อีเมล์ระบุอีกว่า หน้าที่ผมและน้องสุธิศา รับผิดชอบช่วยคุณปูอยู่ในขณะนี้ 1.แจ้งประเด็นให้คุณปูทราบทุกวันว่าวันนี้มีประเด็นอะไร ประเด็นไหนที่แรง ให้โยนไปให้ทีมคุณนิวัติธำรงค์ช่วยแนะนำ 2.เช็กประเด็นจากสื่อมวลชนว่าจะถามอะไรคุณปู เพื่อให้คุณปูเตรียมตัวให้พร้อมที่จะพูด 3.สร้างประเด็นหรือภาพกิจกรรมในพื้นที่หาเสียงเพื่อให้ได้ภาพหน้า 1 ทุกวัน 4.ประสานหัวหน้าข่าวและโต๊ะข่าวการเมืองว่าต้องการภาพแบบไหน เพื่อส่งให้ทุกวัน 5.ประสานสำนักข่าวต่างประเทศเพื่อให้ตามคุณปูลงพื้นที่ เพื่อให้ข่าวคุณปูออกไปทั่วโลก 6.ประสานสำนักข่าวในประเทศ เพื่อให้พรรค (คุณนิวัตธำรงค์) จัดบุคคลไปตอบคำถามในทีวี
รายละเอียดในอีเมลหัวข้อ “จดหมายถึงท่านพงษ์ศักดิ์” นั้น ส่งเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2554 มีข้อความว่า“สถานการณ์ทางด้านกระแสสื่อที่เกิดขึ้นในขณะนี้ สถานการณ์คุณปู ยังอยู่ในภาวะที่ดีมาก ซึ่งจะต้องประคองกระแสนี้ให้อยู่ในระดับที่ไม่ตกไปกว่านี้ โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้าย เนื่องจากผมทราบจากนักข่าวสายประชาธิปัตย์ว่า นอกจากการเปิดแผลโจมตี จากกลุ่มบุคคลต่างๆ ที่มีสายสัมพันธ์กับประชาธิปัตย์แล้ว ตั้งแต่สัปดาห์หน้าประชาธิปัตย์จะใช้วิธีการทางด้านจิตวิทยา โดยใช้โพลสำรวจสำนักต่างๆ ออกมาสร้างกระแสว่าคะแนนนิยมระหว่างเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ จะเริ่มใกล้เคียงกัน เพื่อให้สัปดาห์สุดท้าย กระแสของประชาธิปัตย์แซงหน้าเพื่อไทย เพื่อทำให้จิตวิทยาของคนเมืองหันมาเลือกประชาธิปัตย์
สำหรับหน้าที่ ที่ผม และ น้องสุธิศา รับผิดชอบช่วยคุณปูอยู่ในขณะนี้
1.แจ้งประเด็นให้คุณปู ทราบทุกวันว่าวันนี้มีประเด็นอะไร ประเด็นไหนที่แรง ให้โยนไปให้ทีมคุณนิวัติธำรงค์ ช่วยแนะนำ
2.เช็กประเด็นจากสื่อมวลชนว่า จะถามอะไรคุณปู เพื่อให้คุณปูเตรียมตัวให้พร้อมที่จะพูด
3.สร้างประเด็นหรือภาพกิจกรรมในพื่นที่หาเสียงเพื่อให้ได้ภาพหน้า 1 ทุกวัน
4.ประสานหัวหน้าข่าวและโต๊ะข่าวการเมืองว่า ต้องการภาพแบบไหน เพื่อส่งให้ทุกวัน
5.ประสานสำนักข่าวต่างประเทศเพื่อให้ตามคุณปู ลงพื้นที่เพื่อให้ข่าวคุณปูออกไปทั่วโลก
6.ประสานสำนักข่าวในประเทศ เพื่อให้พรรค (คุณนิวัตธำรงค์) จัด บุคคลไปตอบคำถามในทีวี
ส่วนเรื่องดูแลสื่อในขณะนี้ ผมพยายามประคองกระแสให้ข่าวและรูปของคุณปูอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์ให้ได้ทุกวัน โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์หัวสี ไทยรัฐ (พี่โมทย์) มติชน (พี่เปียก กับ พี่จรัญ) ข่าวสด (พี่ชลิต) เดลินิวส์ (พี่ป๊อป สมหมาย) คม-ชัด-ลึก (คุณโจ้ และปรีชา ที่มาสัมภาษณ์ ที่บ้านเมื่อสัปดาห์ก่อน) ซึ่งทุกคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว ผมช่วยดูแลไปแล้วที่ละ 2 หมื่น ส่วนผู้สื่อข่าว ทีวี ก็ใช้วิธีเลี้ยงข้าวบ้าง เลี้ยงเหล้าบ้าง ยังไม่ได้มีใครเรียกร้องอะไร ยกเว้นช่อง …ที่ขอไวน์และเหล้า ส่วนเวลาไปต่างจังหวัด พี่สุณีย์ ก็ให้บ้าง ส่วนที่พรรคไม่เคยให้เลย เคยบอกพี่สาโรจน์ไปแล้ว แต่ก็ไม่มีคำตอบ
สำหรับสถานการณ์ทางการเมืองในเพื่อไทยในขณะนี้ ผมมองว่า ผู้สมัครไม่ลงพื้นที่หาเสียงเหมือนไทยรักไทยและพลังประชาชน รอกระแสคุณปูกันเพียงอย่างเดียว ทำให้คุณปูเหนื่อยมากทำให้คะแนนที่ได้กลัวว่าจะไม่ถล่มทลาย หากผู้สมัครช่วยลงพื้นที่หาเสียงมากกว่านี้ผมมองว่ากระแสเพื่อไทยถล่มทายแน่นอน ข้อเสนอแนะของผม หากท่านนายกทักษิณ ช่วยโทรกระตุ้นผู้สมัคร ให้ช่วยกันลงพื้นที่ผมว่าน่าจะเป็นแรงผลักดันที่ดีมาก เพราะวันนี้เสียงสะท้อนจากชาวบ้านกว่า 50% พูดป็นเสียงเดียวกันว่าจะเลือกตั้งอยู่แล้วยังไม่เห็นหน้าผู้สมัครเลย
อีกเรืองหนึ่ง คือ นักข่าวต่างประเทศหลายสำนักขอสัมภาษณ์ท่านนายกฯทักษิณ เช่น อาซาฮี ยูมิอูริ เอพี และ ไทยพีบีเอส (ไทย) พร้อมที่จะสัมภาษณ์ แต่ก็รอคำตอบจากท่านอยู่ ในความคิดเห็นส่วนตัว ผมว่าหากท่านอยากให้คุณปูเป็นนายกฯจริง ท่านน่าจะช่วยคุณปู ชี้แจงให้ชัดไปเลยเรื่องการนิรโทษ
เรียนมาเพื่อทราบ
วิม”
หลังอีเมลล์ได้รับการเผยแพร่ นายวิม รุ่งวัฒนะจินดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ได้เห็นอีเมล์ดังกล่าวแล้ว เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ไม่ได้เป็นผู้เขียนข้อความเกี่ยวกับสื่อ แต่ได้ส่งข้อมูลนโยบายด้านกีฬาไปให้นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทยจริง
รองโฆษกพรรคเพื่อไทยชี้แจงว่า อีเมล์ [email protected] เป็นเมล์ส่วนกลางเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือกองงานโฆษกพรรคเปิดเข้ามาใช้ในการรับ-ส่งข้อมูลต่างๆ ซึ่งทุกคนต่างทราบรหัสเป็นอย่างดี จึงอาจเป็นช่องทางให้บุคคลภายนอกที่ไม่หวังดีใช้โอกาสนี้เข้ามาทำลายตนและพรรคให้ได้รับความเสียหาย
“เคยทำงานด้านสื่อสารมวลชนมาเกือบ 20 ปี ทำให้เข้าใจในอาชีพสื่อเป็นอย่างดี การที่จะเอาเงินเพียงเล็กน้อยไปซื้อสื่อ หรือหวังขอให้สื่อทำตามความต้องการจึงเป็นไปไม่ได้ และก็เชื่อว่าสื่อทุกแขนงคงไม่ขายศักดิ์ศรีมาแลกกับเงินเพียงเล็กน้อย ผมต้องขอโทษสื่อหลายท่านด้วยที่พาดพิงให้ท่านเสียหาย” นายวิมกล่าว
สำหรับนายวิม ถือเป็นคนสนิทของนายพงษ์ศักดิ์ ซึ่งยังคงมีบทบาทอย่างมากในพรรคเพื่อไทย และด้วยความที่นายวิมเคยคลุกคลีงานด้านสื่อมาก่อน จึงมีสายสัมพันธ์อันดีกับสื่อทุกสำนักทุกแขนงอีกด้วย
ด้านนายปราโมทย์ ฝ่ายอุประ ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ หนึ่งในผู้ที่ปรากฏชื่อในอีเมล์ กล่าวว่า ไม่เคยไปร่วมรับประทานอาหารหรือมีความสัมพันธ์กับนายวิมอย่างที่ถูกอ้าง เรื่องนี้จึงต้องไปสอบถามนายวิมว่าเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตาม ทางสภาการฯ จะขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ส่วนจะออกแถลงการณ์ชี้แจงหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้
ส่วนนายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้สภาการหนังสือพิมพ์ฯ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลด้านจริยธรรมกำลังสอบสวนข้อเท็จจริง เบื้องต้นทราบว่าสภาการฯ ได้ประสานไปยังพรรคเพื่อไทยเพื่อขอข้อมูลแล้ว อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จำเป็นต้องสอบสวนอย่างละเอียด เนื่องจากยังไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ และข้อมูลดังกล่าวมีสิทธิ์จะถูกทำขึ้นมาได้
ช่วงค่ำ กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีมีข้อความว่า มีการจ่ายเงินให้แก่ “โจ้-ปรีชา” นักข่าว 2 คนของหนังสือพิมพ์ “คม ชัด ลึก” จำนวน 2 หมื่นบาท ว่า ทางบรรณาธิการอาวุโสเครือเนชั่นได้สอบสวนบุคคลทั้งสองที่ถูกพาดพิง จากการสอบสวนบุคคลทั้งสองได้ชี้แจงว่า ความสัมพันธ์กับนายวิมและนายพงษ์ศักดิ์เป็นไปตามความสัมพันธ์ระหว่างผู้สื่อข่าวกับแหล่งข่าวอย่างเคร่งครัด โดยไม่ได้มีผลประโยชน์โดยตรงหรือแอบแฝง ทั้งนี้ ทั้งสองคนพร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง และตอบทุกคำถาม ทุกประเด็นข้อสงสัย จากเพื่อนร่วมงานในเครือเนชั่น เวลา 16.00 น. ของวันที่ 1 ก.ค.นี้
อนึ่ง กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ “คม ชัด ลึก” ขอเรียกร้องให้สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ และสำหรับพรรคเพื่อไทยที่มีส่วนเกี่ยวข้องและถูกพาดพิงในกรณีนี้ ขอเรียกร้องให้ออกมาทำความกระจ่างชัดต่อสาธารณะ เนื่องจากเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรง และมีผลกระทบต่อสถาบันการเมืองและสถาบันวิชาชีพสื่อมวลชน
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1871 ครั้ง