ซาเล้งขนบึ้ม หวังระเบิด”ภูมิใจไทย” คนร้ายสารภาพหมดเปลือก ถูกว่าจ้างให้นำรถเข็นผลไม้มาจอด แต่ไม่รู้ว่าซุกระเบิด “ศอฉ.” ระบุมีผู้จ้างวานจาก “แหลมฉบัง” ใส่น้ำมันลงในถังแก๊ส เตรียมจุดชนวนระเบิดด้วยรีโมตคอนโทรล หน่วยข่าวเตือนแดงอีสานคบคิดบางพรรคการเมืองหวังสร้างสถานการณ์ ขณะที่ “มาร์ค” ยันคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อ เชื่อไม่กระทบเลือกซ่อม ด้านงานศพ “เสธ.แดง” สุดเศร้า ลูกสาวเผยกองทัพไม่เหลียวแล
เวลา 11.30 น. วันอังคารที่ 22 มิ.ย. ที่บริเวณด้านข้างที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ถนนพหลโยธิน 43 ฝั่งขาออก ได้เกิดเสียงดังสนั่นคล้ายเสียงระเบิด โดยพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 1 คน คือ นายเอนก สิงห์ขุนทด อายุ 27 ปี ซึ่งถูกไฟคลอกและส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลภูมิพล ทั้งนี้ สภาพที่เกิดเหตุบริเวณร้านอาหารตามสั่งโดนแรงระเบิดกระจัดกระจาย สังกะสีระเนระนาด ซึ่งติดกับประตูทางเข้า-ออก ของผู้บริหารระดับสูงของพรรคภูมิใจไทย
ขณะที่รถซาเล้งของนายเอนกโดนแรงอัดระเบิดพังยับเยินและกระเด็นไปทั่วบริเวณดังกล่าวพร้อมกับเศษเงาะเกลื่อนเต็มถนน เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเกิดจากแก๊สระเบิด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ นำโดย พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (ผบก.น.2) พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน เข้ามาตรวจสอบพิสูจน์หลักฐานนานกว่า 2 ชั่วโมง
พล.ต.ต.สาโรจน์เผยภายหลังตรวจสภาพที่เกิดเหตุว่า เบื้องต้นนายเอนกได้ให้ปากคำระหว่างเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลภูมิพลว่า ได้รับการว่าจ้างให้นำรถเข็นผลไม้มาจอดที่ทำการพรรคภูมิใจไทย โดยที่ตนเองไม่ทราบว่ามีระเบิดและยังไม่ได้บอกว่าใครเป็นผู้ว่าจ้าง และจ้างมาในวงเงินเท่าใด อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นสั่งให้มาจอดที่หน้าพรรคภูมิไทย แต่เนื่องจากฝนตกจึงไปหลบบริเวณซอยด้านข้างพรรคแทน โดยคิดว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องการเมือง เป้าหมายคือพรรคภูมิใจไทย
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงเหตุระเบิดข้างที่ทำการพรรคว่า ไม่ทราบว่าเป็นการก่อกวนหรือไม่ ซึ่งตนก็ยังไม่ได้ดูที่เกิดเหตุ แต่ทราบว่าเหตุเกิดเป็นบริเวณด้านหน้าพรรค ไม่ได้อยู่ในบริเวณพรรค ไม่ได้เสียหาย ซึ่งอาจจะเป็นอุบัติเหตุธรรมดาก็ได้ แต่ต้องมีการตรวจสอบก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมหรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวว่า ถ้าเป็นเรื่องทางการเมือง เรื่องนี้ต้องมีการประชุมหารือกัน แต่หากเป็นเรื่องการทะเลาะวิวาทระหว่างผู้ค้า ก็มีความเป็นไปได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นก็ต้องดูก่อนว่าจริงๆ แล้วเป็นอะไร
ภูมิใจไทยเชื่อวางระเบิด
เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าคนร้ายใช้ถังแก๊ส 15 กก. โดยมีเป้าหมายที่จะระเบิดที่ทำการพรรคภูมิใจไทย นายชวรัตน์กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะรุนแรงแค่ไหน แต่จะไปตรวจสอบดู ตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานอะไร “ผมเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เบื้องต้นก็ต้องสันนิษฐานว่าเป็นการวางระเบิดก่อน”
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงเหตุระเบิดรถเข็นขายผลไม้บริเวณด้านข้างพรรคภูมิใจไทย ว่ามีข้อสังเกตว่าบริเวณที่เกิดเหตุเป็นที่เข้า-ออกของผู้ใหญ่ในพรรคภูมิใจไทย และหากตั้งใจให้เกิดเหตุร้ายต่อพรรค ก็ต้องอยู่ที่การดำเนินการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อสันนิษฐานว่าเมื่อระเบิดแล้วมีการบรรทุกปุ๋ยยูเรีย และมีกลิ่นน้ำมันโซลาอยู่ด้วย โดยมุ่งให้เกิดความเสียหายต่อสถานที่ทำการพรรค ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบ ส่วนการขยายผลการสอบสวนยังไม่ได้รับรายงาน
“ขณะนี้ทราบว่าทาง ผกก.สน.บางเขนได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้แล้ว หากมีการซัดทอดไปยังผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ผู้ว่าจ้าง หรือจ้างวานได้ วันนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าเป็นวันพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก และแกนนำ นปช. ก็ไม่มั่นใจว่าจะมีเรื่องโยงกันหรือไม่” นายศุภชัยกล่าว
“ภท.”ปัดพัลวันวางบึ้มเอง
ผู้สื่อข่าวซักว่า คาดคะเนไหมว่าจะมีการโยนระเบิดเอง นายศุภชัยกล่าวว่า ไม่มีเงื่อนไขอะไร วันนี้สิ่งที่พรรคต้องการคือต้องการอยู่สงบๆ ไม่ต้องการให้มีข่าวอะไร ทำงานเพื่อบ้านเมืองโดยไม่ตีปี๊บอยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลกลใดที่จะโยนเอง โยนแล้วทางพรรคภูมิใจไทยจะได้อะไร ได้ค่าประกันค่ารั้วหรือไม่มีการสร้างกระแส
ช่วงเย็นวันเดียวกัน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. แถลงผลการประชุม ศอฉ.ว่า กรณีระเบิดถังแก๊สข้างที่ทำการพรรคภูมิใจไทยนั้น ที่ประชุม พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบพบว่าเจ้าของรถเข็นคันเกิดเหตุรับสารภาพว่า ได้รับจ้างจากบุคคลที่แหลมฉบัง จ.ชลบุรี มาดำเนินการในลักษณะสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวาย โดยใช้วิธีการนำน้ำมันใส่เข้าไปในถังแก๊สเพื่อกำหนดว่าจะดำเนินการจุดระเบิดโดยรีโมตคอนโทรล แต่ปรากฏว่าระเบิดก่อนเวลา ทำให้เจ้าของรถที่รับจ้างมาที่ได้รับอันตรายจากการระเบิด ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนในรายละเอียด
พ.อ.สรรเสริญกล่าวต่อว่า สำหรับการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่นั้น พ.อ.สรรเสริญบอกว่า ขณะนี้ใกล้วันที่กำหนดไว้ว่าจะต้องได้ข้อยุติคือวันที่ 23-25 มิ.ย.นี้ รมว.กลาโหมจึงทวงข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งจากกองทัพภาค กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้มีการตกลงกันก่อนหน้านี้ว่าให้แต่ละหน่วยงานไปประเมินสถานการณ์ และดูว่าการปฏิบัติภารกิจแต่ละหน่วยได้ตั้งเป้าหมายไว้แค่ไหน อย่างไร จึงจะหมดความจำเป็นในการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยให้หน่วยต่างๆ เร่งส่งข้อมูลมาที่ฝ่ายเลขาธิการ ศอฉ.เพื่อรวบรวม และทำเป็นความเห็นส่วนรวมของ ศอฉ.เสนอต่อรัฐบาล โดยจะส่งทันก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 6 ก.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุระเบิดพรรคภูมิใจไทยมีนัยทางการเมืองหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญโฆษก ศอฉ.ตอบว่า ที่ประชุมไม่ได้มีการลงรายละเอียด เพียงแต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รายงานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างสถานการณ์ และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสารภาพว่ารับงานมา ดังนั้น รมว.กลาโหมจึงกำชับในที่ประชุมว่าในช่วงที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินทุกฝ่าย ต้องมีการดำเนินการด้านการข่าวให้ มีความลึกซึ้งในข้อมูลเพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุร้ายอย่างนี้เกิดขึ้น
หน่วยข่าวเตือน”แดง”แรง
“หน่วยข่าว ศอฉ.มีข้อมูลข่าวสารรายงานว่า มีความพยายามเคลื่อนไหวว่าจะเป็นบรรดาแกนนำ นปช.ในพื้นที่ กับฝ่ายการเมืองของพรรคการเมืองหนึ่งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีการพบปะติดต่อกัน แม้ขณะนี้ประกาศ พ.ร.ก.อยู่ แต่มีความพยายามในการสร้างสถานการณ์ ดังนั้นทุกฝ่ายต้องดูแลด้านการข่าวของตัวเอง เพราะอาจทำให้ประชาชนทั่วไปเกิดความรู้สึกกังวลได้ว่า แม้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ แต่ยังเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ได้” โฆษก ศอฉ.กล่าว
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้มีมาตรการที่ชัดเจนถึงแนวทางปฏิบัติในพื้นที่ที่จะมีการเลือกตั้งท่ามกลางการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่าที่ผ่านมาเคยจัดการเลือกตั้งในพื้นที่ที่มีการประกาศ พ.ร.ก.หลายครั้งแล้ว ซึ่งไม่เคยมีปัญหาอะไร ทั้งการเลือกตั้ง ส.ข.และในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนั้นแม้จะมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็จะไม่เป็นอุปสรรค และไม่มีผลต่อการเลือกตั้ง
“กติกาที่กำหนดไว้จะเปิดโอกาสให้ทุกคนอย่างเต็มที่อยู่แล้ว รวมทั้งการปราศรัยหาเสียงที่จะมีประชาชนมาฟังการปราศรัยเกิน 5 คนนั้นก็คงไม่มีปัญหา เพราะเหมือนกับเวลาที่มีการจัดกิจกรรมการประชุม ซึ่งสามารถทำได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับเจตนา และจะสามารถออกแนวทางปฏิบัติได้ อย่างที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็มีการปราศรัยกันปกติ ไม่ได้มีปัญหาอะไร มีการรณรงค์หาเสียงได้ ไม่มีข้อจำกัดอะไร” นายกฯ กล่าว และย้ำว่าคงไม่มีความจำเป็นต้องยกเลิกการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในบางพื้นที่ ทั้งในอดีต กกต.เคยจัดการเลือกตั้งในพื้นที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ว่าเวทีการเลือกตั้งซ่อมจะกลายเป็นเวทีในการปลุกปั่นให้กลุ่มคนเสื้อแดง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ความพยายามของคนบางกลุ่มที่จะปลุกปั่นหรือยั่วยุก็มีอยู่แล้วในหลายรูปแบบ แต่ไม่คิดว่าจะกลายเป็นชนวนให้ความรุนแรงปะทุขึ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตามหากมีการยกเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้นมาในช่วงหาเสียงจนทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด และมีอารมณ์รุนแรงขึ้นมาอีกก็เป็นไปได้
“ผมอยากเห็นการทำงานทางการเมืองบนความรับผิดชอบ ซึ่งแม้มีความคิดเห็นหรือการแข่งขันทางการเมือง ก็เชื่อว่าสามารถทำได้โดยจะไม่นำไปสู่ความรุนแรง หรือกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง โดยหลังจากการเลือกตั้งเหตุการณ์ทุกอย่างน่าจะเรียบร้อย เพราะกระบวนการประชาธิปไตยต้องอยู่บนพื้นฐาน อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย และสงบเรียบร้อย”
“มาร์ค”โวนานาชาติยอมรับ
นายกฯ ยังกล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (เอชอาร์ซี) สมัยที่ 14 มีมติเลือกให้นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรแห่งประเทศไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นประธานเอชอาร์ซี ว่าเรื่องนี้เป็นการยืนยันว่าต่างประเทศเข้าใจสถานการณ์ของประเทศไทย ซึ่งมีกว่า 40 ประเทศที่ให้การสนับสนุน
ต่อข้อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีการว่าจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ต่างประเทศ จำเป็นหรือไม่ที่เราต้องว่าจ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ นายอภิสิทธิ์บอกว่า ทุกคนก็พยายามหาทางหรือใช้เครือข่ายต่างๆ และที่น่าดีใจคราวนี้คือ ตนได้เห็นประชาชนธรรมดาใช้เครือข่ายของตัวเองผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในการพยายามทำความเข้าใจกับชาวโลกด้วย
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) กล่าวถึงการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินขณะมีการเลือกตั้งซ่อมว่า ก็สามารถดำเนินการไปได้ ทาง ศอฉ.จะดูข้อกำหนดว่ามีอะไรเป็นปัญหาอุปสรรคสำหรับการหาเสียงเลือกตั้งหรือไม่อย่างไรก็จะได้พิจารณา กำลังดำเนินการ โดยรอหนังสือขอหารือจาก กกต.อยู่
“อย่างไรก็ตาม ผมสั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของ ศอฉ.ได้เตรียมการเอาไว้แล้ว เราจะพิจารณาแก้ไขข้อกำหนดเดิมเรื่องการห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ซึ่งถ้าผู้สมัครรับเลือกตั้งมีการหาเสียงโดยบริสุทธิ์ใจก็ไม่ควรที่จะต้องมากังวลในเรื่องนี้” นายสุเทพกล่าว และว่า ทันทีที่ตนและ ศอฉ.มั่นใจว่าประเทศปลอดภัยจะยกเลิกทันที และไม่มีเจตนาดึงเรื่องนี้ให้ยืดเยื้อ
เผยเสื้อแดงยังป่วนต่อเนื่อง
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประเมินถึงสถานการณ์การเมืองไปถึงสิ้นปีว่า ยังคงจะมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองโดยจะมีการเปิดประเด็นเพื่อสร้างกระแสออกมาอย่างต่อเนื่อง ในรูปแบบที่แตกต่างจากการชุมนุมใหญ่ คงแตกต่างจากเดิมที่เป็นเรื่อง 2 มาตรฐาน อำมาตย์ รัฐบาลนายกฯ ไม่เป็นประชาธิปไตย ที่ผ่านมาเขาเปิดประเด็นสร้างกระแสได้ดีพอสมควร เพราะมีเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะกลไกด้านการสื่อสารที่ทำงานเป็นระบบทั้งในและต่างประเทศ แต่เมื่อเราประกาศใช้ พ.ร.ก. ก็ทำให้ขบวนการยุบตัวไปบ้าง
เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้ที่จะกลับมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ นายปณิธานกล่าวว่า ต้องดูหลายตัวแปร แต่การจุดประเด็นเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แผนปรองดองรัฐบาล การทุจริตคอรัปชั่นโครงการต่างๆ ที่จะโยงไปถึงพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อจุดกระแส แต่จะถึงขั้นระดมคนได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
“การยังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะทำให้เกิดเสถียรภาพและช่วยควบคุมในประเด็นที่เขาไม่ทำผิดกฎหมายได้ ถ้ายกเลิกทีวีของเขาจะเปิดได้ทันที อีกทั้งรัฐบาลก็ไม่อยากเห็นภาพเมื่อยกเลิก พ.ร.ก.แล้ว เขากลับมาชุมนุมใหม่ แล้วเราต้องมาประกาศอีกครั้ง” นายปณิธานกล่าว
ถามว่าแกนนำบางคนที่ยังหลบหนี นายปณิธานบอกว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเบาะแสเข้ามาเยอะ ซึ่งมีทั้งแกนนำหลักและแกนนำรอง โดยเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบครบทุกภาคที่สงสัยว่าเขาอาจเข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่คุ้นเคย ที่เป็นเขตอิทธิพลของเครือญาติ มีมวลชนสนับสนุนอยู่ อย่างไรก็ตามเขามีระบบแจ้งเตือนที่ดี จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบยาก เข้าไม่ถึงตัว เมื่อเข้าไปบางพื้นที่แล้วอยู่นานไม่ได้เพราะเป็นพื้นที่ไม่คุ้นเคย เกรงไม่ได้รับความปลอดภัย
พบอุปสรรคล่าตัวหัวโจกแดง
“เขาไหวตัวเร็วมาก เมื่อเข้าไปก็จะเคลื่อนไหวจากจุดหนึ่งไปอีกจุดทันที ทำให้เราไม่สามารถปูพรมเข้าตรวจค้นได้ แต่แกนนำหลักหลายคนเชื่อว่ายังอยู่ในประเทศไทย โดยที่บางคนยังอยู่ใน กทม. ส่วนการเคลื่อนไหวในต่างประเทศนั้น ยอมรับว่ามีแกนนำอีกส่วนยังเคลื่อนไหวต่างประเทศอยู่ในพื้นที่หลักไม่เกิน 5 แห่ง ที่ผ่านมาตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมีบัญชีแต่ละคนอยู่แล้วในการตรวจสอบการเดินทางเข้า-ออก รวมทั้งพื้นที่ตะเข็บชายแดนที่เราต้องเฝ้าระวัง” นายปณิธานกล่าว
นายปณิธานเผยด้วยว่า นายคณิต ณ นคร ได้ขอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบขยายเวลาในการสรรหาคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติต่อไปอีก 15 วัน เนื่องจากการดำเนินการในการจัดตั้ง และการทำงานในแง่ของการปรองดอง สมานฉันท์ และเยียวยา เป็นเรื่องที่มีขั้นตอนการดำเนินการอย่างกว้างขวาง เป็นกระบวนการที่ต้องทั้งแสวงหาความจริง ต้องคิดหากระบวนการเยียวยาและกระบวนการปรองดอง ซึ่งจะต้องปรึกษาหารือกับหลายฝ่าย
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แถลงว่า สำหรับการคัดเลือกตัวผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 6 นั้น ในวันพุธนี้พรรคเพื่อไทยจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อมีมติที่ชัดเจนว่าจะให้ใครเป็นผู้สมัครของพรรค เบื้องต้นนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หนึ่งในผู้เสนอตัวได้เตรียมเอกสารหลักฐานต่างๆ ไว้พร้อมแล้ว และแน่นอนว่าเมื่อคณะกรรมการบริหารพรรคมีมติชัดเจน เราก็จะให้ทีมกฎหมายได้ทำเรื่องขออนุญาตต่อศาลให้นายณัฐวุฒิออกมาสมัครลงเลือกตั้งซ่อม
“ก็อยู่ที่ศาลว่าจะอนุญาตให้นายณัฐวุฒิออกมาสมัครหรือไม่ เชื่อว่ากระบวนการต่างๆ จะไม่มีปัญหาในการสมัคร ซึ่งเมื่อสมัครแล้วก็เข้าสู่กระบวนการหาเสียง ก็จะมีผมพร้อมด้วยเพื่อน ส.ส. คณะกรรมการบริหาร จะได้ออกมาช่วยกันหาเสียงแทนทุกคน จะช่วยกันไม่เป็นปัญหาถ้าทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ก็จะเป็นการเลือกตั้งครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่สนใจไปทั่วโลก เพราะเป็นผู้สมัครที่อยู่ในคุกแล้วให้คนอื่นมาช่วยหาเสียงให้” นายจตุพรกล่าว
ไว้อาลัย”ขัตติยะ สวัสดิผล”
วันเดียวกัน ที่วัดโสมนัสราชวรวิหาร ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก พ.อ.ชลิต ชุณหรัชพันธ์ เป็นผู้นำไฟพระราชทานมายังเมรุ โดยมี พล.ท.ประสิทธิ์ โยธีพิทักษ์ ตัวแทน จปร.รุ่น 7 เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย น.ส.กิตติยา สวัสดิผล และ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล บุตรสาวทั้ง 2 คนได้ร่วมรับไฟพระราชทาน
บรรยากาศภายในงานมีนายทหารและตำรวจ มาให้การรักษาความปลอดภัย โดย พล.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบช.น.1 มาคอยอำนวยความสะดวก โดยมีประชาชนเข้าร่วมกว่า 5,000 คน ทั้งนี้ มีสามเณรบวชหน้าไฟจำนวน 33 รูป เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ พล.ต.ขัตติยะ ในระหว่างที่ประธานในพิธีอัญเชิญไฟพระราชทานสู่เมรุ กองทหารเกียรติยศได้เป่าแตร เพื่อให้เกียรติแก่ผู้เสียชีวิต
นอกจากนี้ นายจตุรนต์ ฉายแสง, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย, พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้าร่วมงานพระราชทานเพลิงศพเสธ.แดงด้วย
น.ส.ขัตติยา บุตรสาวคนเล็กของ พล.ต.ขัตติยะ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีพระราชทานเพลิงศพบิดาว่า จะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมากขึ้นว่ามีความคืบหน้าในคดีคนร้ายลอบยิงบิดาไปถึงไหนแล้ว รู้สึกเห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากมีหลักฐานน้อยมาก แต่จะพยายามรวบรวมให้ได้มากที่สุด ส่วนจะคาดหวังแค่ไหนนั้น ต้องไปถามรัฐบาล แต่ส่วนตัวคาดหวังน้อยมากว่าจะได้ตัวคนผิด แต่จะพยายามเพื่อพ่อ ถ้ามีความคืบหน้าในการรวบรวมหลักฐานอย่างไรก็จะส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ใหญ่ในกองทัพให้ความช่วยเหลืออย่างไรบ้าง น.ส.ขัตติยาบอกว่า ไม่มีเลย ชีวิตต่อไปต้องย้ายออกจากบ้านพักภายในกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ (ม.พัน 4 รอ.) และดำเนินชีวิตตามปกติโดยไม่มีทั้งพ่อและแม่
ส่วนกรณีเด็กชายอายุ 5 ขวบชื่อ ด.ช.นักรบ สวัสดิผล ซึ่งระบุว่าเป็นลูกชายเสธ.แดงนั้น น.ส.ขัตติยากล่าวว่า ทางญาติๆ ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน ขอปรึกษากับทางญาติว่าเกิดอะไรขึ้น ขอปรึกษาญาติ แต่ไม่ขอตอบคำถามเนื่องจากสภาพจิตใจตนและพี่สาวตอนนี้บอบช้ำทางสภาพจิตใจ แย่มาก ขอปรึกษาว่าเกิดอะไรขึ้น ตนและพี่สาวไม่เคยทราบเรื่องเด็กผู้ชายคนดังกล่าวมาก่อนเลย
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1084 ครั้ง