โฆษกภท. ปัดคิดร่วมงานเพื่อไทย วอนคนกทม.เลือกผู้แทนอย่าใช้อารมณ์ เมินนายกฯปรองดอง เพราะส.ส.ในสภาตัดสิน
วันที่ 13 มิ.ย.นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคจะจัดปราศรัย 3 จังหวัด 4 เขตเลือกตั้ง โดยวันที่ 14 มิ.ย. เวลา 16.00-18.00 น. ปราศรัยที่เขต 1 จ.สระบุรี โรงเรียนหน้าพระลาน (พิบูลย์สงเคราะห์) อ.เฉลิมพระเกียรติ และเขต 4 เวลา 17.00-19.00 น. บริเวณวงเวียนตลาดใน อ.พระพุทธบาท และวันที่ 15 มิ.ย. ปราศรัยที่เขต 6 จ.นครสวรรค์เวลา 10.00-12.00 น. บริเวณวัดตลุกช่อน้ำ ต.เขาชนกัน อ.แม่วงศ์ และเขต 3 จ.อุตรดิตถ์ เวลา 15.00 -17.00 น. บริเวณลานกีฬา ต.พระยาแมน อ.พิชัย โดยมีนายโสภณ ซารัมย์ ผู้สมัครส.ส.บุรีรัมย์ เป็นแม่งานหลัก
ส่วนวันที่ 16 มิ.ย. เวลา 10.00 น. พรรคจะมีการแถลงข่าวเรื่องนโยบายล้างหนี้กองทุนหมู่บ้าน โดยมีนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค นายโสภณ และตน รวมถึงลูกหนี้ มาร่วมพูดถึงปัญหาดังกล่าว เพราะเป็นนโยบายสำคัญในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน
นายศุภชัย กล่าว การที่นายชวรัตน์ ได้กล่าวภายหลังการลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครส.ส.กทม.ของพรรค ในทำนองจะร่วมงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทยนั้น ซึ่งเมื่อวันที่12มิ.ย. ตนนั่งอยู่ด้วย และอยากเรียนว่าหัวหน้าพรรคตอบไป ไม่ได้มีความหมายอย่างที่เข้าใจ แต่เพื่อต้องการแสดงเจตนาว่าทางการเมือง ไม่ควรฟาดฟันจนไม่คิดหน้าคิดหลัง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย เนื่องจากการแถลงข่าวของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รองหัวหน้าพรรค และตน เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ในการปราศรัยใหญ่ที่จ.นครราชสีมา ก็เป็นที่ชัดเจนแล้ว
นายศุภชัย กล่าวว่า ส่วนผลโพลล์ของพรรคที่ออกไม่ติดลำดับต้นๆ ตนคิดว่าโพลล์ต้องดูว่าเป็นตามหลักวิชาการและน่าเชื่อถือได้ ทั้งนี้ ตนไม่รู้สึกวิตกกังวลอะไร เพราะอาจเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ
ทั้งนี้ แม้โพลล์ชี้ว่ากทม.พรรคเพื่อไทยจะมีคะแนนนำพรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้สมัครของพรรคในพื้นที่กทม. แต่ก็ต้องทำงานหนักขึ้น และที่มีการพูดกันในอดีตว่า ประชาชนโดยเฉพาะพื้นที่กทม.มักใช้วิธีการเลือกส.ส.ด้วยอารมณ์เป็นตัวตั้ง ซึ่งส่วนตัวไม่เชื่อ
อย่างไรก็ดี ผลโพลล์ที่ออกมาอาจทำให้รู้สึกวูบวาม ดังนั้น ประชาชนควรมีวิธีคิดเลือกส.ส.ไม่ควรใช้อารมณ์ ไม่เช่นนั้นการตัดสินใจไปในทางใดทางหนึ่งของประชาชนในกทม. อาจเกิดผลลบหรือผลบวกต่อประเทศได้ เพราะส.ส.กทม.มีมาก และทำให้เป็นตัวกำหนดทิศทางประเทศได้
นอกจากนี้ การที่มีบางฝ่ายพยายามเสนอนายกฯปรองดอง พรรคไม่ได้ให้น้ำหนักว่าใครจะมาเป็นนายกฯ มากกว่าการหาเสียง ทั้งนี้ เหลือเวลา 20 กว่าวัน จนกว่าเลือกตั้งเสร็จ จากนั้น ก็เป็นเรื่องส.ส.ในสภา แต่ควรมองว่าทำอย่างไรให้ประเทศเดินหน้าไปได้ด้วยดี และอยากให้ประชาชนไตร่ตรองให้ดี
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 922 ครั้ง