เสธ.ไก่อู” รับสาย “6วัน 63ล้านความคิด” เผยส่วนตัวยังถูกโทรฯด่าและขู่ฆ่า แต่ไม่กลัว เพราะทำตามหน้าที่ ปฏิเสธเหวียงแหติดหมายเรียกมั่ว หลังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยโวย บอกถ้าบริสุทธิ์ใจก็ไปแสดงตัวก็จบ
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษกกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) กล่าวภายหลังการร่วมรับโทรศัพท์ในโครงการ “6 วัน 63 ล้านความคิด ร่วมเดินหน้าปฏิรูปประเทศ” ว่า โทรศัพท์ที่รับค่อนข้างหลากหลาย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของความรู้สึก ความคิดเห็นทางการเมือง ส่วนใหญ่อยากจะให้เกิดความปรองดอง โดยยอมรับได้ว่า เรื่องของผู้ที่มาชุมนุมที่มีความทุกข์การครองชีพ คุณภาพชีวิต หรือแม้แต่ที่เขามีความศรัทธาในตัวบุคคล เสียงส่วนใหญ่ที่เข้ามาบอกว่ายอมรับได้ แต่พวกที่ฉกฉวยเอาความตั้งใจจริงของประชาชนเหล่านี้มาแสวงหาผลประโยชน์ในเรื่องความรุนแรง ในเรื่องของการใช้อาวุธสงครามโทรฯเข้ามาส่วนใหญ่บอกว่า อยากให้ดำเนินการ แยกแยะคน 2 กลุ่มนี้ออกจากกัน
ประเด็นที่ 2 ในเรื่องการครองชีพที่ปัจจุบันได้รับผลกระทบ เรื่องของผลิตภัณฑ์ ผลิตผลเกี่ยวกับการเกษตร อยากให้ช่วยดูราคา ให้ควบคุมราคาให้ เรื่องของแหล่งน้ำในพื้นที่ตามชนบท ซึ่งบางทีอ่างเก็บอ่างในลักษณะของฝายน้ำล้นมันเก็บน้ำได้เยอะ แต่มันมีความตื้นเขินก็อยากให้ช่วยแก้ไขให้สามารถกักเก็บน้ำได้เต็มปริมาณ
ส่วนการดูแลความปลอดภัยภายหลัง กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ระบุว่า มี 63 จุด ที่เป็นจุดเสี่ยงที่อาจตกเป็นเป้าก่อวินาศกรรม พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ขณะนี้การปฏิบัติเป็นหน้าที่ของตำรวจ แต่ก็มีการจัดสายตรวจ จัดจุดตรวจร่วม โดยเฉพาะ 63 จุดที่ระบุว่าเป็นพื้นที่ที่ล่อแหลม คลังน้ำมัน บริเวณพื้นที่ที่มีพี่น้องประชาชนไปใช้บริการหนาแน่น
สำหรับสิ่งที่ศอฉ.กลัวที่สุดคือเรื่องการก่อวินาศกรรมหรือการลอบสังหารบุคคลสำคัญ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า คงต้องดูในทุกกรณี ต้องมองในภาพรวมของพี่น้องประชาชนก่อนเป็นหลักถึงความปลอดภัยในพื้นที่ต่าง ๆ ส่วนเรื่องของความปลอดภัยบรรดาผู้นำ องค์กรทั้งหลาย เป็นหน้าที่ของหน่วยงานดูแลความปลอดภัยดำเนินการอยู่
เมื่อถามว่ามีข่าวจากหน่วยข่าวว่า การลอบสังหารนายกรัฐมนตรี ถึงขั้นใช้วิธีคาร์บอม์บหรือพลีชีพ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ที่ประชุม ศอฉ.ไม่ได้มีการระบุรายละเอียดถึงขนาดนั้น ส่วนกรณีที่ศอฉ.ระบุว่ามี 27 บุคคลที่อยู่ในกระบวนการล้มสถาบันนั้น คดีความเรื่องนี้ว่ากันตามกระบวนการ แต่ไม่ได้มีการกำหนดรายละเอียดถึงขั้นว่า จะต้องเอา 27บุคคลมาเจรนัยในที่ประชุม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้รับการข่มขู่บ้างหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า “มีครับ เช่นด่าที่สุภาพเรียบร้อยสุดก็เช่นบอกว่า “ไอ้สั-ว์” ผมก็โทรฯ กลับไปบอกว่าท่านขอบพระคุณนะครับที่กรุณาให้ผมสามารถเลือกได้จะเป็นอะไร ถ้าด่า “ไอ้เ-ย”ผมคงลำบาก ส่วนขู่ฆ่าก็มี ไม่เป็นไร ฟังได้ คือพอเยอะๆ ขึ้น งานประจำที่ทำอยู่ก็ติดขัด ถ้าเราไม่สนทนานานกับคำขู่ แต่เราก็รับฟัง เพราะถ้าตัดสายก็โทรไม่เลิก สำหรับผมแล้วไม่ได้กลัว ข้าราชการทุกคนเราทำตามหน้าที่ ถ้าวิตกกังวลสิ่งหนึ่ง สิ่งใดที่เราคิดว่า เราทำตามหน้าที่ชาตินี้ก็ไม่ต้องทำอะไร แต่ว่าไม่ได้หมายความไปท้าทายหรือประมาท แต่ไม่เคยกลัวใคร ข้าราชการทุกคนก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน”
ส่วนที่มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยออกมาร้องว่า ศอฉ.นำหมายเรียกไปแปะไว้หน้าบ้าน โดยที่เขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ตรงนี้มีการตรวจสอบข้อมูลหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ตนไม่มั่นใจในรายละเอียด ช่วงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมันค่อยข้างจะสับสนอยู่พอสมควร มันคงไม่สามารถแยกแยะได้ว่าใครถูก ใครผิด อย่างไร เพราะฉะนั้นถ้าท่านบริสุทธิ์ใจ ท่านไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสร้างความรุนแรงก็ไปแสดงตน แล้วไปอธิบายความกันตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ตนก็ว่าทุกฝ่ายยอมที่จะรับฟังข้อเท็จจริงเหล่านั้นอยู่แล้ว
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1095 ครั้ง