นายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช.ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีสนามกอล์ฟอัลไพน์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ป.ป.ช.ได้มอบหมายให้สภาทนายความฟ้องร้องนายเสนาะ เทียนทอง อดีตรมช.มหาดไทย ในคดีดังกล่าวต่อศาล แทนสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) แล้ว เนื่องจากการประชุมคณะทำงานร่วมระหว่างป.ป.ช.กับอสส.ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ เพราะอสส.เห็นว่าคดีหมดอายุความไปแล้วตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ป.ป.ช.เห็นว่า เป็นการกระทำผิดอย่างต่อเนื่อง และคดีดังกล่าวจะหมดอายุความในวันที่ 21 ส.ค.นี้ นอกจากนี้ อสส.ยังเห็นว่าพยานหลักฐานในการกล่าวหานายเสนาะยังไม่เพียงพอ ต่อความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 แต่ป.ป.ช.เห็นว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอแล้ว
สำหรับคดีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ คณะกรรมการป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดนายเสนาะ เทียนทอง อดีตรมช.มหาดไทย กำกับดูแลกรมที่ดิน ฐานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจ เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.2553 ที่ผ่านมา โดยคดีดังกล่าวมีอายุความ 20 ปี เนื่องจากความผิดมาตราดังกล่าวมีระวางโทษถึงขั้นประหารชีวิต โดยในสำนวนของป.ป.ช.ระบุว่า นายเสนาะได้ใช้อำนาจฐานะรมช.มหาดไทย เมื่อวันที่ 12 ก.พ.2533 สั่งการให้วัดธรรมิการามวรวิหารโอนที่ดินให้กับมูลนิธิมหามกุฎราชวิทยาลัย ซึ่งไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ผู้ที่ทำพินัยกรรมมอบที่ดินให้กับวัด
ต่อมาวันที่ 21 ส.ค.2533 บริษัท อัลไพน์ เรียลเอสเตท จำกัด และบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ต คลับ จำกัด ที่มีภรรยาและน้องชายนายเสนาะเป็นผู้ถือหุ้น ก็ขอซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวจากมูลนิธิมหามกุฎราชวิทยาลัย ในราคา 142 ล้านบาท อันเป็นการมิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากที่ดินดังกล่าวถือเป็นธรณีสงฆ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599 ประกอบมาตรา 1603 และพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ซึ่งการกระทำดังกล่าว ทำให้ทั้ง 2 บริษัทได้รับประโยชน์เป็นเงิน 78 ล้านบาท เนื่องจากในวันเดียวกัน ได้นำที่ดินแปลงนี้ไปจำนองในวงเงิน 220 ล้านบาท และต่อมาในปี พ.ศ.2541 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เข้ามาขอซื้อสนามกอล์ฟอัลไพน์จากนายเสนาะ ในราคา 500 ล้านบาท
สำหรับคดีนี้เดิมมีผู้ถูกกล่าวหารวม 7 คน ประกอบด้วย 1.นายเสนาะ 2.นายจรูญ ดวงจิโน อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดปทุมธานี สาขาธัญบุรี 3.นายบุญธรรม กลับน่วม อดีตเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดปทุมธานี สาขาธัญบุรี 4.นายอุดม วัฒนะคีรี อดีตรองอธิบดีกรมที่ดิน 5.นายอารีย์ วงศ์อารยะ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) 6.นายประวิทย์ สีห์โสภณ อดีตอธิบดีกรมที่ดิน และ 7.นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ อดีตรองปลัดมท. อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนายจรูญและนายบุญธรรม คดีขาดอายุความไปแล้ว นายอุดมถึงแก่กรรม นายอารีย์และนายประวิทย์ จากการไต่สวนไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ส่วนนายยงยุทธเป็นการกระทำภายหลัง ไม่เกี่ยวข้องกับนายเสนาะ ป.ป.ช.จึงให้แยกไปทำอีกสำนวนหนึ่ง