เมีย-ลูกๆ “พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา” นำเถ้ากระดูกไปลอยอังคารแล้ว เผยปรากฏการณ์ประหลาด คลื่นแรงซัดกระหน่ำตลอดทางที่เรือแล่นออกจากฝั่งไป แต่พอไปถึงที่หมาย ท้องทะเลกลับเงียบสงบ เล่นเอาญาติบางคนตื้นตันน้ำตาไหล ขณะที่พลขับคู่ใจจ่าเพียร “พ.ต.อ. โสภณ อินทรบวร” ได้รับพระราชทานเพลิงศพเรียบร้อยแล้ว ผบช.ศชต.ยันผลักดันสร้างอนุสาวรีย์ “สมเพียร เอกสมญา” รวมทั้งตร.อื่นๆ ที่เสียชีวิตในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ แฉผลตรวจหลักฐานพบปืนที่ใช้ระดมยิงสังหารจ่าเพียรเป็นอาก้าที่เคยใช้ก่อเหตุฆ่าในพื้นที่มาแล้วถึง 4 คดี
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 มี.ค. นางพิมพ์ชนา ภูวพงษ์พิทักษ์ ภรรยาพล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา พร้อมด้วยลูกทั้ง 4 คน และญาติๆ เดินทางมาที่วัดคลองเปล อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อร่วมเก็บเถ้ากระดูกของพล.ต.อ.สมเพียร โดยจัดคัดแยกกระดูกไว้ 2 ส่วน ส่วนหนึ่งจะนำไปทำพิธีลอยอังคาร อีกส่วนหนึ่งจะเก็บใส่โกศไว้ที่บ้านพัก เตรียมไว้จัดเก็บในอนุสาวรีย์ตามที่มีหลายฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า ควรจะจัดสร้างอนุสาวรีย์พล.ต.อ.สมเพียรขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางญาตินำเถ้ากระดูกไปประกอบพิธีทำบุญ แล้วรีบเดินทางไปขึ้นเรือของทหารเรือที่ท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลา ที่ ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา เพื่อให้ทันฤกษ์ที่จะออกเรือคือ 09.00 น. ซึ่งพล.ร.ท.ชัยวัฒน์ ภู่ทอง ผบช.ทรภ.2 และพล.ร.ต.พีระศักดิ์ กมลศิลป์ ผบ.ฐานทัพเรือสงขลา มอบหมายให้เรือ ต.17 ซึ่งมีร.อ.ชิตพงษ์ ช้างงาม เป็นผู้การเรือ เป็นเรือพาหนะสำหรับคณะทำพิธีลอยอังคาร พอเรือออกจากท่าก็ได้มีปรากฏการณ์ลมพัดแรงและคลื่นทะเลสูงขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งคลื่นสูงถึง 3 เมตร ทำเอาผู้ที่อยู่ในเรือทั้งหมดประมาณ 30 คน รู้สึกประหลาดใจจนขนลุก
จุดที่จะลอยอังคารอยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 1 ไมล์ทะเล บริเวณทุ่นไฟปากร่อง ทางทิศเหนือของเกาะหนู ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 35 นาที ตลอดเวลาต้องพบคลื่นลมตลอดเวลา แต่ก็มีเหตุการณ์ที่อัศจรรย์ขึ้นมาอีก พอญาตินำเถ้ากระดูกลอยลงไปในน้ำแล้ว คลื่นก็พลันสงบลง ทำให้ผู้คนที่อยู่บนเรือถึงกับขนลุกอีกรอบ บางคนก็น้ำตาไหลเพราะตื้นตันใจ เพราะถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี แสดงว่าพระแม่คงคาได้รับรู้และได้ดวงวิญญาณเถ้ากระดูกของพล.ต.อ.สมเพียรไว้ดูแลแล้ว หลังจากคณะญาติๆ กลับขึ้นฝั่งแล้วยังมีการซุบซิบวิจารณ์กันเรื่องนี้อีก
ส.ต.ท.โรจนนิล ภูวพงษ์พิทักษ์ บุตรชายของพล.ต.อ.สมเพียร เปิดเผยว่า ขอขอบคุณนายภาณุ อุทัยรัตน์ ผอ.ศอ.บต. และนายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา ที่ได้ช่วยจัดพิมพ์หนังสือเกียรติประวัติของพล.ต.อ.สมเพียรมาแจกเป็นของที่ระลึกในงานพิธีพระราชทานเพลิงศพ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะขอความกรุณาขอให้ช่วยจัดพิมพ์เพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง เนื่องจากว่ายังมีเพื่อนๆ ตำรวจ และบุคคลทั่วไปอีกมากมายมีความประสงค์อยากได้
สำหรับปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ นอกจากพล.ต.อ.สมเพียร แล้ว ยังมีนายตำรวจที่ได้รับความไม่เป็นธรรมจากการแต่งตั้งโยกย้ายในครั้งนี้ไปร้องทุกข์ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมกับพล.ต.อ.สมเพียรด้วย คือ พ.ต.ท.นัฐากร ทองแสนยศ ตำแหน่ง สว.ส.สภ.กาบัง จ.ยะลา ช่วยราชการงานสอบสวนสืบสวนการโจรกรรมรถยนต์ จักร ยานยนต์ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยในการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ได้ขอย้ายออกจาก 3 จังหวัด ไปยังสภ.เกาะลันตา จ.กระบี่ โดยสับเปลี่ยนกับสว.ส.สภ.เกาะลันตา โดยนายตำรวจที่มาแทนที่ในตำแหน่งสว.ส.สภ.กาบัง จ.ยะลา เดินทางมารับตำแหน่งแล้ว แต่พ.ต.ท. นัฐากรยังไม่มีรายชื่อในการย้ายออกจากสภ.กาบังแต่อย่างใด ยังคงต้องช่วยราชการอยู่ที่ศชต. แม้ แต่เดินทางไปร้องเรียนต่อพล.ต.อ.ปทีป ตันประ เสริฐ รรท.ผบ.ตร.แล้ว ก็ยังไม่มีคำสั่งในการเยียวยาแต่อย่างใด
อาลัย – นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย เป็นประธานพิธีพระราชทานเพลิงศพ พ.ต.อ.โสภณ อินทรบวร ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิด พร้อมกับพล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ที่วัดพุทธภูมิ อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 18 มี.ค. |
ทั้งนี้ มีนายตำรวจระดับรองผกก.สบ.3 และระดับสว.งานสอบสวน ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอให้มีการแก้พ.ร.บ. ตำรวจที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากมีหลักเกณฑ์ว่า ตำรวจสบ.3 และสว.ที่ทำหน้าที่สอบสวน ถ้าต้องการโยกย้ายออกจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องมีตำรวจจากนอกพื้นที่ย้ายเข้ามาทดแทน ไม่สามารถที่จะย้ายนายตำรวจในพื้นที่ขึ้นมาแทนได้เพราะอัตรากำลังไม่เพียงพอ ไม่เหมือนกับตำแหน่งอื่นๆ เช่น รองป.สวป. หรือรอง สวป. ที่สามารถย้ายออกจากพื้นที่ได้โดยไม่ต้องเอาอัตรานอกพื้นที่เข้ามาทดแทน และสามารถย้ายขึ้นในตำแหน่งที่สูงกว่าได้ ทำให้บรรดานายตำรวจระดับรองผกก.หรือ สบ.3 ตลอดจนพนักงานสอบสวนต้องหมุนเวียนอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัด
นอกจากนั้น หากมีนายตำรวจอาสามาแทนยังติดกับกฎระเบียบอีกข้อหนึ่งที่ว่า หากศตช.เห็นว่าผู้ที่ขอย้ายมาแทนไม่เหมาะสมก็สามารถที่จะไม่รับ ทำให้กลายเป็นความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้น และทำให้ขวัญกำลังใจของนายตำรวจเหล่านี้ตกต่ำและดิ้นรนที่จะย้ายออกจากพื้นที่ เนื่องจากบางคนอยู่ในพื้นที่มากกว่า 3 ปี แต่ย้ายออกนอกพื้นที่ 3 จังหวัดไม่ได้
เวลา 15.00 น. ที่ศาลาสวดพระอภิธรรมศพ วัดพุทธภูมิ พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ยะลา นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย เดินทางมาเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ พ.ต.อ. โสภณ อินทรบวร พลขับของพล.ต.อ.สมเพียร ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เดียวกัน โดยมีพล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษา (สบ.10) สนง.ตร. แห่งชาติ พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฎฐ์ ผบช.ศชต. ผู้บังคับบัญชาระดับสูง ตำรวจ ทหาร เพื่อนข้าราชการตำรวจ ญาติ เข้าร่วมในพิธีจำนวนมาก
ในการนี้ ครอบครัวอินทรบวรอ่านคำสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รวมถึงพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระ องค์ที่ทรงพระกรุณาฯ ต่อครอบครัวอินทรบวรด้วย
นางสมจิตต์ อินทรบวร ภรรยาของพ.ต.อ. โสภณ เปิดเผยว่า ครอบครัวอินทรบวรรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงสุด ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บุญบารมีของพระองค์ ให้พระองค์เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของประชาชนตลอดไป ตนเองและครอบ ครัวมีความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมวอร์รูม อาคารศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฎฐ์ ผบช.ศชต. แถลงข่าวว่า จากเหตุการณ์ลอบสังหารพล.ต.อ.สมเพียร ขณะนี้การสืบสวนสอบสวนมีความคืบหน้าไปมาก โดยการตรวจพิสูจน์ของกลางที่ยึดได้ในที่เกิดเหตุและพยานหลักฐานประกอบอื่นๆ เป็นประโยชน์ทางคดีอย่างยิ่ง โดยเฉพาะทราบว่าอาวุธปืนเอเค 47 (อาก้า) ที่คนร้ายใช้ยิงในที่เกิดเหตุ เป็นอาวุธปืนที่เคยใช้ก่อเหตุมาแล้วถึง 4 คดี เช่น คดียิงตชด.33 จำนวน 2 นาย เสียชีวิต 1 และบาดเจ็บ 1 หน้าธนาคารพัฒนาวิสาหกิจ อ.เมือง ยะลา เมื่อ 17 ต.ค.49, คดียิงเข้าไปในบ้านพักของด.ต.ชอบ สุขรักษา จนท.ตำรวจสภ.ลำใหม่ จ.ยะลา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน เมื่อ 13 ก.ย.2550, คดียิงนายแวดาโอ๊ะ ปานาวา ผู้ช่วยผญบ.เสียชีวิต ที่หมู่ 3 ต.ละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อ 23 ธ.ค.2550 และคดียิงนายมะนาเซเสียชีวิต ที่ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อ 2 ส.ค.2551
“สำหรับคดีนี้ คนร้ายใช้ระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สปิกนิก ซุกซ่อนไว้ในท่อน้ำบริเวณถนน และจุดระเบิดโดยการลากสายไฟ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานไว้เพื่อดำเนินการสืบสวนแล้ว จากพยานหลักฐานและความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่ทำให้ทราบกลุ่มคนร้ายแล้ว ซึ่งจะได้เร่งรัดการออกหมายจับและติดตามจับกุมต่อไป ซึ่งในเบื้องต้นไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้” ผบช.ศชต.กล่าว
ผบช.ศชต.ยังกล่าวถึงกรณีการช่วยเหลือ เยียวยา และบำรุงขวัญแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บและทายาทผู้เสียชีวิตว่า ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุดส่วนหนึ่งแล้ว โดยเฉพาะทายาทของพล.ต.อ.สมเพียรเบื้องต้นได้รับเงินช่วยเหลือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มูลนิธิ องค์กรต่างๆ จำนวนกว่า 4.1 ล้านบาท และจากหน่วยงาน องค์กรอื่นๆ ที่เพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง ตลอดจนได้มีคำสั่งย้ายบุตรของพล.ต.อ.สมเพียร 1 ราย คือ ส.ต.ท. โรจนินทร์ ภูวพงษ์พิทักษ์ ผบ.หมู่ กก.ตชด.44 อ.เมือง จ.ยะลา ไปดำรงตำแหน่ง ผบ.หมู่ ตม.6 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และบรรจุนายรัฐวิทชญา ภูวพงษ์พิทักษ์ บุตรชายคนที่ 3 เข้ารับราชการตำรวจในตำแหน่ง ผบ.หมู่ สภ.คอหงส์ อ.หาด ใหญ่ จ.สงขลา
“สำหรับทายาทของด.ต.โสภณ อินทรบวร เบื้องต้น ได้รับเงินช่วยเหลือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมูลนิธิต่างๆ ตามสิทธิ เป็นจำนวนเงินกว่า 2 ล้านบาท นอกจากนี้ จะมอบทุนการศึกษาแก่บุตร คือ ด.ช.ณัฐนนท์ อินทรบวร อายุ 14 ปี ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ระดับ ม.ต้น โรงเรียนสตรียะลา ไปจนสำเร็จระดับปริญญาตรี และจะขึ้นบัญชีบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ เมื่อสำเร็จการศึกษาตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดต่อไป กับทั้งได้รับพระราชทานยศเป็นพันตำรวจเอก” ผบช.ศชต. กล่าว
พล.ต.ท.พีระกล่าวถึงแนวความคิดในการจัดสร้างอนุสาวรีย์ให้กับพล.ต.อ.สมเพียร เพื่อเป็นอนุสรณ์ความกล้าหาญว่า หลังจากได้รับทราบ ข่าวว่าทางสมาคมตำรวจมีแนวความคิดในเรื่องนี้ ตนเชื่อว่าทางสมาคมคงจะติดต่อประสานงานมา แต่ในชั้นต้น ในเรื่องของอนุสาวรีย์ หรืออนุสรณ์สถานต่างๆ ทางศชต. ก็มีแนวความคิดกันมานาน เพียงแต่ยังไม่มีรูปแบบ รวมถึงทุน เพราะในขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่เสียชีวิต ตั้งแต่ปี 2547 ที่ผ่านมา จำนวน 243 คน ส่วนปี 2553 ล่าสุดมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตแล้ว 6 นาย แนวความคิดในการสร้างอนุสรณ์สถานให้กับตำรวจที่เสียชีวิตในพื้นที่ มีอยู่แล้ว เพียงแต่อยู่ในขั้นตอนของรูปแบบที่เหมาะสม ว่าจะใช้รูปแบบอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการบรรจุกระดูก หรือสลักชื่อ
“สำหรับภาคเอกชนในพื้นที่จังหวัดยะลา ที่มีแนวความคิดเช่นเดียวกัน ที่จะระดมทุนจัดสร้างอนุสาวรีย์นั้น ทาง ศชต.ก็พร้อมที่จะให้มาพูดคุยกัน เพราะการจัดสร้างในครั้งนี้ ทำเพื่อตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของผม ผมก็มีความพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่” ผบช.ศชต.กล่าว
สำหรับเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ยังคงเกิดขึ้น โดยเมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.อ.กล้าณรงค์ เผือกคุ้มกฤษ ผกก.สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นบริเวณตรงข้ามหน้าสถานีอนามัยตะโละดือรามัน ม.7 ต.ตะโละดือรามัน อ.กะพ้อ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันทีพร้อมด้วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานปัตตานี เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถ ยนต์ตราโล่ ของตำรวจ สภ.กะพ้อ ได้รับความเสียหายเล็กน้อยสภาพถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณไฟหน้าแตก
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่กำลังตำรวจชุดกู้เกียรติ ของสภ.กะพ้อ จำนวน 8 นาย นำโดยร.ต.ท.รัฐนันท์ มาแผ้ว รองสวป. หัวหน้าชุด ออกปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเส้นทางดูแลความสงบเรียบร้อย และได้ตั้งจุดตรวจด่านลอย หน้าสถานีอนามัยตะโละดือรามัน ปรากฏว่าได้เกิดระเบิดขึ้นห่างจากจุดรถจอดประมาณ 40 เมตร แต่โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ตรวจสอบพบว่าคนร้ายได้วางระเบิดแสวงเครื่องวางริมถนนฝั่งตรงข้าม จุดชนวนด้วยวิทยุ เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ หวังลอบสังหารเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติหน้าที่
เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ ร.11 รอ. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีข้อร้องเรียนเรื่องคำสั่งการแต่งตั้งโยกย้ายที่พล.ต.อ.สมเพียร ร้อง เรียนไว้ก่อนเสียชีวิตว่า ขณะนี้กำลังจะดูเรื่องกระบวนการการร้องเรียนอยู่ ซึ่งทางคณะกรรม การข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) กำลังตรวจสอบอยู่ ก็ต้องรอการรายงานเข้ามา
เวลา 11.45 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธาน พิจารณากระทู้ถามสดของนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ถามนายกฯ เรื่องปัญหาการเรียกร้องของประชาชนต่อการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี แต่นายอภิสิทธิ์มอบหมายให้พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีตอบแทน ทั้งนี้ นาย ไพจิตถามว่ารัฐบาลชุดนี้ยังมีปัญหาในหลักการการบริหาร โดยเฉพาะกรณีการเสียชีวิตของพล.ต.อ.สมเพียร เรื่องนี้ใครจะรับผิดชอบ นายกฯ จะทำอย่างไร
พล.ต.สนั่น ชี้แจงว่า กรณีของพล.ต.อ.สมเพียร เป็นเรื่องที่ทุกคนสลดใจเป็นอย่างยิ่ง การทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติช้ามาก ไม่ได้พิจารณาคำร้องเรียนที่นายกรัฐมนตรีส่งไปให้ว่ามีความจำเป็นอย่างไร คนปฏิบัติหน้าที่มา 40 ปี อยากออก แสดงว่าไม่ไหวแล้ว ตนขอประณามคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.ชุดนี้ ถ้าปรับโครงสร้างตำรวจได้ใหม่ เชื่อว่าประชาชนจะได้รับความเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น ขณะนี้ซื้อกันไปหมด เมื่อก่อนยังไม่เท่านี้เลย
ที่มา: ข่าวสดรายวัน
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1079 ครั้ง