ไทยเรียกร้องอาเซียน-จีน พัฒนาเชื่อมโยงโลจิสติกส์ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกด้านการขนส่ง และขยายการค้าระหว่างกัน แจงเวทีประชุม ไทยได้ให้ความสำคัญกับการสร้างโครงข่ายโลจิสติกส์ผ่านการลงทุนขนาดใหญ่ด้วยระบบรถไฟรางคู่และเส้นทางรถไฟที่จะเชื่อมโยง ลาว เวียดนาม รวมถึงจีนตอนใต้ ตามนโยบายวงแหวน 5 ประตู ที่จะเชื่อมโยงเศรษฐกิจอาเซียนบวกสาม บวกหก และการขยายเส้นทางหลักการค้าของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน 5 ภูมิภาค
มีรายงานข่าวการประชุมทางเศรษฐกิจรอบอ่าวเป่ยปู้ ครั้งที่ 5 ที่นครหนานหนิง เขตปกครองตนเองกวางสี สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ โดยมีผู้บริหารระดับสูงของจีนและประเทศสมาชิกอาเซียนรวม 10 ประเทศ ตลอดจนนักธุรกิจ สถาบันการค้าและการเงินระหว่างประเทศเข้าร่วมกว่าพันคน ทั้งนี้เพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจรอบอ่าวเป่ยปู้และความก้าวหน้าของอาเซียนและจีน
ในโอกาสนี้ นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ขึ้นกล่าวบนเวทีการประชุม เรียกร้องให้ชาติสมาชิกกรอบความร่วมมือให้ความสำคัญด้านการพัฒนาเชื่อมโยงโลจิสติกส์ในภูมิภาคและภูมิภาครอบนอก เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งและขยายการค้าระหว่างกัน ซึ่งไทยได้ให้ความสำคัญกับการสร้างโครงข่ายโลจิสติกส์ผ่านการลงทุนขนาดใหญ่ด้วยระบบรถไฟรางคู่และเส้นทางรถไฟที่จะเชื่อมโยง ลาว เวียดนาม รวมถึงจีนตอนใต้ ตามนโยบายวงแหวน 5 ประตู ที่จะเชื่อมโยงเศรษฐกิจอาเซียนบวกสาม บวกหก และการขยายเส้นทางหลักการค้าของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน 5 ภูมิภาค
นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวถึงความร่วมมือในสาขาเกษตรกรรมด้วยว่า ยังมีการยกระดับความปลอดภัยของอาหารทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลก การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ การเพิ่มผลตอบแทนต่อพื้นที่สินค้าเกษตรและพัฒนาเทคโนโลยีทางการเกษตรเพื่อเชื่อมโยงผลผลิตสู่ตลาดโลก โดยประเทศสมาชิกควรให้ความสำคัญในการส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี ให้มากขึ้น เพื่อช่วยสนับสนุนการลงทุนให้ขยายตัวทั้งระบบ ทั้งนี้ยืนยันไทยส่งเสริมให้มีการพัฒนาในทุกด้านเพื่อให้กรอบความร่วมมือดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1508 ครั้ง