Kuwait Investment Authority (KIA) กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของคูเวตได้ลงทุนจำนวน 750 ล้านดอลลาร์ ซื้อหุ้น Blackrock บริษัทบริหารสินทรัพย์เพื่อการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากสหรัฐฯ ขณะเดียวกันเล็งเพิ่มการลงทุนในเอเชียและละตินอเมริกาในปีนี้ นายบาเดอร์ อัล ซาอัด กรรมการผู้จัดการของ KIA เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์อัล อาราบิย่า
“พฤษภาคมปีที่แล้วเราลงทุนในการเพิ่มทุนของ Blackrock ผมว่าราวๆ 750 ล้านดอลลาร์ และผมคิดว่าเราได้กำไรร้อยละ 40” นายซาอัดกล่าวกับอัล อาราบิย่า
ซาอัดยังกล่าวอีกว่า เขายังคาดหวังว่า KIA จะมีกำไรจากการลงทุนมูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์ใน Bank of America แม้ว่าปัจจุบันจะมีผลขาดทุนสะสมกว่าร้อยละ 30-40 ก็ตาม
ในช่วงต้นของวิกฤตการเงินที่ผ่านมา KIA ได้เข้าลงทุนซื้อหุ้นในสถาบันการเงินขนาดใหญ่ซึ่งกำลังประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนักและต้องการเพิ่มทุนอย่าง Citigroup และ Merrill Lynch ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Bank of America โดย KIA ทุ่มเงินไปกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งต่อมา KIA ถูกรัฐสภาตำหนิอย่างรุนแรงถึงความผิดพลาดในการซื้อหุ้นสถาบันการเงินทั้ง 2 แห่งจนทำให้ KIA ต้องพบกับผลขาดทุนมากมายจากการซื้อหุ้นสถาบันการเงินทั้ง 2 แห่ง
อย่างไรก็ตามในเดือนธันวาคม 2009 ที่ผ่านมา KIA ได้ขายหุ้น Citigroup ที่ซื้อมาในตอนนั้นมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์ออกไปมหดแล้ว โดยได้กำไรไปกว่า 1,1000 ล้านดอลลาร์
ในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว นายมุสตาฟา อัล ชามาลี่ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า คูเวตไม่มีควคามคิดที่จะลดการถือครองสินทรัพย์ในรูปของดอลลาร์ และจะยังคงถือสินทรัพย์ที่มีสภาพสูงเอาไว้เพื่อความต้องการในด้านงบประมาณ
นอกจากนั้นเมื่ออัล อาราบิย่าถามถึงแนวโน้มการลงทุนของ KIA ในปีนี้ นายซาอัดได้เปิดเผยว่า “เรากำลังมองหาประเทศที่มีอัตราการเจริญเติบโตร้อยละ 8-10 ซึ่งหลักๆแล้วอยู่ในเอเชีย และโดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย และจากนั้นเราก็มองที่ละตินอเมริกาด้วย”
นายซาอัดคาดว่า KIA จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในสิ้นปีงบประมาณประจำ 31 มีนาคม 2010 นี้
“พระผู้เป็นเจ้าประสงค์ให้ปีนี้เป็นปีที่ดีที่สุดอีกปีของเรา” นายซาอัดกล่าว
มูลค่าของสินทรัพย์ในต่างประเทศของ KIA นั้นลดลงไปกว่า 9,000 ล้านดีน่าร์หรือราว 31,580 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 9 เดือนสุดท้ายของปี 2008 เนื่องจากวิกฤตการเงินในปีนั้น จากการเปิดเผยข้อมูลของสมาชิกรัฐสภา 2 คนในช่วงกุมภาพันธ์ 2009 หลังจากการแถลงสรุปต่อรัฐบาล นอกจากนั้นทั้ง 2 คนยังบอกอีกว่า KIA มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 49,000 ล้านดีน่าร์ ณ สิ้นปี 2008
นอกจากนั้นในเดือนมกราคม 2009 รัฐบาลคูเวตยังเปิดเผยอีกว่า ตั้งแต่ตุลาคม 2008 เป็นต้นมา KIA ได้ทำการลดการถือครองสินทรัพย์ในรูปของหุ้นในส่วนของกองทุน Future Generation Fund และโยกไปถือเงินสดแทน
ที่มา Reuters
http://www.reuters.com/article/idUSLDE60U03U20100131
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1497 ครั้ง