เว็บไซท์แท็บลอยด์ เดลี่ เมล ของอังกฤษ รายงานว่า บุตรสาววัย 12 ปี ของโอซามะห์ บิน ลาดิน ผู้นำอัลกออิดะห์ ได้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ที่ชุดปฎิบัติการพิเศษ เนวี ซีล ของกองทัพสหรัฐ ยิงสังหารบิดาของเธอในบ้านพักในปากีสถาน ซึ่งรายละเอียดในเรื่องนี้ ถูกเปิดเผยโดยสำนักข่าวกรองของปากีสถาน หรือISI และมีขึ้นหลังจากนายเจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงว่า บิน ลาดิน ไม่มีอาวุธตอนที่เผชิญหน้ากับหน่วยซีล และเขาขัดขืนทำให้ถูกยิงเสียชีวิต ซึ่งการขัดขืนไม่จำเป็นต้องมีอาวุธ ส่วนภรรยาของบิน ลาดิน ก็ไม่ได้ทำตัวเป็นโล่ห์มนุษย์ปกป้องสามี ดังที่มีการกล่าวอ้างก่อนหน้านี้แต่อย่างใด
ตอนแรก เจ้าหน้าที่ปากีสถานอ้างว่า บิน ลาดน ยืนอยู่ด้านหลังผู้หญิงสาวคนหนึ่ง ที่บางแหล่งข่าวระบุว่า เป็นหนึ่งในภรรยาของเขา ในขณะถือปืน AK-47 ยิงสู้กับทหารสหรัฐ และยังไม่แน่ชัดว่า ผู้หญิงคนนี้เสียชีวิตหรือไม่ ส่วนหน่วยข่าวกรองปากีสถาน เปิดเผยต่อ BBC ว่า มีคน 17-18 คน อยู่ในบ้านหลังนี้ตอนที่ถูกบุกจู่โจม และหนึ่งในจำนวนนี้ คือลูกสาววัย 12 ปี ของบิน ลาดิน ที่เห็นบิดาถูกยิงด้วย
ส่วนรายงานที่ว่า ภรรยาสาวของบิน ลาดิน ถูกใช้เป็นโล่ห์มนุษย์ป้องกันกระสุนให้กับเขานั้น ไม่เป็นความจริง ภรรยาคนที่อายุน้อยที่สุดในบรรดา 5 คน ที่มีชื่อว่า อามาล อาห์เหม็ด อัล ซาดาห์ วัย 27 ปี ได้รับบาดเจ็บที่น่องในระหว่างปฏิบัติการโจมตี แต่ไม่แน่ชัดว่า เธอและภรรยาที่เหลืออีก 4 คน พยายามจะทำร้ายสมาชิกหน่วยเนวี ซีล ที่บุกเข้าไปหรือไม่ ส่วนผู้หญิงที่เสียชีวิตเป็นภรรยาของหนึ่งในคนนำสารที่เสียชีวิตเช่นกัน
เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐ ที่ไม่เปิดเผยนาม ระบุว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการสรุปข้อมูล ยังคงสืบเรื่องนี้ให้แน่ใจ ส่วนเรื่องการปลิดชีพผู้นำอัล กออิดะห์ นั้น ใช้กระสุนสองนัดยิงเข้าที่ศีรษะและที่หน้าอก โดยที่เขาไม่มีโอกาสยิงตอบโต้
ภาพถ่ายที่ยังคงถูกปิดเป็นความลับ ได้แสดงให้เห็นว่า กระสุนเจาะเข้าที่เหนือตาซ้ายของบินลาดิน อย่างแม่นยำ ซึ่งหลังเสร็จภารกิจ หน่วยซีลได้เก็บรวบรวมหลักฐานสำคัญ ฮาร์ด ไดรฟ์ดีวีดี , เอกสารและอื่น ๆ เพื่อให้หน่วยข่าวกรองใช้เป็นเบาะแสในการติดตามไลล่านายไอย์มานอัล ซาวาห์รี ที่เชื่อว่า จะเป็นผู้นำคนต่อไป
รายงานแจ้งว่า สหรัฐได้ข่าวกรองจำนวนมหาศาลจากบ้านของบิน ลาดิน ที่รวมทั้งจากไฟล์คอมพิวเตอร์ , ซีดีรอม และข้อมูลทางอิเล็คทรอนิคส์อื่น ๆ และตอนนี้ กำลังอยู่ภายใต้การตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญข่าวกรองสหรัฐในอัฟกานิสถาน
ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ของสหรัฐ ซึ่งกล่าวว่า การสังหารโอซาม่า บิน ลาเดน ผู้นำเครือข่ายก่อการร้ายอัล กอิดะห์ เป็นวันดีสำหรับอเมริกา ขณะที่ผลสำรวจที่ออกมาล่าสุดพบว่า เป็นวันดีของผู้นำสหรัฐเช่นกัน โดยผลสำรวจของสองสำนัก ที่ออกมาเมื่อวันอังคาร พบว่า คะแนนนิยมของประธานาธิบดีโอบาม่า เพิ่มขึ้นเป็น 56 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มจากเมื่อเดือนที่แล้ว 9 จุด
การสำรวจครั้งนี้ เป็นของเดอะวอชิงตัน โพสต์ร่วมกับศูนย์วิจัยพิว กับของยูเอสเอ ทูเดย์ ร่วมกับกัลลัพ โพลส์ และจัดทำขึ้นเมื่อวันจันทร์ หลังมีการเปิดเผยรายละเอียดที่หน่วยเนวี ซีล จู่โจมเข้าไปยังบ้านพักของบิน ลาดิน ในเมืองอั๊บบอตตาบัด ทางตอนเหนือของกรุงอิสลามาบัด ของปากีสถาน
ในขณะที่ข่าวการปลิดชีพผู้ก่อการร้ายที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในโลก ครอบงำชาวอเมริกันและเรียกความสนใจไปทั่วโลกนั้น ช่วยส่งผลต่อคะแนนนิยมของผู้นำสหรัฐได้แค่ชั่วคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากนี้จะมีการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีกันอย่างดุเดือด และคะแนนนิยมที่กระเตื้องขึ้นจากความสำเร็จในการไล่ล่าและปลิดชีพบิน ลาดิน อาจมีความหมายเพียงเล็กน้อยเมื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเดินเข้าคูหา ในอีก 18 เดือนข้างหน้า
พรรครีพับลีกัน ได้เตรียมการต่อสู้กับประธานาธิบดีบารัก โอบามา โดยอาศัยความเชื่อใจชาวอเมริกันที่จะกลับไปถึงประเด็นเดิม ๆ อย่างเรื่องปากท้อง และในขณะที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะส่งใครลงชิงทำเนียบขาว สมาชิกรีพับลีกันก็เตรียมที่จะจัดการประชุมเพื่อการดีเบทยกแรกของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่กรีนวิลล์ รัฐเซาท์ แคโรไลน่า กันแล้ว ซึ่งไม่ต้องสงสัยว่า นโยบายของผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลีกันไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแต่ละคน จะเน้นโจมตีประธานาธิบดีโอบาม่า ในเรื่องวิกฤติหนี้และสิ่งที่พวกเขามองว่าจำเป็นต้องตัดลดค่าใช้จ่ายและไม่ยอมรับการขึ้นภาษี
ประธานาธิบดีโอบามา ยังคงตกเป็นเป้าโจมตีในเรื่องเศรษฐกิจ จากผลสำรวจล่าสุดของทั้งสองสำนัก ได้แสดงให้เห็นว่า มีเพียง 40 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ถูกสำรวจ พอใจผลงานการรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจของประธานาธิบดี ส่วนผลสำรวจอื่น ๆ ที่จัดทำเมื่อปีที่แล้ว พบว่า ชาวอเมริกัน 70 เปอร์เซ็นต์ รู้สึกว่าประเทศกำลังเดินไปผิดทาง
แม้ว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวอย่างช้า ๆ จากภาวะถดถอยครั้งใหญ่ แต่อัตราการว่างงานก็ยังอยู่ที่ 9 เปอร์เซ็นต์ และราคาน้ำมันก็ยังอยู่ในระดับสูงคือลิตรละเกือบ 1 ดอลล่าร์ ค่าใช้จ่ายในครัวเรือนเขม็งเกลียวเพราะราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น มีเพียงบริษัทน้ำมันที่ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำในช่วงไตรมาสแรกของปี 2544 แต่ตัวเลขการเติบโตของประเทศชะลอตัวอย่างแรงในช่วงเวลาเดียวกันส่วนหนึ่งเพราะราคาน้ำมัน
ในขณะที่ประธานาธิบดีโอบามา ได้รับการยกย่องจากทั้งพรรคของตัวเองและพรรครีพับลีกันรวมถึงการสนับสนุนจากนานาชาติ ในความสำเร็จที่สังหารบิน ลาเดน แต่ชาวอเมริกันก็กลัวการแก้แค้นจากอัล กออิดะห์ ผลสำรวจล่าสุด พบว่า ชาวอเมริกันมากกว่า 6 ใน 10 เกรงว่า จะเกิดเหตุวินาศกรรมในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งนับเป็นอัตราความเครียดของสาธารณชนที่สูงที่สุดในรอบ 8 ปี
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1331 ครั้ง