นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยมีแนวคิดที่จะตั้ง พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นทูตพิเศษทางการค้าว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะทำงานเป็นประโยชน์ให้บ้านเมือง ให้น้องสาว แต่ฝากว่าสถานะของพ.ต.ท.ทักษิณในสายตาของคนไทยส่วนหนึ่งคิดว่า เป็นคนที่หนีไปต่างประเทศ ดูจะไม่สง่างามในการทำหน้าที่ พรรคเพื่อไทยจะจัด ครม.อย่างไรก็ต้องเปิดโอกาสในฐานะพรรคแกนนำ ว่าที่นายกฯต้องใช้อำนาจในการบริหารจัดการประโยชน์ของบ้านเมือง ส่วนจะแต่งตั้งใครโดยชั่งน้ำหนักแล้วเห็นว่า เป็นประโยชน์เป็นสิทธิของน.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่าเพิ่งไปวิพากษ์วิจารณ์ ควรเปิดโอกาสให้ทำเต็มที่ไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นาย อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ติดต่อขอเข้ามอบตัวนั้น นายศุภชัย กล่าวว่า เป็นสิทธิผู้ต้องหาในการเข้ามอบตัว แต่ฝากเพื่อไทยในฐานะที่จะมาเป็นฝ่ายบริหาร หวังว่า จะไม่เข้ามาแทรกแซง การทำงานของข้าราชการประจำโดยเฉพาะกระบวนการยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หลายฝ่ายตั้งความหวังต่อ ครม.ใหม่ แต่หากมีเสื้อแดงเข้าไปเป็นรัฐมนตรีจะเป็นอย่างไร นายศุภชัย กล่าวว่าสังคมต้องยอมรับความจริงที่ผ่านมา การบริหารจัดการของพรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดง หรือกลุ่ม นปช. ล้วนเป็นเนื้อเดียวกันคือแบ่งหน้าที่กันทำ เมื่อได้รับชัยชนะการเลือกตั้งเขาหลอมเป็นหนึ่งเดียว อย่าไปแยกเลย สำหรับตนนั้นผู้ที่สู้การเมืองภาคประชาชน ควรจะตอบแทนเขา ต้องตั้งคำถามว่า นายจตุพร พรมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ไม่เหมาะสมตรงไหน เขาเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อได้รับชัยชนะ ต้องตอบแทนเขา เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะใช้ความเด็ดขาดในการที่จะบอก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า ต้องตั้งบุคคลเหล่านี้ให้ไปดำรงตำแหน่ง ไม่อย่างนั้นแล้วใครจะกล้าเอาชีวิตไปแลกให้พ.ต.ท.ทักษิณอีก เท่าที่ดูรายชื่อต้องบอกว่า ในเพื่อไทย ส.ส.ที่ได้มา แล้วบอกว่า ต้องเป็นรัฐมนตรี แล้วปล่อยให้คนที่อยู่บนเวที โดนระเบิดต่างๆ นาๆ ในที่สุดไปบอกให้เป็น ส.ส. อย่างเดียวคงไม่ยุติธรรมกับนักสู้ที่เสี่ยงชีวิตเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ผมสนับสนุนนักรบทั้งหลายถึงเวลาที่ต้องเป็นรัฐมนตรี
อีกด้านหนึ่ง บทความหนึ่งของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ของสหรัฐพาดหัวว่า ความฝันของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะทำให้ประชาธิปไตยไทยถึงจุดจบ และเนื้อหาสำคัญระบุว่า ไทยเคยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประชาธิปไตยแข็งแกร่งที่สุดในเอเชีย แต่ปัจจุบันกลับถอยหลังเข้าคลอง และยิ่งพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ทำให้ไทยเสี่ยงสูญเสียโอกาสสุดท้ายที่จะทำให้ประชาธิปไตยเดินหน้าได้อีกครั้ง
ตอนนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ กำลังจะเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย จึงมีโอกาสที่จะฟื้นฟูประชาธิปไตย แต่หากเธอไม่คว้าโอกาสนี้ไว้ ประเทศไทยก็อาจกลับคืนสู่ความขัดแย้งในสังคม
แม้ยิ่งลักษณ์สัญญาว่าจะนำพาประเทศสู่ความปรองดอง กองทัพสัญญาว่าจะไม่ก้าวก่ายรัฐบาลของเธอ แต่ช่วงเวลาอย่างนี้อาจไม่ยืนยาวนัก และแม้ยิ่งลักษณ์เลี่ยงที่จะพูดถึงการพาพี่ชายกลับประเทศ แต่พรรคเพื่อไทยสัญญาไว้ตอนหาเสียงว่าจะผลักดันการนิรโทษกรรมเพื่อให้ทักษิณกลับประเทศได้ และแม้ทักษิณอ้างว่าอยากเกษียณ แต่ไม่เคยอยากหลบไปเก็บตัวเงียบๆ และท่ามกลางความแตกแยกในไทยขณะนี้ หากเขากลับประเทศจริงอาจทำให้เกิดการประท้วงตามท้องถนนของชนชั้นกลางได้ และกองทัพอาจต้องเข้ารักษาความสงบเรียบร้อย
ดังนั้นในระยะยาวแล้ว ทุกฝ่ายต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงอันเจ็บปวด คนยากจนและผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ก็ต้องยอมรับว่าเขาพวกเขาต้องคุ้มครองหลักนิติรัฐ และต้องไม่ปล่อยให้ทักษิณกลับไทย แม้ว่าจะชื่นชอบเขามากแค่ไหนก็ตาม
ส่วนชนชั้นกลาง ก็ต้องยอมรับวิถีทางประชาธิปไตยและเจตนารมณ์ของผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง และที่ยากที่สุดคือ ทักษิณต้องยอมรับว่า เขาได้พ้นจากตำแหน่งแล้วจริงๆ หากต้องการเห็นประเทศเจริญก้าวหน้า และเกียรติประวัติของตัวเองยังคงเป็นที่จดจำ แต่หากเขายืนยันที่จะกลับประเทศและน้องสาวก็เห็นด้วยนั้น เขาก็จะต้องรับผิดชอบต่อจุดจบของประเทศไทยที่เคยได้ชื่อว่ามีประชาธิปไตยที่เบ่งบาน
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1032 ครั้ง