วัน 8 ก.ค.เวลา 09.00 น. ศาลอาญาได้เบิกตัวนายวีระ มุสิกพงศ์ อายุ 62 ปี ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อายุ 35 ปี นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท อายุ 59 ปี และ นพ.เหวง โตจิราการ อายุ 59 ปี แกนนำ นปช. ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มาเพื่อสอบคำให้การในคดีที่ถูกพนักงาน พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้า หรือผู้มีหน้าที่สั่งการ, ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังขู่เข็ญ และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุมเลิกไปแล้วไม่เลิก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 วรรค 2, 215, 216 ประกอบมาตรา 33, 83 และ 91 โดยเมื่อวันที่ 22 ก.ค.50 ได้พาพวกผู้ชุมนุม นปช. ปิดล้อมบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ
โดยวันนี้จำเลยทั้งหมด นายวีระ นายวิภูแถลง นพ.เหวง ถูกควบคุมตัวมาในชุดนักโทษเสื้อคอกลมสีเลือดหมู กางเกงขาสั้นสีเลือดหมู ใส่กุญแจมือ ยกเว้นนายณัฐวุฒิไม่ใส่กุญแจมือ แต่ใส่โซ่ตรวน ซึ่งอัยการศาลได้นำตัวมาที่ห้องเวรชี้ ใต้ถุนศาลอาญา และอ่านอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟังเป็นที่เข้าใจแล้ว สอบคำให้การว่าจะรับสารภารหรือปฏิเสธ ซึ่งจำเลยทั้งหมดปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และแจ้งต่อศาลว่าได้เตรียมทนายไว้ต่อสู้แล้ว ศาลได้นัดตรวจพยานหลักฐาน วันที่ 23 ส.ค.เวลา 09.00 น.
อย่างไรก็ตาม หลังจากสอบคำให้การเสร็จเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ยังไม่ควบคุมตัวทั้งหมดกลับ เนื่องจากเป็นวันที่ครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 2 ซึ่งต้องยื่นขอฝากขังต่อเป็นผลัดที่ 3 ในคดีก่อการร้าย
ทั้งนี้ คำฟ้องบรรยายความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ค.50 นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล แกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006, นายวีระศักดิ์ เหมธิลิน และนายวันชัย นาพุทธา สมาชิกแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จำเลยที่ 1-3 คดีหมายเลขดำที่ อ.3531/ 2552 และจำเลยที่ 1-4 คดีนี้ กับพวกอีกหลายคนที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ซึ่งมีบุคคลที่มีมีดดาบ มีดดายหญ้า มีดปลายแหลม หลายเล่มเป็นอาวุธ ร่วมกันใช้กำลังประทุษร้าย ซึ่งมีจำเลยที่ 1-4 คดีนี้ นายนพรุจ จำเลยที่ 1 คดีหมายเลขดำที่ อ.3531/2552 เป็นหัวหน้ามีหน้าที่สั่งการ ที่อยู่บนรถบรรทุก นำการเคลื่อนย้ายขบวนผู้ชุมนุมหลายพันคน และเวทีปราศรัยเคลื่อนที่ จากสนามหลวง ไปตาม ถ.ราชดำเนินกลาง ราชดำเนินนอก มุ่งหน้าไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เพื่อเรียกร้องกดดันให้ พล.อ.เปรมลาออกจากตำแหน่ง อันเป็นการล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพของ พล.อ.เปรม และทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการไม่สามารถใช้รถ หรือเส้นทางจราจรได้ตามปกติ และเมื่อเจ้าพนักงานตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ตั้งจุดสกัดป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนย้ายเข้าไปก่อความวุ่นวาย จำเลยกับพวกผู้ชุมนุม ร่วมกันใช้กำลังประทุษร้าย ขว้างปาวัตถุต่างๆ และผลักดันเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งทำร้ายเจ้าหน้าที่ขับรถขนขยะแล้วยึดรถยนต์มาขับเอง โดยพุ่งชนรั้วกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งการให้กลุ่มชุมนุมยุติการชุมนุม จำเลยกับพวก กลับใช้กำลังฝ่าด่านจุดสกัดไปได้จนถึงบริเวณบ้านพักของ พล.อ.เปรม แล้วพวกจำเลยจึงปักหลักชุมนุมโดยใช้รถยนต์เป็นเวทีปราศรัยกล่าวโจมตี พล.อ.เปรม รัฐบาลและ คมช.ว่าอยู่เบื้องหลังการยึดอำนาจทำรัฐประหาร ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อรับทราบคำสั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งให้ยุติการชุมนุมแล้วยังขัดขืน ขว้างปาก้อนหิน วัตถุสิ่งต่างๆ รวมทั้งกระถางต้นไม้ รั้วไม้ อิฐตัวหนอนที่ปูทางเท้า ของชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง เป็นอาวุธขว้างปาทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยพนักงานสอบสวน ได้ตัวจำเลยที่ 1-4 มาสอบสวนเมื่อวันที่ 26 ก.ค.50 แล้ว จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1418 ครั้ง