การเดินเกมของพรรคการเมืองขั้วที่สามน่าสนใจ โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทยของเนวิน ชิดชอบ ที่คาดว่าจะได้รับเลือกมากสุดในบรรดาพรรคขนาดกลาง…..
เมื่อ 2 พรรคใหญ่ ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย เปิดตัวคู่ชิงนายกฯ แล้ว นายกฯ คนใหม่ หนีไม่พ้น “อภิสิทธิ์-ยิ่งลักษณ์” แต่อาจมีรูเล็กสำหรับนายกฯ จากพรรคที่สามเพื่อคลายล็อกกับทางตันที่อาจเกิดขึ้น
การเดินเกมของพรรคการเมืองขั้วที่สามน่าสนใจ โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทยของเนวิน ชิดชอบ ที่คาดว่าจะได้รับเลือกมากสุดในบรรดาพรรคขนาดกลาง ภูมิใจไทยเป็นตัวชี้ขาดว่าขั้วใดจะได้ตั้งรัฐบาล ถ้าได้ตามเป้า 70 ที่นั่งทั่วประเทศ ก็น่าจะปิดฉากเพื่อไทยตั้งรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร ตั้งเป้าว่าจะปั่นยอดสส.อีสานให้ได้ 100 จาก 126 เสียง แต่ถ้าเนวินบล็อกได้ โอกาสที่ภูมิใจไทยจะกลับมาร่วมรัฐบาลร่วมกับประชาธิปัตย์ก็มีสูง
น่าสนใจตรงที่ ภูมิใจไทยมีจุดแข็งเรื่องกลไกท้องถิ่นที่ดูแลกระทรวงมหาดไทย บวกกับกระสุนที่มีทุนพร้อมทั้งกลุ่มทุนจากค่ายซิโน-ไทย ยักษ์ใหญ่รับเหมาก่อสร้างของปู่จิ้น ชวรัตน์ ชาญวีรกูล กลุ่มคิงเพาเวอร์ และทุนของเนวิน
ที่เหลือเป็นทุนจากกลุ่มก๊วนในพรรค ที่รับผิดชอบพื้นที่หัวเมืองต่างๆ เช่น “ก๊ก สมศักดิ์ เทพสุทิน” คุมภาคเหนือตอนล่าง จ.สุโขทัย “ก๊ก สุชาติ ตันเจริญ” คุมภาคกลาง จ.ฉะเชิงเทรา และอีสานบางส่วน “ก๊ก เกษม รุ่งธนเกียรติ” ใน จ.สุรินทร์
ทุน-กระสุนพร้อม ขาดอย่างเดียวคือ กระแส…
ภูมิใจไทยไม่มีคนดังระดับชาติ แต่มีคนดังในพื้นที่หลายคนมาจากฐาน อบจ. สมาชิกสภาจังหวัด (สจ.)
แกนนำพรรคสีน้ำเงินรายหนึ่งบอกว่า พรรคเน้นตัวผู้สมัคร ประกอบระบบเลือก ตั้งที่เป็นเขตเล็ก ทำให้พรรคสามารถใช้ระบบหัวคะแนน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าถึงตัว
ภูมิใจไทยเน้นงานใต้ดิน ส่วนการปราศรัย หรือขายหัวหน้าพรรคชวรัตน์ ชาญวีรกูล พอกล้อมแกล้มไปที
สำหรับนโยบายยึดสโลแกน “น้ำไหลไฟสว่าง ทางดี มีงานทำ” พอขายได้ในพื้นที่ เช่น สร้างศูนย์ฝึกนักกีฬา อาชีพสู้แล้วรวย กองทุนจ้างงาน 1 ล้านตำแหน่ง ข้าวเปลือกตันละ 2 หมื่นบาท ลดภาษีมูลค่าเพิ่มลง 2% ตู้เอทีเอ็มไร่นาเกษตรกร สร้างที่ทำกินที่ค้าขาย 1 ล้านคน
เมื่อทุกอย่างเป็นรองเพื่อไทย นอกจากกระสุนดินดำ งานนี้ “เสี่ยเน” กับ “เสี่ยหนู” จึงต้องล็อกเป้าเนื้อๆ เน้นๆ พื้นที่ไหนหวังได้เกิน 30% พร้อมส่ง ไม่มีสะเปะสะปะ
เป้าหมายคือ รักษาที่นั่งเดิมไว้ให้ได้
ถ้านับแล้ว ก่อนยุบสภาภูมิใจไทยมี สส.ทั้งหมดที่ซุกอยู่ตามพรรคอื่น เช่น พรรคชาติพัฒนา เพื่อแผ่นดิน เพื่อไทย รวมทั้งหมด 40 กว่าชีวิต หลังยุบสภามีอดีต สส.ไหลเข้ามาเพิ่มรวมอีกประมาณ 20 คน เป็น 60 กว่าคน
ไม่แปลกที่ภูมิใจไทยมั่นใจว่าจะได้ สส. 70 ที่นั่ง ถ้ารักษาของเดิมไว้ได้หมด 60 บวกอีก 10 ที่นั่งที่หวังจากระบบปาร์ตี้ลิสต์ แม้อาจจะหวังสูง แต่แกนนำเชื่อว่า จะได้เสียงปาร์ตี้ลิสต์มากถึง 2 ล้านคะแนน
ยึดสูตร 1 คนต้องได้คะแนน 2 แสน
พื้นที่เป้าหมายของคู่หู “เนวิน-อนุทิน” พุ่งไปที่ภาคอีสาน 23-25 ที่นั่ง แยกเป็น จ.บุรีรัมย์ เมืองหลวงภูมิใจไทยต้องยึดหมด 9 ที่นั่ง จ.สุรินทร์ หลังได้กลุ่มเกษมกลับมาจากเพื่อไทย โดยหวังไว้ 4 จาก 8 ที่นั่ง ที่เหลือแบ่งให้เพื่อไทย
จ.นครราชสีมา หวัง 4 คน (จาก 15|ที่นั่ง) มีบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย และ สส.โคราชคุมทัพอยู่ ที่เหลือประปราย รายจังหวัดล็อกเป้าชัดๆ บึงกาฬ 2 คน นครพนม มหาสารคาม ขอนแก่น อำนาจเจริญ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด จังหวัดละ 1 คน
ภาคกลาง 18 ที่นั่ง สระบุรียกจังหวัด 4 คน จากตระกูลอดิเรกสาร (ปชป.) และ|วัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ อดีต สส.สระบุรี ประชาธิปัตย์ ที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ ชัยนาท ราชบุรี กาญจนบุรี นนทบุรี สมุทรปราการ จังหวัดละ 2 ที่นั่ง ปทุมธานี ปราจีนบุรี|ฉะเชิงเทรา ลพบุรีอย่างละ 1 ที่นั่ง
ภาคเหนือ 15 ที่นั่ง ตอนล่างมอบให้กลุ่มมัชฌิมาอย่าง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” คุมทีม จ.สุโขทัย ยก 4 ที่นั่ง รวมถึงกำแพงเพชร นครสวรรค์ น่าน พะเยา เชียงรายที่ให้ “เสี่ยหนู” รับผิดชอบ
ภาคใต้ 1 ที่นั่ง จากนิมุคตาร์ วาบา อดีต สส.ปัตตานี ที่ย้ายมาจากพรรคเพื่อแผ่นดิน
กทม. 1 ที่นั่ง จากศุภมาส อิศรภักดี ที่อาจสอดแทรกเป็นตาอยู่ในเขตหลักสี่ ดอนเมือง
งานนี้เนวินส่งผู้สมัคร สส.ทั่วประเทศเพียง 181 (จาก 375) พร้อมกับข่าวสะพัดจะใช้ยุทธปัจจัยหลักพันล้านทุ่มในศึกเลือกตั้งครั้งนี้
จริงหรือไม่ต้องติดตาม …
จุดแข็งที่มีอยู่จะสู้กับกระแสยิ่งลักษณ์ ชินวัตร “โคลนนิงทักษิณ” ได้แค่ไหนต้องลุ้น…
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1508 ครั้ง