บราซิลคาดว่าการส่งออกสินค้าเกษตรจะถึงจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ในปี 2010 นายวากเนอร์ รอสซี่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรบราซิลกล่าวในงานแถลงข่าววานนี้ (12 สิงหาคม 2010)
นายรอสซี่กล่าวว่า เขาคาดว่าการส่งออกในปีนี้จะทะลุสถิติสูงสุดเดิมที่ทำไว้ในปี 2008 ที่ระดับ 71,400 ล้านดอลลาร์ แม้จะเผชิญภัยธรรมชาติที่รุนแรงหลายครั้งในปีนี้
สำหรับปริมาณผลผลิตในปีนี้คาดว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวในระดับที่ทะลุสถิติสูงสุดเดิมในปี 2009 ที่ระดับ 147 ล้านตันเช่นกัน ปัจจุบันประเทศบราซิลมีสัดส่วนการค้าสินค้าเกษตรคิดเป็นกว่า 1 ใน 4 ของการค้าสินค้าเกษตรทั่วโลก นายรอสซี่กล่าว นอกจากนั้นเขายังบอกอีกว่าบราซิลมีความตั้งใจที่จะเพิ่มสัดส่วนการค้าสินค้าเกษตรเป็น 1 ใน 3 ของการค้าสินค้าเกษตรทั่วโลกภายใน 10 ปี
นายรอสซี่ยังกล่าวอีกว่า ภาคเกษตรบราซิลมีการผลิตที่ดีมาก สามารถเพิ่มผลผลิตทะลุจุดสูงสุดเดิมได้ในหลายๆผลิตภัณฑ์ และสามารถจัดการให้ประเทศบรรลุเป้าหมายของการพึ่งพาตัวเองในด้านอาหารได้ในเกือบทุกผลิตภัณฑ์ยกเว้นก็แต่ข้าวสาลี
ปัจจุบันบราซิลเป็นผู้ส่งออกชั้นนำของโลกในสินค้าเกษตรหลายชนิด และเป็นหนึ่งในประเทศที่มีภาคการเกษตรใหญ่ที่สุดในโลก เขากล่าว
“ภาคเกษตรคิดเป็นสัดส่วนกว่า 26% ของจีดีพีบราซิล 42% ของการส่งออก และ 40% ของการจ้างงาน” เขากล่าว “มันจึงเป็นภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญมาก”
นายรอสซี่กล่าวอีกว่า ความสำเร็จของภาคเกษตรบราซิลขึ้นกับการเพิ่มผลิตภาพและประสิทธิภาพ บราซิลบริหารให้ผลผลิตในภาคเกษตรเติบโตขึ้น 152% ใน 20 ปี ขณะที่พื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้นเพียง 25% เท่านั้นในช่วงเวลาเดียวกัน
จากการระบุของรอสซี่ มีปัจจัยหลายอย่างที่ช่วยให้บราซิลบรรลุสถิติใหม่ในภาคเกษตรได้เช่น การสนับสนุนด้านเงินทุนจากรัฐบาลเป็นจำนวนเงินกว่า 116,000 ล้านเรียล (ประมาณ 65,500 ล้านดอลลาร์) ความมุมานะของบรรดานักธุรกิจ และ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
เมื่อถูกถามถึงปัญหาทางสิ่งแวดล้อม เขาตอบในประเด็นนี้ว่า รัฐบาลบราซิลได้ดำเนินการในแผนการริเริ่มมากมายเพื่อเพิ่มผลผลิตการเกษตรของบราซิลโดยไม่ต้องมีการทำลายพื้นที่ป่าของประเทศ
“เป็นครั้งแรกในบราซิลที่เราได้มีการจัดตั้งโครงการกระตุ้นการผลิตในภาคเกษตรและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม” เขากล่าว “บราซิลคือประเทศเดียวในโลกที่สามารถเพิ่มผลผลิตการเกษตรได้เท่าตัวโดยไม่ต้องตัดป่า”
นอกจากนี้นายรอสซี่ยังเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า บราซิลมีเป้าหมายที่จะเพิ่มการค้ากับจีนในส่วนของสินค้าเกษตรให้มากขึ้นในอนาคตอันใกล้ โดยบราซิลต้องการส่งออกเนื้อหมูไปจีนมากขึ้น ขณะที่ต้องการเพิ่มการนำเข้าปลาจากจีน
ที่มา สำนักข่าวซินหัว
http://news.xinhuanet.com/english2010/business/2010-08/13/c_13443329.htm
http://news.xinhuanet.com/english2010/china/2010-08/13/c_13443234.htm
นายรอสซี่กล่าวว่า เขาคาดว่าการส่งออกในปีนี้จะทะลุสถิติสูงสุดเดิมที่ทำไว้ในปี 2008 ที่ระดับ 71,400 ล้านดอลลาร์ แม้จะเผชิญภัยธรรมชาติที่รุนแรงหลายครั้งในปีนี้
สำหรับปริมาณผลผลิตในปีนี้คาดว่าจะสามารถเก็บเกี่ยวในระดับที่ทะลุสถิติสูงสุดเดิมในปี 2009 ที่ระดับ 147 ล้านตันเช่นกัน ปัจจุบันประเทศบราซิลมีสัดส่วนการค้าสินค้าเกษตรคิดเป็นกว่า 1 ใน 4 ของการค้าสินค้าเกษตรทั่วโลก นายรอสซี่กล่าว นอกจากนั้นเขายังบอกอีกว่าบราซิลมีความตั้งใจที่จะเพิ่มสัดส่วนการค้าสินค้าเกษตรเป็น 1 ใน 3 ของการค้าสินค้าเกษตรทั่วโลกภายใน 10 ปี
นายรอสซี่ยังกล่าวอีกว่า ภาคเกษตรบราซิลมีการผลิตที่ดีมาก สามารถเพิ่มผลผลิตทะลุจุดสูงสุดเดิมได้ในหลายๆผลิตภัณฑ์ และสามารถจัดการให้ประเทศบรรลุเป้าหมายของการพึ่งพาตัวเองในด้านอาหารได้ในเกือบทุกผลิตภัณฑ์ยกเว้นก็แต่ข้าวสาลี
ปัจจุบันบราซิลเป็นผู้ส่งออกชั้นนำของโลกในสินค้าเกษตรหลายชนิด และเป็นหนึ่งในประเทศที่มีภาคการเกษตรใหญ่ที่สุดในโลก เขากล่าว
“ภาคเกษตรคิดเป็นสัดส่วนกว่า 26% ของจีดีพีบราซิล 42% ของการส่งออก และ 40% ของการจ้างงาน” เขากล่าว “มันจึงเป็นภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญมาก”
นายรอสซี่กล่าวอีกว่า ความสำเร็จของภาคเกษตรบราซิลขึ้นกับการเพิ่มผลิตภาพและประสิทธิภาพ บราซิลบริหารให้ผลผลิตในภาคเกษตรเติบโตขึ้น 152% ใน 20 ปี ขณะที่พื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้นเพียง 25% เท่านั้นในช่วงเวลาเดียวกัน
จากการระบุของรอสซี่ มีปัจจัยหลายอย่างที่ช่วยให้บราซิลบรรลุสถิติใหม่ในภาคเกษตรได้เช่น การสนับสนุนด้านเงินทุนจากรัฐบาลเป็นจำนวนเงินกว่า 116,000 ล้านเรียล (ประมาณ 65,500 ล้านดอลลาร์) ความมุมานะของบรรดานักธุรกิจ และ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
เมื่อถูกถามถึงปัญหาทางสิ่งแวดล้อม เขาตอบในประเด็นนี้ว่า รัฐบาลบราซิลได้ดำเนินการในแผนการริเริ่มมากมายเพื่อเพิ่มผลผลิตการเกษตรของบราซิลโดยไม่ต้องมีการทำลายพื้นที่ป่าของประเทศ
“เป็นครั้งแรกในบราซิลที่เราได้มีการจัดตั้งโครงการกระตุ้นการผลิตในภาคเกษตรและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม” เขากล่าว “บราซิลคือประเทศเดียวในโลกที่สามารถเพิ่มผลผลิตการเกษตรได้เท่าตัวโดยไม่ต้องตัดป่า”
นอกจากนี้นายรอสซี่ยังเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า บราซิลมีเป้าหมายที่จะเพิ่มการค้ากับจีนในส่วนของสินค้าเกษตรให้มากขึ้นในอนาคตอันใกล้ โดยบราซิลต้องการส่งออกเนื้อหมูไปจีนมากขึ้น ขณะที่ต้องการเพิ่มการนำเข้าปลาจากจีน
ที่มา สำนักข่าวซินหัว
http://news.xinhuanet.com/english2010/business/2010-08/13/c_13443329.htm
http://news.xinhuanet.com/english2010/china/2010-08/13/c_13443234.htm
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1815 ครั้ง