ทุนดูไบเตรียมเลหลังสินทรัพย์ในเอเชียเพิ่ม

กลุ่มบริษัทต่างๆที่รัฐบาลดูไบเข้าไปถือหุ้นขณะนี้ได้เริ่มเจรจาเพื่อขายสินทรัพย์ที่ลงทุนในเอเชียเพื่อนำเงินที่ได้ไปชำระหนี้หนี้ต่างประเทศมูลค่ามหาศาล
 
แหล่งข่าวเปิดเผยกับไฟแนนเชียลไทม์ส (เอฟที) ว่า เอ็มมาร์ พร็อพเพอร์ตีกำลังเจรจาเพื่อหาผู้ซื้อหุ้นในบริษัทผู้จัดจำหน่ายและค้าปลีกของสิงคโปร์ อาร์เอสเอช ปัจจุบันอาร์เอสเอชมีเครือข่ายการกระจายสินค้าและร้านค้าปลีกทั่วเอเชียและตะวันออกกลาง อาร์เอสเอชเป็นตัวแทนจำหน่ายเสื้อผ้ายี่ห้อดังอย่าง Zara และ Mango ด้วย
 
นอกจากนั้นแล้วยังมีข่าวว่าบริษัทลูกของดูไบโฮลดิ้งกำลังทาบทามให้กลุ่มทุนยิวรอธส์ไชล์ด (Rothschild) วาณิชธนกิจรายใหญ่จากยุโรปให้ช่วยทำดีลหาผู้ซื้อหุ้น 40% ที่ดูไบถืออยู่ใน Bank Islam ธนาคารอิสลามรายใหญ่ของมาเลเซียด้วย ดูไบโฮลดิ้งมีชีคโมฮัมเม็ด บิน ราชิด อัล มักทูม เจ้าผู้ครองรัฐดูไบเป็นเจ้าของ
 
ขณะเดียวกันบริษัทอีกแห่งของดูไบคือ ดูไบ เวิร์ล ซึ่งกำลังอยู่ในกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้มูลค่า 22,000 ล้านดอลลาร์ก็กำลังวางแผนขายสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงเพื่อหาเงินมาชำระหนี้ด้วย โดยในสัปดาห์ที่แล้วบริษัทลูกของดูไบ เวิร์ล นาม อิชทิธมาร์ ประกาศขายบริษัท Inchape Shipping Services ธุรกิจเดินเรือที่บริษัทถือหุ้นอยู่
 
ปัจจุบันเอ็มมาร์ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลางซึ่งรัฐบาลถือหุ้นอยู่ประมาณ 1 ใน 3 มีหุ้นอยู่ในอาร์เอสเอช 60% โดยปีงบประมาณล่าสุด สิ้นสุด ณ 31 มีนาคม 2009 ที่ผ่านมา อาร์เอสเอช มีรายได้ 773 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และมีมูลค่าหุ้นตามราคาตลาดล่าสุด 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
 
แหล่งข่าวยังเปิดเผยว่า ธนาคารดีบีเอสของสิงคโปร์อยู่ในกระบวนการทำดีลขายหุ้นของเอ็มมาร์ในอาร์เอสเอชด้วย อาร์เอสเอชและเอ็มมาร์ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้
 
ที่มา Financial Times
http://www.ft.com/cms/s/0/4b2981a4-15ab-11df-ad7e-00144feab49a.html?nclick_check=1