รูปภาพ : สำนักงานใหญ่ของธนาคารกลางจีน
ที่มา : Bloomberg
ประเทศเบลารุสซึ่งดิ้นรนอยู่หลายเดือนเพื่อแก้วิกฤตค่าเงินกำลังมองหาคำปรึกษาจากธนาคารกลางจีน นายอลเ็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก้ ประธานาธิบดีเบลารุสกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน 2011 ที่ผ่านมา
เบลารุสได้ลดค่าเงินรูเบิ้ลเบลารุสไปกว่า 36% เมื่อเดือนที่แล้วหลังจากสูญเสียทุนสำรองเงินตราต่างประเทศไปกว่า 1 ใน 4 อันเนื่องมาจากการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่สูงขึ้น ประเทศอดีตสหภาพโซเวียตแห่งนี้กำลังมองหาแหล่งเงินกู้สูงสุด 8,000 ล้านดอลลาร์จากไอเอ็มเอฟ
นอกจากนั้นแล้วเบลารุสยังได้มองหาแหล่งเงินกู้จากพันธมิตรเก่าแก่อย่างรัสเซียด้วย แต่รัฐบา่ลมอสโคว์ขู่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่าจะตอบโต้เบลารุสหลังจากที่รัฐบาลมิงสก์ได้ออกมาตรการเข้มงวดทางการค้าเพื่อรักษาเงินตราต่า่งประเทศที่เหลืออยู่น้อยเต็มทีในทุนสำรองของประเทศ
นายลูคาเชนโก้กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ทีมงานจากธนาคารกลางของจีนจากกรุงปักกิ่งได้ให้คำแนะนำแก่ธนาคารกลางเบลารุสตามคำร้องขอของเขา่ในประเด็นต่างๆเช่น นโยบายตลาดเงินตราต่างประเทศ
“ผมได้ร้องขอให้ผู้เชี่ยวชาญจากจีนประเมินสถานการณ์ในประเทศ … และให้คำแนะนำถึงวิธีการแก้ปัญหา” นายลูคาเชนโก้กล่าวระหว่างหารือกับนายเซี่ย โตว๋ (Xie Duo) หัวหน้าฝ่ายตลาดการเงินของธนาคารกลางจีน
“ผมดีใจมากที่สถานะของเราในหลายๆเรื่องเป็นไปตามที่ผู้เชี่ยวชาญจากจีนแนะนำ” เขากล่าวโดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมถึงคำแนะนำของธนาคารกลางจีน
การหารือกันเกิดขึ้นระหว่างที่ประธานาธิบดีหู จิ่นเทาของจีนเยือนกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียต แม้ว่านายหูเองจะไม่ได้ไปเยือนเบลารุสโดยไปเยือนแค่รัสเซีย คาซัคสถาน และยูเครน
สัปดาห์ที่แล้วธนาคารของจีนตกลงที่จะปล่อยกู้เป็นเงินมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์เพื่อสร้างโรงงานเซลลูโรสและให้กู้กับโครงการอื่นๆ เป็นการยกระดับบทบาทของจีนในภาคธุรกิจโภคภัณฑ์ในประเทศอดีตสหภาพโซเวียตแห่งนี้
นายลูคาเชนโก้ซึ่งขึ้นมามีอำนาจตั้งแต่ปี 1994 พยายามเลียนแบบวิธีการแบบค่อยเป็นค่อยไปของจีนไปสู่การปฏิรูปเป็นระบบตลาดด้วยการรักษาระบบเศรษฐกิจในแบบฉบับโซเวียตที่รัฐบาลยังคงเป็นตัวหลักในระบบเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตามวิกฤตซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากการตัดสินใจของเขาในการเพิ่มค่าแรงและกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีที่แล้ว ได้สร้างผลกระทบอย่างหนักต่อรายได้และเงินออมของประชาชนธรรมดาชาวเบลารุสกระตุ้นให้เกิดการแตกตื่นในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค
ราคาสินค้าต่างๆพุ่งขึ้นกว่า 1 ใน 3 ในอัตราต่อปีในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาและเงินเฟ้ออาจแตะระดับเกือบ 40% ภายในสิ้นปีนี้ จากการคาดการของทางการ
ในเดือนนี้ นายลูคาเชนโก้เตอืนว่า เขาจะไม่อดทนต่อการประท้วงของประชาชนอีกต่อไปหลังจากการเดินขบวนมากมายเกิดขึ้นในประเทศที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวดเพื่อประท้วงการปรับตัวสูงขึ้นของราคาสินค้าและการเข้มงวดในการค้าข้ามพรมแดน
ที่มา ข่าว Real Time จากโปรแกรม Reuters 3000 Xtra
ไอดีข่าว nLDE75J1I6
แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงิืนระหว่างประเทศ Mtoday