พันธฺมิตรฯออกโรงบุกยูเนสโก ค้านขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก

วันที่ 27 ก.ค. เวลา 10.00 น.พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในฐานะตัวแทนของกลุ่มภาคีเครือข่ายผู้ติดตามสถานการณ์ปราสาทพระวิหาร กลุ่มสันติอโศก และพันธมิตรฯ ภาคใต้ 16 จังหวัด พร้อมมวลชนจำนวนมาก ได้เดินทางไปชุมนุมหน้าองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ประจำประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 40 และ 42 เพื่อคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก และประณามยูเนสโก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชุมนุมดังกล่าวทำให้การจราจรบนถนนสุขุมวิทช่วงดังกล่าวเริ่มติดขัดแล้ว
       
พล.ต.จำลองกล่าวว่า จากการติดตามการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่ประเทศบราซิล ยังไม่มีวาระจากประเทศไทยในการประชุมครั้งนี้ พบเพียงวาระจากประเทศกัมพูชาเกี่ยวกับแผนบริหารพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารเท่านั้น ทำให้ไม่มั่นใจว่าการดำเนินการคัดค้านแผนบริหารพื้นที่ในการขึ้นทะเบียบปราสาทพระวิหารของกัมพูชาที่รัฐบาลไทยคัดค้านจะประสบผลสำเร็จหรือไม่
       
พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การรวมกลุ่มเพื่อเดินทางไปยังยูเนสโกครั้งนี้ไม่มีการเตรียมการล่วงหน้าถือเป็นเรื่องเร่งด่วนฉับพลัน และไม่ได้เป็นการไปกดดันยูเนสโกแต่อย่างใด และการชุมนุมครั้งนี้ยังไม่ยืนยันว่าจะปักหลักค้างคืนหรือไม่ ต้องรอดูสถานการณ์ก่อน
       
ส่วนการชุมนุมช่วงมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) จะทำให้ผิดกฎหมายนั้น พล.ต.จำลองกล่าวว่า ได้พิจารณาใคร่ครวญแล้ว แต่ต้องยอมเสี่ยงเนื่องจากเป็นเรื่องของดินแดนไทย หากจะถูกจับกุมดำเนินคดีก็ยอม
       
ทั้งนี้ พล.ต.จำลอง นั่งมาในรถตู้โตโยต้าสีน้ำเงิน และได้กล่าวผ่านเครื่องกระจายเสียงปลุกใจประชาชนให้เข้าร่วมคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารด้วย ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล 5 และเจ้าหน้าที่เทศกิจคอยอำนวยความสะดวก อย่างไรก็ตาม การจราจรบนถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้า ได้ถูกปิดลงโดยสิ้นเชิง เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมทะลักลงไปบนพื้นผิวการจราจร
       
เมื่อเวลา 11.30 น.นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรฯ ได้กล่าวบนรถเวทีปราศรัยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ประสานขอพบเพื่อเจรจากับแกนนำทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายภิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ มล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ นักวิชาการสถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะผู้ประสานงานภาคีเครือข่ายผู้ติดตามสถานการณ์ปราสาทเขาพระวิหาร นายคำนูญ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา และตนเอง ซึ่งเราจะขอให้นายกรัฐมนตรีเห็นแก่อธิปไตยของชาติมากกว่าเห็นแก่หน้าของเอ็มโอยู ที่รัฐบาลได้เซ็นไป นอกจากนนี้ จะขอให้ทหารไทยผลักดันทหารกัมพูชาออกจากพิ้นที่ของไทยทันที รวมทั้งขอให้ยกเลิกข้อตกลงร่วมทั้งหมดโดยไม่มเงื่อนไข ที่ไทยได้ทำไว้กับกัมพูชา ที่เป็นการละเมิดอำนาจศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญ

พล.ต.จำลอง กล่าวก่อนหน้าว่า หากมีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชาได้สำเร็จ เราจะเสียพื้นที่รอบปราสาท 4.6 ตารางกิโลเมตร ที่จะอยู่ภายใต้การบริหารของคณะกรรมการร่วม 7 ชาติ ไม่ใช่ดินแดนของไทยอีกต่อไป และใน 7 ชาตินั้นกว่าครึ่งหนึ่งมีผลประโยชน์ทางทะเลมหาศาลที่เกี่ยวเนื่องกับเขตแดนกัมพูชา ซึ่งถ้าเราคัดค้านไม่ได้ เราก็เสียดินแดนไปเปล่าๆ และจะสูญเสียส่วนที่เชื่อมโยงไปอีก 1.8 ล้านไร่