วันที่ 23 สิงหาคม เวลา 06.00 น. นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เป็นเป็นประธานเปิดโครงการรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ แอร์พอร์ต ลิงก์ ให้บริการเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการแล้ว โดยนายโสภณ กล่าวว่า รฟท.ตั้งเป้าจะมีประชาชนใช้บริการวันละ50,000คน และมีรายได้วันละ1,000,000 บาท เชื่อว่า การเปิด แอร์พอร์ต ลิงก์ จะช่วยลดปัญหาด้านการจราจรและมลภาวะได้ รวมถึงจะอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
บรรยากาศการเปิดให้บริการวันแรกวันนี้ มีผู้โดยสารมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ซึ่งรมว.คมนาคมได้ขึ้นรถสายซิตี้ ไลน์ จากสถานีพญาไทไปมาลงที่สถานีมักกะสัน และขึ้นรถสายเอ็กซเพรสไลน์จากสถานีมักกะสันไปยังสถานีปลายทางที่สถานีสุวรรณภูมิ
โครงการเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ แอร์พอร์ต ลิงก์ จะวิ่งให้บริการด้วยความเร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนเส้นทางยกระดับ เลียบทางรถไฟสายตะวันออก ระยะทางประมาณ 28 ก.ม. ผ่าน 8 สถานี สามารถรองรับผู้โดยสารได้ จำนวน 14,000-50,000 คนต่อวัน สำหรับช่วงแรกของการเปิดให้บริการไปจนถึงสิ้นปีนี้ จะเก็บค่าโดยสารลดราคาพิเศษ
โดยรถไฟฟ้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ ซิตี้ไลน์ ให้บริการตลอด 24 ช.ม. จากสถานีพญาไท ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภายใน 30 นาที ในราคา 15 บาท ตลอดสายและจอดรับผู้โดยสารทุกสถานี ส่วนรถไฟด่วนพิเศษ เอ็กซเพรสไลน์ ให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-01.00 น.วิ่งถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิใน 15 นาที ค่าโดยสารไปกลับเพียง 100 บาท จากมักกะสัน รอรับส่งผู้โดยสารเฉพาะสถานีมักกะสัน ซึ่งเป็นสถานีต้นทางและสถานีสุวรรณภูมิ เป็นสถานีปลายทางเท่านั้น
ทั้งนี้ การเก็บค่าโดยสาร จะใช้วิธีจ่ายตั๋วฉีกในช่วงแรกไปก่อน เพื่อให้บริษัทลูกมาดำเนินการรับช่วงต่อ และจะปรับขึ้นราคาโดยสาร ตามราคาปกติ เมื่อระบบเช็กอินที่ สถานีมักกะสัน เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว โดย ซิตี้ไลน์ จะเก็บอยู่ที่ราคา 15-45 บาท และเอ็กซเพรสไลน์ จะเก็บที่ 150 บาท
ขณะที่ผู้บริหารของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวยืนยันว่า ระบบมีความปลอดภัยและสมบูรณ์พอที่จะเปิดเดินรถเชิงพาณิชย์ที่มีการเก็บค่าโดยสารได้ โดยส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์นั้น จะต้องมีการแก้ไขในอนาคตต่อไป รวมถึงความสมบูรณ์ขององค์กรที่จะบริหารโครงการด้วย เนื่องจากการจัดตั้งบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ร.ฟ.ท.เพื่อดำเนินการด้านการเดินรถแอร์พอร์ตลิงก์ขณะนี้ยังไม่เรียบร้อย
สำหรับการประกันเฉพาะในส่วนของผู้โดยสาร ขณะนี้ ร.ฟ.ท.ได้ทำประกันแบบชั่วคราวไว้ก่อน โดยมีวงเงินประกัน 2 ล้านบาทเป็นระยะเวลา 5 เดือน ส่วนประกันที่ครอบคลุมทั้งทรัพย์สินและผู้โดยสารนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดซื้อกรมธรรม์ ซึ่งมีวงเงินรวม 25 ล้านบาทต่อปี
มีการตั้งข้อสังเกตว่า การเปิดเดินรถอาจมีปัญหาเรื่องระบบตั๋วและการชำระเงิน ซึ่งตั๋วโดยสารรถแอร์พอร์ตลิงก์ที่นำออกมาจำหน่วย จะใช้กระดาษรูปแบบเดียวกับตั๋วรถไฟของ ร.ฟ.ท. ไม่ได้เป็นระบบสมาร์ทการ์ดเหมือนรถไฟฟ้าบีทีเอสและรถไฟฟ้าใต้ดินแต่อย่างใด นอกจากนี้ ทั้งที่จอดรถและการเดินทางเข้าไปยังสถานีของแอร์พอร์ตลิ้งก์ยังไม่สะดวก ซึ่งผู้บริหาร ร.ฟ.ท. ยอมรับว่า ระบบจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ จะมีระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมการขายตั๋วโดยผู้โดยสารจะต้องผ่านช่องเฉพาะ ซึ่งจะมีการตรวจนับการขายตั๋วและการผ่านเข้าสู่ระบบอย่างแม่นยำ จึงยังเป็นที่น่ากังวลว่า จะมีปัญหาเรื่องการรั่วไหลของรายได้หรือไม่ เมื่อระบบตรวจสอบไม่สมบูรณ์ นอกจากนี้ ถนนเข้าสู่สถานีก็ไม่ได้รับการปรับปรุง ระบบขนส่งเข้าสู่สถานีก็ไม่มี
ระบบให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง จากสถานีพญาไทถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิภายใน 30 นาที ในราคา 15 บาท ตลอดสายและจอดรับผู้โดยสารทุกสถานี ส่วนรถไฟด่วนพิเศษ เอ็กซเพรสไลน์ ให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-01.00 น. โดยวิ่งถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิภายใน 15 นาที ค่าโดยสารไปกลับเพียง 100 บาท จากมักกะสัน รอรับส่งผู้โดยสารเฉพาะสถานีมักกะสัน ซึ่งเป็นสถานีต้นทางและสถานีสุวรรณภูมิเป็นสถานีปลายทางเท่านั้น ทั้งนี้ การเก็บค่าโดยสาร จะใช้วิธีจ่ายตั๋วฉีกในช่วงแรกไปก่อน เพื่อให้บริษัทลูกมาดำเนินการรับช่วงต่อ และจะปรับขึ้นราคาโดยสารตามราคาปกติ เมื่อระบบเช็กอินที่สถานีมักกะสันเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว โดยซิตี้ไลน์จะเก็บอยู่ที่ราคา 15-45 บาท และเอ็กซเพรสไลน์จะเก็บที่ 150 บาท
อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างทางเชื่อมแอร์พอร์ตลิงก์กับรถไฟฟ้าบีทีเอสที่สถานีพญาไท กำลังอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการก่อสร้าง โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายเดือนกันยายน 2553
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1230 ครั้ง