นายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเข้าชี้แจงธุรกรรมการเงินต้องสงสัยต่อพนักงานสอบสวนดีเอสไอว่า ตนได้นำหลักฐานการทำธุรกรรมการเงินที่พนักงานสอบสวนสงสัยมาชี้แจง โดยพนักงานสอบสวนได้สอบถามถึงจำนวนเงินที่ตนได้เบิกถอนไปก่อนหน้านี้ ซึ่งยอมรับว่าได้ถอนเงินสดออกมาเก็บไว้กับตัว เพราะรัฐบาลจะทำอะไรก็ได้ จึงต้องมีเงินสดสำรองไว้ที่บ้าน จึงเบิกถอนเงินออกจากธนาคารครั้งละ 1-2 ล้านบาท ประมาณ 3-4 ครั้ง มั่นใจว่าสามารถชี้แจงครบถ้วน แต่พนักงานสอบสวนยังติดใจสงสัยในบัญชีเงินเดือน ส.ส. ซึ่งตนจะรวบรวมหลักฐานส่งเข้าชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร
ด้านนายเจริญ จรรย์โกมล ส.ส.ชัยภูมิ กล่าวว่า ตนเป็นประธานคณะกรรมาธิการตรวจสอบงบประมาณ พนักงานสอบสวนจึงสงสัยเรื่องการใช้เงินเพื่อเดินทางไปดูงานต่างประเทศ แต่ตนมีหลักฐานชัดเจน นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังสงสัยธุรกรรมการเงินของสมาคมชาวไร่อ้อย ซึ่งตนเป็นประธานสมาคมอยู่ โดยมั่นใจว่าทุกรายการเบิกถอนมีหลักฐานพร้อมนำมาแสดงต่อพนักงานสอบสวน อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการที่ศอฉ.มีคำสั่งระงับธุรกรรมการเงินมีผลทำให้สมาคมไร่อ้อย ไม่สามารถเบิกเงินไปจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่นานกว่า 2 เดือนแล้ว
ทั้งนี้ ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์และหนี้สินของนายสันติตอนรับตำแหน่ง ส.ส.วันที่ 22 มกราคม 2551 แจ้งต่อ ป.ป.ช.มีทรัพย์สินเพียง 7,583,115 บาท หนี้สิน 121,504,765 บาท มีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน 113,921,650 บาท ในจำนวนนี้แจ้งว่ามีเงินฝากธนาคารเพียง 603,115 บาท โดยตอนรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยุครัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช วันที่ 6 มกราคม 2551 แจ้งว่ามีทรัพย์สิน 7 ล้านบาทเศษ หนี้สิน 121.6 ล้านบาท มีเงินฝาก 2 บัญชีเพียง 114,079 บาท