ชาวสตูลยื่นหนังสือคัดค้านก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบาราเนื้อที่กว่า 4,700 ไร่

ชาวสตูลยื่นหนังสือคัดค้านก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบาราเนื้อที่กว่า 4,700 ไร่

นายอดิศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต นักวิชาการชำนาญการ ในฐานะผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และคณะเดินทางลงพื้นที่อุทยานหมู่เกาะเภตรา และหัวหน้าอุทยานแห่งชาติให้การต้อนรับ ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา นั้น ปรากฏว่ามีกลุ่มชาวบ้านจากเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูลจำนวนประมาณ 50 คนเดินทางถือป้ายผ้า เขียนข้อความว่า “หน้าที่อุทยานแห่งชาติ คือ รักษาทรัพยากรให้ยั่งยืน ทะเลอุทยานฯสตูล อย่าให้ใครนำไปทำท่าเรือ” และเข้ามาขอพบตัวแทนจากกรมอุทยานแห่งชาติฯ พร้อมต้องการยื่นหนังสือคัดค้าน ไม่ให้อนุญาตให้กรมเจ้าท่าฯใช้ที่อุทยานจำนวน 4,700 ไร่ สร้างท่าเรือน้ำลึก
 
นายหมีด ม่าหมูด ชาวบ้านในกลุ่มเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนา กล่าวว่า ตนเป็นชาวประมงพื้นบ้านอยู่บ้านหลอมปืน ต.ละงู ทำประมงบริเวณที่จะตั้งท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบาราและใกล้เคียง เป็นอาชีพหลัก เป็นแหล่งรายได้ในครอบครัว ต้องส่งลูกเรียนเดือนละหลายพันบาท หากสูญเสียพื้นที่ไปจะเดือดร้อน ทั้งก่อนหน้านี้ เจ้าของโครงการก็ไม่เคยให้ข้อมูล หรือสอบถามชาวบ้านมาก่อน
 
ด้านนายดินันท์ พัทลุง หนึ่งในกลุ่มเครือข่ายประชาชนฯสตูล จากเครือข่ายมัคคุเทศก์ กล่าวว่า ตนเป็นคนบ้านตะโละไส ติดกับปากบารา มีอาชีพด้านการท่องเที่ยว และตนเห็นว่าจังหวัดสตูลเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สะอาด สงบ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล หากอุทยานแห่งชาติฯต้องเสียไปให้สร้างท่าเทียบเรือน้ำลึก นอกจากปะการังสวยงาม แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลทั้งอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา และอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จะได้รับความเสียหายเกิดผลกระทบต่อธรรมชาติมากมายแล้ว พวกตนซึ่งเป็นคนท้องถิ่นที่ประกอบอาชีพการนำเที่ยวขนาดเล็กจะได้รับผลกระทบตามไปด้วย เพราะคงไม่มีนักท่องเที่ยวอยากมาดูท่าเรือน้ำลึก พวกเขาอยากดูปะการังสวยงาม ภูเขาธรรมชาติ มากกว่า
 
นางสาวปิยะดา เด็นเก ชาวบ้านจากหมู่บ้านบ่อเจ็ดลูก ต.ปากน้ำ อ.ละงู กล่าวว่า ตนเข้าร่วมกับเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาฯ และมายื่นหนังสือคัดค้านการใช้หรือการเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เพราะที่หมู่บ้านของตน ทราบว่าจะเป็นแหล่งขุดทรายนำมาถมทะเลทำท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา กินพื้นที่ ถึงเกือบ 3 ตารางกิโลเมตร อยากถามว่าชาวบ้านจะเดือดร้อนหรือไม่ และก่อนหน้านี้ชาวบ้านไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปกปิดข้อมูลโดยตลอด ตนมารู้อีกทีหมู่บ้านที่ตนอยู่จะถูกขุดเอาไปถมทะเลเสียแล้ว
 
นายสมบูรณ์ คำแหง ชี้แจงกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติว่า พวกตนที่มาเป็นตัวแทนบางส่วนมายื่นหนังสือคัดค้านให้ทางกรมอุทยานทราบว่า คนในพื้นที่ไม่เห็นด้วยให้ใช้หรือเพิกถอนอุทยานบริเวณนี้ พวกตนมองว่า อุทยานแห่งชาติเป็นสาธารณะ เป็นพื้นที่ของคนสตูลร่วมกัน จะเพิกถอนหรือจะอนุญาตให้กรมเจ้าท่าสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา ซึ่งตนทราบว่าเพื่อรองรับอุตสาหกรรมในจังหวัดสตูลนั้น ต้องถามความคิดเห็นคนสตูลจริงๆ ด้วย
 
นายสมบูรณ์ กล่าวอีกว่า กรณีนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า “ขณะนี้การดำเนินโครงการพัฒนาท่าเรือปากบารายังคงเดินหน้าตามปกติ และไม่มีการระงับโครงการออกไป โครงการปากบารามาไกลแล้ว และก็ไม่ได้เสียหายอะไร” นั้น ตนอยากถามว่า ในชีวิตนายเกื้อกูล เคยมาสตูลกี่ครั้ง และเอาข้อมูลงานศึกษาวิจัยจากที่ไหน สถาบันอะไร ที่ว่าไม่มีอะไรเสียหาย

ต่อมา นายอารีย์ ติงหวัง ตัวแทนเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนา จ.สตูล ได้เป็นตัวแทนยื่นหนังสือแก่ นายอดิศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต ตัวแทนจากกรมอุทยานฯผ่านไปยังกรมอุทยานแห่งชาติฯและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องพิจารณาต่อไป
         
ด้านนายอดิศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต กล่าวว่าตามที่กรมเจ้าท่าฯ ขอใช้พื้นที่อุทยานแห่งชาติฯ เพื่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารานั้น ตนเป็นเพียงตัวแทนของอธิบดีกรมฯ ที่ได้รับมอบหมายให้เดินทางมาดูสภาพในพื้นที่จริง และความเห็นของคนในท้องถิ่น ในเบื้องต้นเท่านั้น จะรับหนังสือและข้อเสนอของประชาชนไปดำเนินการเสนอตามลำดับต่อไป

แหล่งข่าวระบุอีกว่า ตลอดช่วงเช้าของวันนี้ กรมเจ้าท่าฯพร้อมหัวหน้าอุทยานแห่งชาติและคณะจากกรมอุทยานฯได้เดินทางไปดูพื้นที่จุดจะก่อสร้างท่าเรือตามโครงการ เจอกลุ่มชาวบ้านตามดักชูป้ายคัดค้าน ตลอดเวลา