วันนี้ 3 ส.ค.53 เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมวอร์รูม ชั้น 2 อาคารศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ.สุขยางค์ อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงและกิจการพิเศษ (มก1) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ จ.ยะลา เพื่อติดตามสถานการณ์การก่อความไม่สงบและติดตามความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีสำคัญๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยในช่วงเดือนรอมฎอนระหว่างเดือนสิงหาคม–กันยาน นี้ พร้อมทั้งเยี่ยมบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าอยู่ในพื้นที่ โดยมี พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.ต.ต.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ข้าราชการตำรวจระดับสูงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมให้การต้อนรับ
หลังจากนั้นเวลาประมาณ 13.30 น. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษา (มก 1) ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ส.ต.ต.ชินพัฒน์ กาญจนวงศ์ ผบ.หมู่ (ป) สภ.ราตาปันยัง อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ช่วยราชการ สภ.โคกโพธิ์ ที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต เมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 28 ก.ค.53 ที่ผ่านมา โดยทำจะทำพิธีพระราชเพลิงศพ ที่ศาลาสวดพระอภิธรรมศพ วัดมะเดื่อทอง อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษา (มก1) กล่าวว่า การลงมาในพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อมาตรวจเยี่ยมหน่วยกำลังที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ และเข้ารับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ พร้อมทั้งรับฟังความคืบหน้าคดีสำคัญๆ และมอบนโยบายเพิ่มเติมให้กับหน่วยที่ปฏิบัติงานในพื้นที่สำหรับในช่วงเดือนถือศีลอดของพี่น้องชาวไทยมุสลิม หรือเดือนรอมฎอน ซึ่งในปีที่ผ่านมาพบว่ามีสถานการณ์เกิดขึ้นค่อนข้างมาก จึงได้กำชับให้หน่วยกำลังที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เพิ่มความระมัดระวัง และประสานงานกับหน่วยข้างเคียงเพื่อควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ไว้ให้ได้
ส่วนในเรื่องการสร้างมวลชนนั้น ตนเองได้มอบนโยบายเน้นย้ำลงไปในพื้นที่ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงไปร่วมกิจกรรมกับชาวบ้านในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการไปร่วมงานการละศีลอด หรือ ไปร่วมกิจกรรมตามมัสยิดต่าง ๆ ซึ่งได้สั่งการลงไปแล้ว โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นับถือศาสนาอิสลามเป็นหลัก
ที่ปรึกษา (มก1) ยังกล่าวอีกว่า ส่วนในพื้นที่ของ อ.บันนังสตา จ.ยะลา หลังเกิดการปะทะระหว่างคนร้ายกับเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย จนสามารถวิสามัญคนร้ายได้จำนวน 2 รายนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งทหารและฝ่ายปกครอง ได้มีการเตรียมพร้อมเพื่อรับสถานการณ์การตอบโต้ของกลุ่มคนร้ายเอาไว้อยู่แล้ว ซึ่งในภาพรวมของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ของ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในรอบ 10 เดือนที่ผ่านมา พบว่าสถานการณ์ต่าง ๆ ลดลงไป 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าสามารถคุมสภาพได้พอสมควร แต่อย่างไรก็ตามก็ยังคงเกิดสถานการณ์อยู่เป็นช่วงๆ ตามจังหวะของฝ่ายตรงข้าม
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1107 ครั้ง