ปชป. เตรียม 3 ขุนพล ปราศรัยราชประสงค์ สุเทพ ไล่ยาวใครเผาเมือง ชวน เปิดโปงขบวนการระบอบทักษิณ อภิสิทธิ์ ตอกฝาโลง
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดปราศรัยใหญ่ที่ราชประสงค์วันที่ 23 มิ.ย.ว่า พรรคจะนำข้อมูลที่เป็นความจริงเหตุการณ์เคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ราชประสงค์และการทำร้ายประเทศไทยไปชี้แจงกับประชนให้มากที่สุด โดยผู้ที่จะเป็นผู้ปราศรัยหลักๆคือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ส่วนตนจะขึ้นเวทีปราศรัยด้วยหรือไม่ต้องรอดูอีกครั้ง ส่วนประเด็นเนื้อหาการปราศรัยจะเป็นประเด็นไหน อยากให้ไปฟังการปราศรัยในวันที่ 23 มิ.ย. อย่างไรก็ตามการปราศรัยจะปลุกพลังเงียบให้มาเลือกพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ตนเห็นว่าสิ่งที่สำคัญกว่าคืออยากให้กลุ่มพลังเงียบออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
ด้านนายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การปราศรัยในวันนั้นจะมีนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นปราศรัยร่วมกับนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพด้วย โดยเฉพาะนายสุเทพ ซึ่งเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับเหตุการณ์ทั้งหมดคนหนึ่ง จะอธิบายและชี้แจงข้อเท็จจริงในส่วนของทำงานของรัฐบาลการกับเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงในกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันแรกๆของการชุมนุมจนถึงวันที่ 19 พ.ค. 2553 และที่สำคัญอยากให้จับตาดูว่านายสุเทพจะนำข้อมูลใหม่ๆ มาเปิดเผยกับประชาชน นอกเหนือจากข้อมูลที่นายสุเทพเคยนำมาชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ผ่านมา อาทิ เรื่องเหตุเพลิงไหม้ของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิล์ด หรือกลุ่มคนที่แฝงตัวในการชุมนุม ซึ่งจะมีความชัดเจนในวันนั้นด้วย
รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งว่า การเปิดเวทีปราศรัยครั้งนี้จะไม่เกิน 3 ทุ่ม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บริหารจัดการมาตรการเรื่องความปลอดภัย และป้องกันมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์ก่อเหตุเพราะการเปิดเวทีปราศรัยครั้งนี้จะให้ 3 ขุนพลของพรรคเป็นคนเปิดประเด็นทั้งหมด โดยเริ่มจากนายสุเทพ ที่จะนำข้อมูลความจริงบางส่วนจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจและมาจากหนังสือประเทศไทยของเรา อย่าให้ใครเผาอีก รวมถึงหลักฐานใหม่จากหน่ายงานความมั่นคง ซึ่งเป็นการเปิดใจครั้งแรกของนายสุเทพ ในฐานะรองนายกฯด้านความมั่สคง ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าควบคุมสถานการณ์เหตุรุนแรงทางการเมือง จากนั้นตามด้วย นายชวน ที่จะออกมาพูดถึงความเชื่อมโยงของระบบทักษิณ และการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง จากนั้นปิดท้ายด้วยนายอภิสิทธิ์ที่จะออกมาบอกความในใจต่อเนื่องจากการเขียนบันทึกลงในเฟซบุ๊ค โดยเฉพาะประเด็นตามไล่ล่าและผ่านเหตุการณ์เฉียดตายมาแล้ว โดยข้อมูลทั้งหมดทีมกฎหมายของพรรคได้มีการตรวจสอบแล้ว ว่าจะไม่ผิดกฎหมายการเลือกตั้ง ที่เข้าข่ายใส่ร้ายป้ายสีและจะไม่นำไปสู่การยุบพรรคประชาธิปัตย์อีกรอบ
วันที่ 21 มิ.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)กล่าวย้ำถึงการจัดเวทีปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ที่ราชประสงค์ ญาติของผู้เสียชีวิติทั้ง 6 ศพ ที่วัดปทุมวนารามระบุจะเดินทางไปร่วมรับฟังด้วย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความจริงตนยินดีที่จะพูดคุยด้วย และบางทีหากบรรดาญาติของผู้เสียชีวิตได้ฟังข้อเท็จจริงอีกด้านหนึ่ง ตนคิดว่าอาจจะเข้าใจเหตุการณ์อะไรต่างมากขึ้น
เมื่อถามว่าแต่กลุ่มญาติอาจจะไปพร้อมกับข้อมูลที่ไม่เปิดเผยให้ฝ่ายรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็คงต้องแลกเปลี่ยนกัน เพราะทุกอย่างก็อยู่ตามความเป็นจริงและก็จะได้พูดคุยกัน เมื่อถามว่าหากทางกลุ่มญาติต้องการที่จะพูดคุยกันต่อตัวต่อพร้อมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ยินดีครับ”
อภิสิทธิ์นอนหาดใหญ่บุกใต้
เวลา 06.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) พร้อมด้วยแกนนำปชป. อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ , นายชำนิ ศักดิเศรษฐ , นายถาวร เสนเนียม , นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย , นายวิรัตน์ กัลยาศิริ และผู้สมัครส.ส. ในพื้นที่จ.สงขลา อาทิ นายศิริโชค โสภา เดินเท้าออกจากโรงแรมโนโวเทลเซนทาราฯหาดใหญ่ เพื่อทักทายประชาชน ในย่านตลาดกิมหยง หัวมุมห้างโอเดียน และจากนั้นเข้าไปรับประทานอาหารเช้าเป็น “บักกุ๊ดเต๋ (Bak kut teh)” และติ่มซำที่ร้านทิพย์นรินทร์ ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมที่พักประมาณ 200 เมตร เป็นอาหารเช้าก่อนออกเดินทางลงพื้นที่หาเสียงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งคณะของนายอภิสิทธิ์จะใช้เวลา 1 วันเต็มๆในการลงพื้นที่หาเสียงในครั้งนี้ และจะเดินทางกลับกทม.ในเย็นวันเดียวกัน
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์เดินคุยกับสื่อมวลชนระหว่างทาง และเปิดเผยว่าเมื่อคืนนอนเหมือนไม่ได้นอน เพราะถ้านอนต่างบ้านจะหลับๆตื่นๆ และระหว่างการรับประทานอาหารปรากฏว่าในร้านทิพนรินทร์ได้เปิดทีวีช่องเนชั่นชาแนล ซึ่งเป็นรายการข่าวที่เป็นภาพการลงพื้นที่หาเสียงของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้ชำเลืองมอง และหันมาพูดคุยกับคณะที่นั่งร่วมโต๊ะอาหาร
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงภาพรวมของการเลือกตั้งที่มีการขอคะแนนเสียงระบบบัญชีรายชื่อมากๆนั้น ซึ่งมีนัยยะการแพ้ชนะว่า “ทุกคะแนนมีความหมายทั้งนั้น”
ในส่วนที่มีการยิงหัวคะแนนกันจำนวนมากในขณะนี้นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีแผนต่างๆอยู่ แต่ช่วงนี้อาจจะต้องทำงานหนัก ต้องทำงานในเชิงพื้นที่เพราะจะต้องจับกระแสว่าตรงไหนมีความเสี่ยง มีความขัดแย้ง บุคคลไหนอยู่ในภาวะที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ทั้งนี้ ตนได้เน้นย้ำว่าตำรวจต้องเร่งสะสางให้เสร็จเป็นตัวอย่าง เพื่อเป็นการปราม แต่ยังไม่แน่ใจว่าเหตุการณ์ยิงหัวคะแนนในการเลือกตั้งครั้งนี้จะมากกว่าครั้งที่ผ่านๆมาหรือไม่ เพราะการเลือกตั้งหลายครั้งก็จะมีเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้
เมื่อถามว่าที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวบนเวทีปราศรัยเมื่อค่ำคืนวานที่ผ่านมา(20 มิ.ย.) ว่า มีการไปข่มขู่ประชาชนไม่ให้เลือกเบอร์ 10 ซึ่งจะมีการดำเนินการทางกฎหมายหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงตอบยาก เพราะของอย่างนี้เป็นลักษณะของแรงกดดันที่อาจเกิดขึ้น จะไปเจาะจงว่าเป็นการกระทำของใครคงไม่ได้ แต่มันเป็นการยืนยัน อย่างที่ตนเคยปราศรัย และอย่างที่นายชวนพูดก็ชัดเจนว่าหลายพื้นที่ขณะนี้ถูกกดดันไม่ให้แสดงออก และตนคิดว่าในวันที่ 3 ก.ค.คนที่ถูกกดดันเหล่านี้ จะให้คำตอบว่าคนที่มาใช้วิธีการข่มขู่ให้เขากลัวจะไม่ได้รับความไว้วางใจ ซึ่งวันนี้ผมยังมั่นใจ
ส่วนกรณีที่องค์การสื่อและภาคเอกชนออกแถลงการณ์การก้าวข้ามความรุนแรงเพื่อนำไปสู่ความปรองดอง โดยพรรคเพื่อไทยได้ประกาศรับข้อเสนอแถลงการณ์ดังกล่าวแล้วนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เห็นหลายองค์กร ที่มีข้อเสนอออกมาส่วนใหญ่ก็ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเรียกร้องให้ยอมรับกติกาต่างๆ ก็ไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้ตนยังไม่เห็นรายละเอียด เพราะยังไม่มีการสื่อสารเข้ามาอย่างเป็นทางการ เนื่องจากขณะนี้มีหลายกลุ่มที่ทำในลักษณะเช่นนี้
อัดนโยบายเขตปกครองพิเศษ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการหาเสียง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ไม่มีความเป็นห่วงในการลงพื้นที่ เพราะเคยลงมาหลายครั้งแล้วในช่วงเป็นนายกฯ ส่วนที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลงพื้นที่ก่อนหน้านี้แล้วเกิดเหตุระเบิดนั้นเราไม่ทราบว่าเชื่อมโยงกันแค่ไหน อย่างไรแล้วแต่เราพยายามให้เจ้าหน้าที่ดูแลให้ดี
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับจังหวัดชายแดนใต้ พรรคปชป.ยืนยันแนวทางที่เราเปลี่ยนมาเน้นเรื่องยุติธรรม และการพัฒนาเสริมด้วยท้องถิ่นรูปแบบใหม่ ให้ประชาชนมีส่วนร่วม เชื่อว่าประชาชนมีความเข้าใจในโครงสร้างใหม่ของศอ.บต. ส่วนนโยบายเขตปกครองพิเศษของเพื่อไทยนั้นจะทำให้ท้องถิ่นที่มีในปัจจุบันหายไปหมด และจะเกิดช่องว่าง ซึ่งการกระจายอำนาจปัจจุบันเน้นประชาชนมีส่วนร่วม
เมื่อถามว่าเขตปกครองพิเศษของเพื่อไทยจะแก้ปัญหาได้หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ต้องเป็นจังหวะของการพัฒนาท้องถิ่น แต่ไม่ใช่ไปทำเพื่อประโยชน์ในเชิงสัญลักษณ์ และทำให้เกิดช่องว่างมากขึ้นระหว่างคนไปทำงานกับประชาชน ส่วนหากเป็นรัฐบาลแล้วพรรคเพื่อไทยจะทำได้จริงหรือไม่ ตนก็ไม่ค่อยแน่ใจเพราะคนที่พูดก็ไม่มีรายละเอียดอะไรมากนัก
เมื่อถามว่า สถานการณ์ความไม่สงบมีผลต่อการตัดสินใจของประชาชนหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มีแน่นอน สงบไม่สงบต้องดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ภาพรวมทิศทางตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลง เมื่อก่อนจับทีต้องมีประท้วง เดี๋ยวนี้ไม่มีเพราะเรามีซีซีทีวี ทำโปร่งใส ยืนยันว่าทิศทางที่เราเดินมาประชาชนในพื้นที่ถูกต้อง แม้ต้องใช้เวลาแต่เราจะเดินต่อ เพราะแม้กระทั่งพ.ต.ท.ทักษิณ เองยังออกมายอมรับว่ามีความผิดพลาดในนโยบายเรื่องภาคใต้กับยาเสพติด
“สำหรับจำนวนส.ส.ของปชป.ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ เที่ยวที่แล้วได้มาครึ่งหนึ่ง เที่ยวนี้หวังได้เพิ่ม ภาพรวมการตอบรับพรรคค่อนข้างดี แต่ตัวบุคคลอาจมีแข่งขันสูงหลายเขต” นายอภิสิทธิ์กล่าว
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1205 ครั้ง