ผู้รอดชีวิตจากมะเร็งเต้านมจำนวนมากใช้ยาต่อต้านฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นเวลาอย่างน้อยห้าปีเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดซ้ำ

ตอนนี้งานวิจัยใหม่แสดงให้เห็นว่าการทานยาดังกล่าวเป็นเวลานานอาจไม่ได้ประโยชน์ใด ๆ เพิ่มเติม – อย่างน้อยก็ในแง่ของการเอาชีวิตรอด

จากการศึกษาผู้รอดชีวิตจากมะเร็งเต้านมหลายพันคนพบว่าการใช้ยา aromatase inhibitor drug letrozole (Femara) นานกว่าห้าปีที่แนะนำไม่ได้ช่วยให้พวกเขามีชีวิตยืนยาวขึ้น

อย่างไรก็ตามผลประโยชน์อื่น ๆ ได้ถูกบันทึกไว้ดังนั้นการตัดสินใจที่จะขยายการใช้ยาเช่นนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในแต่ละกรณีผู้เชี่ยวชาญโรคมะเร็งกล่าว

ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้องอกวิทยาคนหนึ่งที่ตรวจสอบสิ่งที่ค้นพบใหม่กล่าวว่าการศึกษาดังกล่าวได้รับการ “รออย่างกระตือรือร้น” เนื่องจากผู้รอดชีวิตจากมะเร็งเต้านมจำนวนมากได้รับคำแนะนำให้ใช้ตัวยับยั้งอะโรมาเทส

“ สำหรับตอนนี้การทดลองนี้ตอกย้ำความจำเป็นที่จะต้องฟังผู้ป่วยของเราและชั่งน้ำหนักความเสี่ยงของผลข้างเคียงก่อนที่จะขยายการรักษาถึง 10 ปี” ดร. Nina D’Abreo ผู้อำนวยการแพทย์ของโปรแกรมสุขภาพเต้านมที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยวิน ธ รัพ ใน Mineola รัฐนิวยอร์ก

มะเร็งเต้านมหลายรูปแบบอาจเติบโตต่อหน้าเอสโตรเจนดังนั้นยาเช่นเอสโตรเจนที่ยับยั้งการทำงานของอะโรมาเทสจะถูกใช้เพื่อช่วยป้องกันโรค

แต่ผู้ที่รอดชีวิตจากมะเร็งเต้านมควรอยู่กับยาเสพติดนานแค่ไหน

เพื่อช่วยในการค้นหานักวิจัยได้ติดตามผลลัพธ์สำหรับสตรีวัยหมดประจำเดือนเกือบ 4,000 คนที่เป็นมะเร็งเต้านมที่รับฮอร์โมนในระยะเริ่มแรก (หมายถึงเนื้องอกมีความไวต่อฮอร์โมนเอสโตรเจน) ผู้หญิงใช้ยา letrozole หรือยาหลอกโดยเฉลี่ยประมาณสองปีหลังจากการบำบัดด้วยสารยับยั้ง aromatase ห้าปี

ผลการศึกษา: ผู้หญิงที่ใช้ยา letrozole ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้นไม่ได้รับอัตราการรอดชีวิตที่“ ปลอดโรค” อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติหรือการรอดชีวิตโดยรวมสูงกว่ากลุ่มที่ได้รับยาหลอก

มีประโยชน์อื่นอย่างไร ตัวอย่างเช่นผู้หญิงที่ขยายการใช้ letrozole พบว่าการลดลงของการกำเริบของโรคมะเร็งเต้านมถึง 29 เปอร์เซ็นต์และการลดลง 28% ของเนื้องอกที่เกิดขึ้นที่บริเวณนอกเต้านม

การศึกษาครั้งนี้นำโดยดร. เทอร์รี่มาโมนาสผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของโครงการเต้านมครบวงจรที่ศูนย์มะเร็งสุขภาพมหาวิทยาลัยฟลอริดาในออร์แลนโด เขานำเสนอผลลัพธ์เมื่อวันพุธที่การประชุมวิชาการมะเร็งเต้านมประจำปีของซานอันโตนิโอในเท็กซัส

ผู้หญิงที่ใช้ Letrozole เพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็พบว่ามี “ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเหตุการณ์ [2.5] หลังจาก 2.5 ปี” Mamounas ตั้งข้อสังเกตในการแถลงข่าว การปรับตัวเล็กน้อยในความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดหมายความว่าผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าที่พิจารณาเวลาพิเศษเกี่ยวกับยาเสพติด “จะต้องมีการประเมินความเสี่ยงและผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างระมัดระวัง” เขากล่าว

การประเมินแต่ละกรณีจะเกี่ยวข้องกับการอภิปรายของปัจจัยต่าง ๆ ของผู้ป่วยเช่นอายุของผู้ป่วยที่วินิจฉัยว่ามะเร็งแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองโรคอื่น ๆ ที่ผู้ป่วยอาจมีความหนาแน่นของกระดูกของเธอและผลข้างเคียงที่เธอมี Mamounas กล่าวว่ามีประสบการณ์จากยายับยั้ง aromatase

สำหรับส่วนของเธอ D’Abreo ตกลงกันว่าการตัดสินใจว่าจะใช้ตัวยับยั้ง aromatase เกินห้าปีนั้นดีที่สุดในแต่ละกรณี

“สำหรับกลุ่มย่อยของผู้หญิงที่มีโรค ‘ความเสี่ยงสูง’ นี่อาจคุ้มค่ากับผลข้างเคียง” เธอกล่าว “ มะเร็งในเชิงบวกของฮอร์โมนอาจยังคงเกิดขึ้นอีกในภายหลังและสำหรับผู้ป่วยของเราที่มีอายุยืนยาวขึ้นสุขภาพดีขึ้นอาจมีประโยชน์ในการรักษาแบบขยายนอกเหนือจากระยะเวลาเจ็ดปีของการสังเกตในการทดลองนี้”

ดร. รูบี้ชาร์เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้องอกวิทยาทางการแพทย์ของสถาบันมะเร็งสุขภาพ Northwell ในเลกซัส, นิวยอร์กเธอเห็นด้วยว่าจากการค้นพบ “การตัดสินใจที่จะกำหนดเพิ่มเติมห้าปีของการรักษาต่อมไร้ท่อจะต้องเป็นรายบุคคลสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย การเกิดซ้ำและผลข้างเคียงของการรักษา “

การศึกษาได้รับทุนจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติสหรัฐอเมริกาและ บริษัท ยาโนวาร์ทิสซึ่งทำให้เฟมารา

ผู้เชี่ยวชาญทราบว่าการค้นพบที่นำเสนอในที่ประชุมทางการแพทย์นั้นโดยทั่วไปถือว่าเป็นข้อมูลเบื้องต้นจนกระทั่งตีพิมพ์ในวารสารที่ผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ