เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา นักเขียนชื่อดังของเมืองไทย 8 คน คือ บินหลา สันกาลาคีรี นักเขียนซีไรต์, ปราบดา หยุ่น นักเขียนซีไรต์, ซะการีย์ยา อมตยา กวีซีไรต์, ทราย เจริญปุระ, ดวงฤทัย เอสะนาชาตัง, กิตติพล สรัคคานนท์, วรพจน์ พันธุ์พงศ์ และวาด รวี ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงเพื่อนนักเขียนไทยทั่วประเทศ เรื่อง “ขอเชิญร่วมลงชื่อในการเรียกร้องให้มีการแก้ไขมาตรา 112 และยุติการใช้ข้อกล่าวหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ปิดกั้นการแสดงออกและแสดงความคิดเห็นทางการเมือง” มีเนื้อหาโดยสรุปดังนี้ นักเขียนผู้มีรายชื่อในท้ายจดหมายฉบับนี้ เชื่อว่าเสรีภาพในการแสดงออกและแสดงความคิดเห็น คือหัวใจสำคัญของการเป็นนักเขียนในสังคมประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นงานเขียนประเภทใด ไม่ว่าเขียนเพื่อเลี้ยงชีพ หรือเป็นนักเขียนผู้ผลิตงานสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นนักเขียนผู้มีอุดมการณ์ ศรัทธา และความเชื่อส่วนตัวเช่นใด เสรีภาพในการแสดงออกและแสดงความคิดเห็น ถือเป็นพื้นฐานสำคัญเบื้องต้นที่เอื้อให้นักเขียนทุกคนทุกแขนงในสังคม ได้มีพื้นที่ มีอิสรภาพ และมีโอกาสในการพัฒนาทั้งคุณภาพผลงาน และคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่โดยเท่าเทียมกัน
เมื่อใดก็ตามที่เสรีภาพในการแสดงออกและแสดงความคิดเห็นตก อยู่ในสภาวะบอบบาง อ่อนแอ และสั่นคลอน สถานภาพของการเป็นนักเขียนในสังคมประชาธิปไตยย่อมตกอยู่ในสภาวะบอบบาง อ่อนแอ และสั่นคลอนไปด้วย ผลกระทบเบื้องต้น คือการหยุดชะงักของโอกาสในการพัฒนาความรู้ ความคิด และการสร้างสรรค์งานเขียน เนื่องเพราะถูกจำกัดขอบเขตการแสดงออกและการสานต่อทางปัญญา ผลกระทบขั้นรุนแรงกว่าคือการต้องใช้ชีวิตและทำงานภายใต้บรรยากาศอันมืดมิด ภายใต้ความหวั่นวิตกถึงการสูญเสียสิทธิ สูญเสียอิสรภาพอย่างไม่เป็นธรรม และหวาดกลัวต่ออันตรายที่อาจเกิดต่อตนเองและครอบครัว
สังคมไทยขณะนี้ มีการนำกฎหมายอาญามาตรา 112 มาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง โดยคนหลายกลุ่มหลายฝ่าย มีการใช้มาตราดังกล่าวในการข่มขู่คุกคาม กระทั่งฟ้องร้องดำเนินคดี คุมขังและลิดรอนอิสรภาพของประชาชนผู้ถูกกล่าวหาจำนวนมาก ทำให้เห็นว่าสังคมไทยกำลังก้าวล่วงสู่สภาวการณ์ที่เสรีภาพในการแสดงออก และแสดงความคิดเห็นถูกคุกคามมากขึ้น ข้อความสั้นๆ ของกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่กล่าวว่า “ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี” ถูกนำมากล่าวอ้างกล่าวหาเพื่อประโยชน์ทางการเมือง เพื่อข่มขู่ ฟ้องร้อง และคุมขังประชาชน หลายครั้งเป็นการตีความกฎหมายโดยกว้าง
บรรยากาศของความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นในสังคมและพฤติกรรมคุกคามโดยคนบางกลุ่ม เช่น ทหารไทยที่ออกมาตบเท้าข่มขู่ประชาชน และฟ้องร้องนักวิชาการ ตอกย้ำให้เราตระหนักว่า ถึงเวลาแล้วที่สังคมต้องนำกฎหมายอาญามาตรา 112 มาเป็นประเด็นทบทวนพิจารณาปรับปรุงแก้ไขอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันมิให้เสรีภาพในการแสดงออกและแสดงความคิดเห็นของประชาชนถดถอย ล้าหลัง ก้าวย่างไปสู่ยุคมืด หรือถูกทำลายลงโดยสิ้นเชิงในที่สุด
ทั้งนี้ ถึงเวลาแล้วที่สังคมไทยต้องแยกแยะ “การล้มสถาบัน” ออกจากการอภิปรายเพื่อนำไปสู่เสถียรภาพทางสังคมในระยะยาว และการปกป้องเสรีภาพในการแสดงออกและแสดงความคิดของประชาชน ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และในฐานะนักเขียนไทยเราต้องการเรียกร้องให้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยเร็วที่สุด นอกจากนี้เราต้องการเรียกร้องให้ผู้ใช้สถาบันกษัตริย์เป็นข้ออ้างในการแสดงบทบาท และวางอำนาจทางการเมือง เช่น ทหาร ได้ยุติพฤติกรรมดังกล่าว และปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนักเขียนชื่อดังทั้ง 8 คนข้างต้น ยังมีคนในแวดวงวรรณกรรมร่วมลงชื่ออีก 56 คนประกอบด้วย
1. กฤช เหลือลมัย
2. สุเจน กรรพฤทธิ์
3. กวีอราสุ
4. ธีรภัทร เจริญสุข
5. พรสุข เกิดสว่าง
6. สานุ อร่ามเอกวนิช
7. สรายุทธ์ ธรรมโชโต
8. นงลักษณ์ หงส์วิเศษชัย
9. เฉลิมพันธุ์ หวันชิตนาย
10. เดือนวาด พิมวนา
11. ประกาย ปรัชญา
12. นพดล ปรางค์ทอง
13. นพรุจ หิญชีระนันทน์
14. กิตติกา บุญมาไชย
15. ภาณุ มณีวัฒนกุล
16. วิจักขณ์ พานิช
17. เกียรติศักดิ์ ประทานัง (ปั้นคำ)
18. สฤณี อาชวานันทกุล
19. ชญานิน เตียงพิทยากร
20. ทองธัช เทพารักษ์
21. “ผาดไหม”
22. อธิฌลา (อันธิฌา ทัศคร)
23. ดาราณี ทองศิริ
24. นิติพงศ์ สำราญคง
25. ศรัทธา แสงทอน
26. สหรัฐ พัฒนกิจวรกุล
27. วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล
28. ปราย พันแสง
29. คณพล วงศ์วิเศษไพบูลย์
30. บุญชิต ฟักมี
31. สิทธา วรรณสวาท
32. นิศากร แก่นมีผล
33. อาทิชา ตันธนวิกรัย
34. ฉันทลักษณ์ รักษาอยู่ (มน. มีนา)
35. การะเกตุ ศรีปริญญาศิลป์ (การะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์)
36. วรัญญู อินทรกำแหง
37. พิชญา โชนะโต
38. พีระ ส่องคืนอธรรม
39. วรวุฒิ สัจจะปรเมษฐ
40. พิเชฐ แสงทอง
41. คำ ผกา
42. โคจร สมุทรโชติ
43. ภู่มณี ศิริพรไพบูลย์
44. วิชัย พวงมาลัย
45. แก้วตา ธัมอิน
46. พิรุณ อนุสุริยา
47. พณ ลานวรัญ
48. ธิติ มีแต้ม
49. ธาริต โตทอง
50. ภูมิภัทร์ สงวนแก้ว
51. ณัฐชา วิวัฒน์ศิริกุล
55. มหรรณพ โฉมเฉลา
56. รวิวาร โฉมเฉลา
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 2276 ครั้ง