วันที่ 6 พ.ค. นายฟิเดล คาสโตร อดีตผู้นำของคิวบา ขนานนามการตายของอุซามะห์ บินลาดินว่า เป็นปฏิบัติการลอบฆ่าที่ “น่ารังเกียจ” ชี้ยิ่งจะก่อความเกลียดชังและความอาฆาตต่อสหรัฐฯ โดยเฉพาะมันเกิดขึ้นต่อหน้าภรรยาและลูกๆของแกนนำอัลกออิดะห์รายนี้
“ไม่ว่าปฏิบัติการใดก็ตามและไม่ว่าเขาคือบินลาดินหรือไม่ การฆาตกรรมคนมือเปล่าที่ห้อมล้อมด้วยครอบครัวของคนๆนั้น ถือว่าเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจสิ้นดี” คาสโตรเขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์
คาสโตร ผู้ปกครองคิวบามายาวนานหลายทศวรรษ ยังเตือนด้วยว่าหลังจากช่วงเวลาอิ่มเอิบในเบื้องต้นแล้ว สหรัฐฯจะถูกวิพาษณ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางต่อวิธีสังหารบินลาดินและลงเอยด้วยความรู้สึกเกลียดชิงและความพยาบาทที่เพิ่มขึ้นทวีคูณ
“การฆ่าเขาและนำร่างของเขาทิ้งลงก้นทะเลแสดงให้เห็นถึงความหวั่นกลัวและอ่อนแอ และยิ่งจะทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่อันตรายมากขึ้นกว่าเดิม” คาสโตรระบุ
ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ ได้เดินทางเยือนกราวนด์ซีโร่ เพื่อความแนบแน่นกับอเมริกันชนที่ยังคงฝังใจกับเหตุการณ์โจมตีก่อการร้าย9/11 ไม่กี่วันหลังกองกำลังสหรัฐฯสังหารอุซามะห์ บินลาดิน
ในการเยือนดังกล่าว โอบามา ประกอบพิธีวางพวงหรีดดอกไม้สีแดง ขาวและน้ำเงิน ณ กราวด์ซีโร พร้อมก้มศีรษะทำความเคารพและจากนั้นก็ยืนสงบนิ่งไว้อาลัย ณ จุดที่ตึกแฝดเวิลด์ เทรด เซนเตอร์ เคยยืนตระหง่าน จนกระทั่งพังทลายลงหลังถูกเครื่องบินที่กลุ่มอัลกออิดะห์จี้พุ่งชนในปี 2001
นับเป็นครั้งแรกที่ โอบามา เยือนกราวด์ซีโร ในฐานะประธานาธิบดี และต่อมาเขาก็พบปะพูดคุยกับญาติของผู้เสียชีวิตในเหตุโจมตี9/11 หลังจากก่อนหน้านี้แอบแวะไปเจอกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและตำรวจผู้เสียสละและต้องสูญเสียเพื่อนร่วมงานไปจำนวนมากในโศกนาฏกรรมครั้งนั้น
สำหรับคนที่จะมีแทนอูซาะมะห์ บินลาดิน มีการเก็งไว้หลายคน อาทิ นายแพทย์ อัยมาน อัลซาวาฮิรี ชาวไคโร อียิปต์ ที่ทำงานใกล้ชิดบินลาดินมากที่สุด ตั้งแต่การสู้รบกับโซเวียตในอัฟกานิสถาน คนที่ 2 ซึ่งมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน อันวาร์ อัล-อาวลากิ ซึ่งเกิดในนิวเม็กซิโก ซึ่งปัจจุบันเป็นโฆษกของกลุ่มอัลกอิอดะห์ ในภาคพื้นที่อารเบียน ซึ่งเชื่อกันว่า เขามีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับอเมริกา ส่วนคนที่ 3 อาบู ยะห์หยา อัล-ลิบี เป็นผู้ด้านความคิดของอัลกออิดะห์ เคยร่วมรบในสงครามอัฟกานิสถานเช่นเดียวกัน เขามีบทบาทในการต่อต้านในยุโรปและอเมริกาเหนือ ซึ่งใครขึ้นมาเป็นผู้นำก็จะเปลี่ยนโฉมหน้าของขบวนการอัลกออิดะห์
เยาวชนชาวปาเลสไตน์ ประท้วงการกระทำของสหรัฐฯ
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1198 ครั้ง