“ภักดี มะแอ” นักการศาสนา นักธุรกิจชื่อดังได้ประกาศตัวชัดเจน ที่จะก้าวสู่เส้นทางการเมือง ด้วยการเข้าร่วมงานกับพรรคมาตุภูมิ ที่มี พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน เป็นหัวหน้าพรรค เพื่อร่วมขับเคลื่อนสังคมมุสลิมไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
“ภักดี มะแอ” เป็นมุสลิมที่ทุ่มเทให้กับสังคมมุสลิม ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาได้บริจาคทรัพย์สิน และเสียสละเวลา เพื่อสังคมมุสลิมอย่างจริงๆจังๆ เดินสายเปิดงานให้ความรู้กับสังคมมุสลิมจนคิวแน่น สลับกับการบินไปบริหารสายการบินที่ซาอุดิอารเบีย ในฐานะผู้บริหารสายการบินภูเก็ตแอร์ ที่สายการบินซาดุ เช่าไปให้บริการ ขณะเดียวกัน ก็มีดาน่า กรุ๊ป ธุรกิจของครอบครัว เขาจึงเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และเป็นนักการศาสนา ที่ได้รับการยอมรับจากนักการศาสนาและชาวมุสลิมทั่วไป การตัดสินใจกระโจนเข้าสู่การเมืองกับพรรคมาตุภูมิของภักดี มะแอ ทำให้เขาได้รับคำถามจากสังคมมุสลิมและย่อมทำให้คนที่สนับสนุนพรรคการเมืองอื่นย่อมไม่เห็นด้วย“สิ่งที่ผมทำอยู่ ก็คือ การทำงานการเมือง เพียงแต่เป็นการทำงานการเมืองภาคประชาชน ทำเพื่อผลประโยชน์ของสังคม โดยเฉพาะสังคมมุสลิม การเข้าร่วมกับพรรคมาตุภูมิ ก็เป็นการทำงานการเมืองที่เป็นทางการ การเมืองนั้นเชื่อมโยงทุกอย่าง และตอนนี้ ก็เป็นโอกาสดี ที่เรามีพรรคการเมืองที่มีมุสลิมเป็นหัวหน้าพรรค ก่อนหน้านี้ ก็เคยพูดกับคนอื่นๆว่า ต้องช่วยกัน แต่มาคิดว่า เราบอกคนอื่น แต่เราไม่ทำ ดูกระไรอยู่ ก็เลยกระโจนเข้ามาเลย ให้คนอื่นเห็นว่า เรามี่ได้พูดอย่างเดียว แต่ต้องการทำให้เป็นรูปธรรมด้วย” เขา กล่าวภักดี มะแอ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เคยพูดกับพี่น้องมุสลิมว่า ที่ได้ออกงานมากมายนั้น ไม่ได้มีจุดประสงค์อื่น นอกจากเพื่อช่วยเหลือสังคมมุสลิม ให้สังคมมุสลิมมีความเข้มแข็ง มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เมื่อตัดสินใจเข้าสู่การเมือง ก็มีคนโทรศัพท์เข้ามาสอบถามเยอะ บางคนบอกว่า ทำไมไม่บอก บางคนเดินทางมาที่ศูนย์(ประสานงาน ที่หนองจอก) มาเอาบัตรเชิญไปแจกจ่ายเพื่อนฝูง มีเสียงถามไถ่เข้ามาเยอะมาก ส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยว่า ถึงเวลาที่มุสลิมจะต้องรวมตัวกันทำงานการเมือง เพื่อผลักดันให้สังคมมุสลิมมีความเข้มแข็ง อยู่ในสังคมอย่างมีศักดิ์ศรี เพราะมีหลายอย่างที่เราจะต้องเข้าไปแก้ไข อาศัยคนอื่น เข้าไม่เข้าใจเราเหมือนที่เราเข้าใจ “เมื่อได้คุยกับพล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ก็มีความคิดเห็นตรงกันถึงทิศทางการขับเคลื่อนสังคมขับเคลื่อนประเทศ เราตกลงเข้าร่วมงานกับพรรคมาตุภูมิ เพราะเรามีตัวอย่างจากกลุ่มวาดะห์ ที่รวมตัวกันแล้วสามารถผลักดันอะไรได้ แต่หากเราแตกแยกกันอย่างที่เป็นอยู่ ก็ไม่มีพลังที่จะผลักดันอีกทั้งพล.อ.สนธิ ก็เป็นคนที่มีศักยภาพสูง ประสบความสำเร็จในการรับราชการ ได้รับการนยอมรับทั้งมุสลิมและคนที่ไม่ใช่มุสลิม เมื่อบ้านเมืองมีปัญหา ก็กล้าตัดสินใจ เพื่อไม่ให้เกิดนองเลือด และนำประเทศสู่การปฏิรูป ผมเห็นว่า ความกล้าหาญมีความสำคัญในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง อีกทั้งมาตุภูมิ ก็เป็นพรรคการเมืองสายกลาง มีความประนีประนอมสูง และเป็นพรรคพหุวัฒนธรรม แม้หัวหน้าพรรคเป็นมุสลิม แต่ก็รวมคนจากหลากหลายกลุ่ม วัฒนธรรมเข้ามาอยู่ด้วย ไม่เฉพาะภาคใต้ แต่มีทั้งภาคเหนือ อีสาน ” ภักดี กล่าว เขา กล่าวว่า มีคนถามว่า ทำไมออกจากพรรคการเมืองใหญ่ พรรคการเมืองเก่าแก่ ก็เพราะพรรคการเมืองเก่าแก่ ก็เก่าแก่จริงๆ คนก็เก่า นโยบายก็เก่า ต้องเข้าคิวยาว กับคุณสมัย เจริญช่าง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ก็สนิทสนมกัน ก็ไม่มีปัญหาอะไรกัน ถือว่า ต่างคนต่างทำงาน “ผมไม่มีความขัดแย้งกับใคร ที่มองว่า มิตรบางคน เมื่อเห็นเราเล่นการเมืองเมือง แล้วจะทำให้ความเป็นมิตรหายไปนั้น ก็ต้องทำความเข้าใจให้รับทราบถึงความจำเป็นว่า ทำไมต้องเล่นการเมือง ทำไมต้องเข้ามาอยู่พรรคมาตุภูมิ อย่างที่เรียน เพราะเราต้องการขับเคลื่อนการสร้างสังคมมุสลิมอย่างเป็นระบบ การมีอำนาจทางการเมือง จะสามารถทำได้มากกว่า สังคมจะได้ประโยชน์มากกว่า สิ่งที่ผมทำอยู่ก็เป็นประโยชน์ แต่จะได้ผลน้อยกว่ากับการอาศัยอำนาจทางการเมือง เราต้องมองผ่านการทำงานการเมืองว่า ไม่ได้ทำเพื่อพรรค แต่ทำเพื่อสังคม เพื่อประเทศชาติ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า หลังการเลือกตั้งพรรคมาตุภูมิคงมีโอกาสเข้าร่วมรัฐบาล เพราะฉะนั้น สิ่งที่เราคิดจะทำ ก็คงจะสามารถทำได้ เราเอาสังคมเป็นที่ตั้ง ไม่ได้เอาส่วนตัว หรือเอาพรรคเป็นที่ตั้ง ซึ่งถ้าเราทำได้ดี ที่คิดว่า จะเสียมิตรไป อาจได้มิตรเพิ่มขึ้นมาก็ได้” ภักดี กล่าว
ประธานชมรมอิหม่ามมัสยิดหนอกจอก ที่ผันตัวเองสู่เส้นทางการเมือง กล่าวว่า สังคมของเรามีปัญหาต่อเนื่องหลายอย่าง แต่คนแก้ปัญหาขาดความจริงใจ ในการแก้ไขปัญหา ทำให้ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขทำให้ประเทศชาติสูญเสียผลประโยชน์ ยกตัวอย่างปัญหาความสัมพันธ์กับประเทศซาอุดิอารเบีย การที่ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขจนล่วงเลยมา 20 ปี เพราะรัฐบาลขาดความจริงใจ เขามองว่า เราไม่มีความจริงใจ ถ้าเรามีความจริงใจ เขาก็พร้อมที่จะรับ ซึ่งมาตุภูมิมีแนวทางที่จะแก้ไข“หากเรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับซาอุฯ เราไม่ต้องทำอะไรเลย หลายสิ่งหลายอย่างก็จะเข้ามาในประเทศเรา ทั้งการลงทุนมูลค่ามหาศาล ที่จะนำไปสู่การจ้างงานจำนวนมาก เพราะไม่ใช่ซาอุฯประเทศเดียว มีประเทศรอบๆด้วย คนซาอุฯ อยากมาประเทศไทย อยากมาท่องเที่ยว มาลงทุน แต่รัฐบาลห้ามเข้ามา ทำให้เราสูญเสียโอกาส เพราะคนซาอุฯ มีกำลังซื้อสูง แค่เขามาท่องเที่ยว ก็นำเงินเข้าประเทศไม่รู้เท่าไหร่แล้ว แต่รัฐบาลที่ผ่านมาไม่ให้ความสำคัญและขาดความจริงใจ ปัญหาจึงไม่ได้รับการแก้ไข เราอยากเข้าไปทำตรงนี้ให้สำเร็จ” ภักดี กล่าว“ตอนนี้ถึงเวลาแล้ว ที่มุสลิมต้องมาช่วยกัน โดยมีมาตุภูมิ เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงพวกเราเข้าด้วยกัน เราต้องจับมือกันทำให้สังคมมีความเข้มแข็ง ในวันที่เปิดศูนย์ประสานงานพรรค ผมเห็นแววตาของคนที่มาร่วมงานมีความหวัง เป็นภาพที่ทุกคนอยากให้เกิด สังคมมุสลิมต้องการสิ่งนี้ ต้องการการรวมตัวกันที่จะผลักดันสังคมมุสลิมให้ดีขึ้น ซึ่งเราจะเป็นผู้นำ เป็นคู่คิด ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับพวกเขา ทำหน้าที่เพื่อสังคม เพื่อส่วนรวม ด้วยเป้าหมายเดียวกัน คือ ทำให้สังคมดีขึ้น” เขา กล่าว นี่เป็นปณิธาน ของคนที่ชื่อภักดี มะแอ ในวันที่เขาก้าวจากนักธุรกิจ นักการศาสนา ไปสู่นักการเมือง เส้นทางเดินของเขาจะสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความโปรดปรานของแห่งพระผู้เป็นเจ้า….
คลุกวงใน สมัย-ภักดี แตกคอเป็นที่รับรู้กันดีว่า สมัย เจริญช่าง ส.ส.กทม.ประชาธิปัตย์ ภักดี มะแอ สนิทสนมและพึ่งพามาโดยตลอด สาขาพรรคประชาธิปัตย์ ของนายสมัย ก็ใช้อาคารของนายภักดี โดยในพื้นที่หนอกจอก ภักดี เป็นบุคคลที่มุสลิมให้การยอมรับ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ จึงต้องการให้ลงสมัคร ส.ก.แข่งกับพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา โดยทั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายกรณ์ จาติกวณิข และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน โทรศัพท์ไปชักชวนนายภักดี เพื่อให้นายภักดี ไปลงแข่งกับ ส.ก.ของพรรคเพื่อไทย ที่ครองตำแหน่งมาหลายสมัย เพื่อจะปูพื้นฐานสู่การได้ ส.ส.ที่เป็นของเพื่อไทยอยู่ แต่นายภักดี ได้ปฏิเสธ โดยก่อนลงสมัคร ส.ก. 1 วันนายภักดี ได้นำลูกเดินทางไปยุโรป ซึ่งเป็นกำหนดการที่วางไว้นานแล้ว ทำให้นายสมัย ไม่พอใจ ไปปราศรัยในงานมัสยิดหลายที่ว่า มีคนรับปากว่าจะลงส.ก.แต่พอถึงเวลาก็ “คาบลูก”ไปยุโรป ซึ่งคำว่า คาบลูก ทำให้นายภักดี ไม่พอใจ ขณะเดียวกันในระหว่างเลือกตั้ง ผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคเพื่อไทย ได้ไปหานายภักดีที่บ้านทุกวัน ตามประสาคนรู้จักและเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งที่ต้องการให้คนเข้าใจว่า นายภักดี สนับสนุนพรรคเพื่อไทย สุดท้าย ผู้สมัครของประชาธิปัตย์สอบตก นายสมัย ได้ย้ายสาขาขากอาคารของนายภักดีออกไป เมื่อได้รับการชักชวนจากพล.อ.สนธิ นายภักดี จึงตัดสินใจมาอยู่กับพรรคมาตุภูมิในที่สุด
วันเปิดศูนย์ประสานงานที่หนองจอก มุสลิมมากันหนาแน่น
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 2858 ครั้ง