เวลา 14.00 น. วันที่ 5 กรกฏาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้ายื่นหนังสือต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองและกกต.ให้พิจารณาคุณสมบัติของนายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยที่ลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.กทม.เขต 6 ว่ายังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่หรือไม่ เพราะจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายพบว่านายก่อแก้วได้ถูกคุมขังโดยหมายศาลอยู่น่าจะมีลักษณะต้องห้ามที่ทำให้ความเป็นสมาชิกภาพรรคเพื่อไทยของนายก่อแก้วสิ้นสุดลงส่งผลให้ไม่มีสิทธิได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนพรรคในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ตามข้อบังคับพรรคเพื่อไทย พ.ศ.2551 ในข้อ 9 ข้อ10และ ข้อ13 กำหนดคุณสมบัติ ข้อห้าม และการสิ้นสุดการเป็นสมาชิกพรรคไว้
“นายก่อแก้วได้ถูกคุมขังตามหมายศาล จึงทำให้น่าจะขาดจากความเป็นสมาชิกพรรคนับแต่วันที่ถูกขัง ทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็นสมาชิกพรรคไม่ครบ 90 วันตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อขาดความเป็นสมาชิกพรรคก็ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 ที่กำหนดว่าต้องเป็นสมาชิกพรรคใดพรรคหนึ่งไม่น้อยกว่า 90วันนับถึงวันเลือกตั้งดังนั้นนายก่อแก้วไม่มีสภาพเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยก่อนวันรับสมัครเลือกตั้งส.ส. ตามมาตรา 101 ของรัฐธรรมนูญประกอบมาตรา 34 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. จึงขอให้กกต.พิจารณาและเพิกถอนการสมัครรับเลือกตั้งนายก่อแก้วโดยเร่งด่วนก่อนมีการเลือกตั้งในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้” นายนิติธรกล่าว
นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 6 กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยหาเสียงโดยชูให้เลือกนายก่อแก้ว พิกุลทอง ผู้สมัครส.ส.เขต 6 กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย เพื่อนำพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับประเทศว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ตนไม่ได้มองถึง พ.ต.ท.ทักษิณเลย และไม่ได้มองเรื่องการได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะแต่ละพรรคก็มีเป้าหมายของตัวเอง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็มี คือ การเลือกคนดีเข้าไปทำงานในสภา และนำเสนอนโยบายที่เกี่ยวข้องกับประชาชนในพื้นที่นั้น ทั้งนี้ เชื่อว่าประชาชนมีข้อมูลและติดตามการเมืองอย่างใกล้ชิด ดังนั้น การตัดสินใจของประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ 4 แสนคน แต่ละคนก็คงจะมีเป้าหมายเลือกคนดีเข้าสภาอยู่แล้ว คงมองเป้าหมายการพัฒนาประเทศมากกว่า มองเป้าหมายของคนใดคนหนึ่ง ซึ่งไม่ได้ทำให้ตนหนักใจอะไร