พนักงานสอบคดีพิเศษ ควบคุมตัวนายรชต หรือ ส.ต.รชต หรือ กบ วงศ์ยอด อายุ 27 ปี ชาว จ.ฉะเชิงเทรา คนสนิท พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง อดีต ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ผู้ต้องหาคดีร่วมกันสนับสนุนกระทำผิดฐานก่อการร้าย มายื่นคำร้องขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วันตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค.- 3 ส.ค.นี้ เนื่องจากต้องสอบพยานบุคคลเพิ่มเติมอีก 20 ปาก รอผลตรวจพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งการตรวจสอบข้อมูลทางโทรศัพท์ ข้อมูลธุรกรรมทางการเงิน ประกอบการดำเนินคดี
โดย คำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างเดือน พ.ย.52 –พ.ค.53 ในพื้นที่ กทม. ปริมณฑล และพื้นที่บางจังหวัด ของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางบางจัดหวัด ผู้ต้องหาซึ่งเป็นหนึ่งในกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)ได้ร่วมกับผู้ต้องหาคนอื่นๆในการเตรียมอาวุธหรือใช้อาวุธสงคราม M 79 หรือปืนกล M 16 เพื่อใช้ปฏิบัติการก่อ วินาศกรรมต่อสู้กับทหาร ตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย จนทำให้มีทหารและประชาชนบาดเจ็บล้มตายในระหว่างการชุมนุมของ นปช.โดยในวันนี้ (23 ก.ค.) เวลา 09.30 น. พนักงานสอบสวนจึงสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา โดยแจ้งข้อหากระทำผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135 /1 -3 ประกอบมาตรา 83-86 ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธโดยตลอด
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีพยานหลักฐานเชื่อว่าผู้ต้องหากับพวกกระทำผิดอาญาร้ายแรง มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต เกรงว่าผู้ต้องหาอาจหลบหนีไปก่อเหตุวุ่นวายร้ายแรงอื่นอีก ประกอบกับสถานการณ์บ้านเมืองทั้งขณะนี้ก็ไม่เป็นที่ไว้วางใจด้านความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยในประเทศ
ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน อนุญาตให้ฝากขังได้
นายโสภณ ธิติธรรมพฤกษ์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กล่าวถึง การควบคุมตัว ส.ต.รชต หรือ กบ วงศ์ยอด ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯว่า ผู้ต้องขังอยู่ที่แดนแรกรับ เพื่อทำประวัติ และแจกหนังสือระเบียบการใช้ชีวิตในเรือนจำ แต่เท่าที่ได้พูดคุยกับเจ้าตัวรู้สึกว่า นายกบ มีความเครียดมาก ทั้งยังตื่นกลัวกับการเข้ามาอยู่ในเรือนจำ จึงได้จัดเจ้าหน้าที่ให้เข้าไปให้การดูแลเป็นพิเศษ
ส่วนการควบคุมตัวนายสุรชัย หรือ หรั่ง เทวรัตน์ ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย และคนสนิท พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ขณะนี้ได้ย้ายไปควบคุมตัวที่แดนความมั่นคงสูง โดยกำชับให้แยกคนสนิทของเสธ.แดง ไม่ให้นำมาอยู่รวมในแดนเดียวกัน ซึ่งเป็นบรรทัดฐานเดียวกับการแยกแกนนำ นปช.ที่กระจายไปควบคุมยังแดนต่าง ๆ แต่เนื่องจากเรือนจำมีพื้นที่จำกัดเพียงแค่ 8 แดน ดังนั้น จึงอาจมีบ้างบางส่วนที่อยู่แดนเดียวกัน จึงต้องเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะยอมรับว่าบุคคลเหล่านี้มีประวัติที่อันตราย
ทั้งนี้ วันที่ 23 ก.ค. เวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้ควบคุมตัว ส.ต.รชต หรือกบ วงศ์ยอด คนสนิท และคนขับรถพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีร่วมกันสนับสนุนกระทำผิดฐานก่อการร้าย ที่กองพลทหารราบที่ 15 ศูนย์การทหารราบ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากนั้น รีบนำตัวมาสอบสวนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อสอบปากคำในคดีที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย ที่มีส่วนเชื่อมโยงกับคดีที่เกี่ยวข้องพล.ต.ขัตติยะ ซึ่งพล.ต.ขัตติยะ เป็นผู้พลักดันให้ส.ต.รชต ได้เข้ารับราชการเป็นทหารดังกล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้ประสานการสืบสวนร่วมกับกองทัพบก จนทำให้สามารถจับกุมส.ต.รชตได้ โดยทันทีที่ควบคุมตัวมาถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวเข้าควบคุมภายในห้องควบคุมชั้น 6 เพื่อสอบสวนขยายผลในคดีก่อการร้าย โดยเจ้าหน้าที่ดีเอสไอยืนยันว่า ส.ต.รชตที่จับกุมตัวได้ในครั้งนี้ เป็นคนคนเดียวกับนายกบ วงศ์ยอด ที่ทางดีเอสไอได้ออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ ไม่ใช่คนที่มีชื่อและนามสกุลซ้ำกัน ซึ่งหลังการจับกุมเบื้องต้น ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะได้รายงานข้อเท็จจริงให้ที่ประชุมศูนย์อำนวยการแก้ไขในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือศอฉ.ทราบต่อไป เนื่องจากผู้ต้องหาถือเป็นกำลังพลของกองทัพบก
จากการสอบสวนเบื้องต้น ส.ต.รชต ยังคงให้การภาคเสธ โดยอ้างว่า ถูกส่งตัวไปปฏิบัติภารกิจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีก่อการร้าย ในการยิงเอ็ม 79 แต่ยอมรับเพียงว่า เคยเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง และมีความชื่นชอบศรัทธาในอุดมการณ์ของพล.ต.ขัตติยะ โดยที่ผ่านมา ได้มีส่วนรับฟังการวางแผนของชุดกองกำลังชายชุดดำเพื่อตอบโต้ฝ่ายรัฐบาล แต่ไม่เคยเข้าไปร่วมก่อเหตุในคดีอุกฉกรรจ์ต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างการชุมนุม
นอกจากนี้ ส.ต.รชต ยังมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับนายสุรชัย หรือหรั่ง เทวรัตน์ ผู้ต้องหาในคดีก่อการร้ายที่ดีเอสไอเพิ่งจับกุมได้เมื่อไม่นานนี้ อีกทั้งอาจจะเกี่ยวข้องกับคดีที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ล่อซื้ออาวุธสงครามจากนายหรั่ง ทั้งปืนอาก้า และเครื่องยิงเอ็ม 79 พร้อมกระสุนและระเบิดจำนวนมากด้วย
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1260 ครั้ง