การระบาดของโรคไข้หวัดนกซึ่งส่งผลให้มีการฆ่าไก่และไก่งวงหลายล้านตัวในสหรัฐอเมริกามีโอกาสน้อยมากที่จะป่วยเป็นมนุษย์

เหตุผล: การแต่งหน้าทางพันธุกรรมของไวรัสที่อยู่เบื้องหลังการระบาดคือ

แตกต่างจากไวรัสไข้หวัดนกตัวอื่น ๆ ที่ป่วยมากกว่า 600 คนใน 15 ประเทศจากข้อมูลของดร. อลิเซียฟรายนักระบาดวิทยาและเจ้าหน้าที่การแพทย์ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติเพื่อการสร้างภูมิคุ้มกันและระบบทางเดินหายใจแห่งชาติ

“ CDC พิจารณาความเสี่ยงต่อมนุษย์ที่จะต่ำ” ทอดกล่าวในระหว่างการบรรยายสรุปสื่อเช้า แต่เป็นไปได้ว่าอาจมีการติดเชื้อในมนุษย์โดยเฉพาะในหมู่คนงานในฟาร์มที่จัดการสัตว์ปีกที่ติดเชื้อเธอกล่าว

ไข้หวัดนกแพร่กระจายโดยนกป่าโดยเฉพาะนกน้ำ การระบาดของโรคนอกสหรัฐอเมริกาเกิดขึ้นในเอเชียแอฟริกาตะวันออกใกล้และบางส่วนของยุโรปอ้างอิงจาก CDC

การระบาดของโรคไข้หวัดนกในสหรัฐอเมริกาเริ่มขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้วและเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมามีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างมากในรัฐมิดเวสต์เช่นไอโอวามินนิโซตาและวิสคอนซิน วารสาร Wall Street

รายงาน

Fry กล่าวว่าไม่ค่อยมีใครรู้เกี่ยวกับไวรัส H5N2 ที่มีอยู่ในสหรัฐอเมริกาเพราะเพิ่งถูกระบุเมื่อไม่นานมานี้ “ แต่เรารู้ว่าถ้าเราดูยีนของพวกเขาเราจะไม่เห็นเครื่องหมายทางพันธุกรรมใด ๆ ที่ในอดีตมีความสัมพันธ์กับการแพร่เชื้อสู่มนุษย์” เธอกล่าว “นั่นเป็นสัญญาณที่ดี”

ในกรณีที่ CDC กำลังรวบรวมตัวอย่างของไวรัสและสายพันธุ์ของสารพันเพื่อดูว่าคนที่อาจจะเป็นผู้สมัครที่ดีสำหรับวัคซีนมนุษย์ที่เป็นไปได้ควรมีความจำเป็น นี่เป็นขั้นตอนแรกในการสร้างวัคซีน แต่ในเวลานี้ทางเอเจนซี่ยังไม่มีแผนที่จะทำงานนอกเหนือจากงานเบื้องต้นนี้

“ เรามองโลกในแง่ดีอย่างระมัดระวังว่าเราจะไม่เห็นกรณีของมนุษย์ แต่มีความเป็นไปได้อย่างแน่นอนที่เราอาจทำได้” ฟรายกล่าว

คำแนะนำที่ดีที่สุดที่ CDC มีสำหรับประชาชนทั่วไปคือการหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับนกป่าและไก่หรือไก่งวงที่ป่วยหรือเสียชีวิต

นอกจากนี้ในการบรรยายสรุปของสื่อดร. จอห์นคลิฟฟอร์ดหัวหน้าเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯกล่าวว่าการจัดหาอาหารของประเทศนั้นปลอดภัย “ นกเหล่านี้ไม่เข้าสู่แหล่งอาหารของมนุษย์” เขากล่าว

กรมวิชาการเกษตรกำลังดำเนินการหลายขั้นตอนเพื่อควบคุมการระบาดรวมถึงการทดสอบเพื่อตรวจหาไวรัสและวัคซีนเพื่อป้องกันไก่และไก่งวงดร. เดวิดสเวนน์ผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการวิจัยสัตว์ปีกตะวันออกเฉียงใต้ของ USDA กล่าวในระหว่างการบรรยายสรุป

คลิฟฟอร์ดกล่าวว่าไวรัสน่าจะหายไปเมื่อสภาพอากาศที่อบอุ่นมาถึงทั่วประเทศ “ ไวรัสตัวนี้ไม่ชอบความร้อนดังนั้นเมื่อมันร้อนขึ้นไวรัสตัวนี้จะไม่รอดง่าย” เขากล่าว

Swayne เสริมว่าไวรัสยังไม่ชอบแสงแดด ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้นมันจะยิ่งทำให้เครียดมากขึ้น “เมื่อเราเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนเราจะได้รับแสงแดดมากขึ้นและด้วยแสงแดดที่มีแสงอุลตร้าไวโอเลตมากกว่าและแสงอุลตร้าไวโอเลตจะฆ่าไวรัสไข้หวัดใหญ่” เขากล่าว

ไม่ว่าฤดูใบไม้ร่วงจะมีการระบาดของไข้หวัดนกครั้งใหม่หรือไม่ก็ตามเจ้าหน้าที่กล่าว

“ เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น” Swayne กล่าว เมื่อนกไปถึงแหล่งเพาะพันธุ์ทางตอนเหนือของพวกมันก็ไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะนำเชื้อไวรัสกลับมาในฤดูใบไม้ร่วงหรือไม่