพันธมิตรฯไฮโซ ที่เคยสนับสนุนการชุมนุมอย่างแน่นหนา ได้ถอนตัวจากการชุมนุมตั้งแต่เริ่มต้น โพสต์ ทูเดย์ ได้ไปสัมภาษณ์”กาญจนี วัลยเสวี” แกนนำกลุ่มไฮโซสปอร์ต mtoday เห็นว่า มีเนื้อหาน่าสนใจ จึงขออนุญาตนำมาถ่ายทอดต่อ
การที่ กลุ่มไฮโซสปอร์ตคลับ นำโดย ‘กาญจนี วัลยเสวี’ ได้ประกาศถอนตัวจากการเป็นแนวร่วมพธม.และมาตั้งกลุ่มชาวไทยหัวใจรักสงบที่มีภารกิจต่อต้านการเคลื่อนไหวของพธม.นั้น เป็นปรากฎการณ์ที่น่าสนใจในช่วงที่การเมืองกำลังจะมีการเลือกตั้ง
กาญจนี
‘กาญจนี’ เล่าว่า ทางกลุ่มเคยได้เข้ามาเป็นแนวร่วมกับพธม.ตั้งแต่ต้นเพื่อร่วมกันขับไล่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในเวลานั้นเพราะเห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่สามารถเป็นคนมาดูแลบริหารประเทศได้แล้ว โดยในช่วง 193 วันของการชุมนุมพวกเราได้ให้การช่วยเหลืออย่างมากทั้งมวลชนและหาทุนทรัพย์ให้กับคุณสนธิ ลิ้มทองกุลด้วย โดยมวลชนมาจากญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงช่วยกันมาช่วยเคลื่อนไหวในนามสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยและเข้ามาเป็นแนวร่วมให้กับพธม.
“ทุนทรัพย์ที่ช่วยกันในเวลานั้นมีเป็นหลักล้านเลยทีเดียวมาจากการบริจาคของเพื่อนและผู้หลักผุ้ใหญ่ในบ้านเมืองทยอยบริจาคทีละ 2-3 แสนบาทโดยเมื่อได้แล้วส่วนใหญ่จะให้กับมือคุณสนธิเองหลายครั้งรวมๆกันก็เป็นหลักล้านอยู่เหมือนกัน ตอนนั้นเห็นว่าอะไรที่เราช่วยได้เราก็ช่วยทุกอย่างเพราะเวลานั้นค่าใช้จ่ายของพธม.เยอะมากไม่ว่าจะเป็นเครื่องเสียง สัญญาณดาวเทียม ทำทุกอย่างเพื่อให้อำนาจเก่าหลุดออกไป”
193 วันของพธม.ในการชุมนุมถือว่าเป็นช่วงเวลาชื่นมื่นที่สุดของกลุ่มพธม.แต่พอทันทีได้รับชัยชนะทุกอย่างก็กลับตาลปัตร โดยกาญจนี ยอมรับว่า ต่อมาภายหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ 193 วันกลุ่มเราก็ยุติให้การช่วยเหลือทางการเงิน และหันมาเอาใจช่วยให้รัฐบาลนี้สามารถทำงานต่อไปได้ ถึงเวลาที่ต้องให้รัฐบาลใหม่ได้เข้ามาทำงานบริหารประเทศเพื่อสร้างความสมานฉันท์ในบ้านเมือง ซึ่งตลอด 2 ปีที่ผ่านมา อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็กำลังพยายามดำเนินการอยู่ จึงเห็นว่าการออกมาไล่รัฐบาลเวลานี้เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง
“เมื่อคุณสนธิมาไล่นายกฯอภิสิทธิ์ตอนนี้มันไม่สมควรเพราะบ้านเมืองเราตอนนี้ต้องการความสมานฉันท์ ปัญหาจากคนเสื้อแดงหรือปัญหาของคุณทักษิณที่ต้องการกลับเข้ามามีอำนาจอีก มันยังไม่จบเลย ทำไมต้องมาขับไล่นายกฯตอนนี้ ที่ผ่านมายคุณอภิสิทธิ์มีการดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป ที่พูดอย่างนี้ไม่ได้เข้าข้างรัฐบาลแต่เห็นว่าการกระทำของคุณสนธิตอนนี้ไม่เหมาะสมเท่าไหร และเท่าที่ทราบรู้สึกว่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอยู่ด้วยซึ่งคิดว่าน่าจะมาจากการอกหักจากรัฐบาลในบางอย่าง”
‘กาญจนี’ วิพากษ์ตัวสนธิในเวลานี้ว่า ที่ผ่านมาคุณสนธิเชื่อว่าถ้าไม่มีพธม.พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีวันได้เป็นวันรัฐบาล ทำให้เกิดการสื่อสารไปยังประชาชนประชาธิปัตย์เป็นหนี้บุญคุณพธม. ซึ่งจริงๆไม่ใช่เลยเพราะการที่ประชาธิปัตย์เกิดจากการออกเสียงในสภาผู้แทนราษฎรพรรคร่วมรัฐบาลยกมือให้คุณอภิสิทธิ์ได้เป็นนายกฯ
“การชุมนุมครั้งนี้คุณสนธิกำลังหลงตัวเองว่าตัวเองมีมวลชนมาและคิดว่าจะสามารถไล่รัฐบาลนี้ได้แบบนี้ถือว่าคิดผิดอย่างมาก ถามว่าคุณสนธิรู้เรื่องนี้คุณสนธิรู้แน่นอนว่าประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลโดยไม่เกี่ยวกับตัวคุณสนธิเลย แต่คุณสนธิฉลาดในการสื่อสารต่อประชาชนเพื่อปลุกระดมโจมตีรัฐบาลชุดนี้เพื่อแสดงให้เห็นว่าประชาธิปัตย์เป็นหนี้บุญคุณพธม.อยู่”
กาญจนี ยังระบุอีกถึงท่าทีของสนธิว่า คุณสนธิฟาดงวงฟาดงากับทุกคนที่แสดงความคิดเห็นไม่เห็นด้วย ซึ่งคุณสนธิไม่เคยมีจุดยืนเลยโดยเฉพาะการตั้งพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมาเพราะต้องการแย่งมวลชนจากพรรคประชาธิปัตย์ พอส่งลงสมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานครก็แพ้ยับเยิน เมื่อเห็นว่าตัวเองสู้ไม่ได้ก็จะให้โหวตโนไม่ให้พรรคการเมืองใหม่ส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งแบบนี้ไม่มันแฟร์
“การจัดการชุมนุมของคุณสนธิเวลานี้สร้างความแตกแยกให้กับบ้านเมืองโดยเฉพาะการออกมาโจมตีกองทัพถือว่า ไม่ถูกต้อง ซึ่งเรื่องที่ตัวคุณสนธิพูดก็มีความจริงนิดเดียวที่เหลือเป็นฮินท์ (บอกใบ้) เสียส่วนใหญ่ ยุยงให้เกิดสงครามทั้งที่สถานการณ์ตอนนี้เรายังไม่เสียดินแดนเลยด้วยซ้ำ แต่พยายามจะสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนว่าเราเสียดินแดนไปแล้ว ”
ทั้งนี้ การอ้างเรื่องทหารเป็นความต้องการจะปลุกระดมมากกว่า ที่สำคัญการชุมนุมของพธม.ในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อต้องการให้เกิดกระแสจนกองทัพต้องออกมายึดอำนาจ แต่ทว่ากองทัพไม่เอาด้วยเพราะกองทัพเชื่อว่าการแก้ไขปัญหาแบบนี้ทำไม่ได้
สำหรับสิ่งที่เจอภายหลังให้กับพธม. กาญจนี อธิบายว่า เมื่อพวกเราไม่เห็นด้วยกับคุณสนธก็ถูกสารพัดวิธีโจมตีเริ่มตั้งแต่มีการพูดให้ร้ายบนเวทีพธม.ด้วยการใช้เรื่องชู้สาวมาเป็นประเด็นโจมตี และตอนนี้มีการจัดนักรบไซเบอร์เป็นกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ทีมล่าแม่ยกประชาธิปัตย์ เพื่อมาโพสต์ข้อความใน Facebook ด้วยถ้อยคำหยาบคายมาต่อว่า เป็นกระบวนทำลายความน่าเชื่อถือต่อบุคคลที่แสดงความไม่เห็นด้วยกับคุณสนธิทุกวันเข้ามาเป็นกลุ่มคนเสื้อเหลืองวันละ 50-60คน เข้ามาถล่มกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับสนธิเต็มไปหมด
จากนี้ไปคงต้องจับตาการเคลื่อนไหวของพธม.ต่อไปว่าจะออกมาในลักษณะใดภายหลังจากการเลือกแนวทางผลักมิตรไปเป็นศัตรู
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1850 ครั้ง