ทักษิณ ลาออกที่ปรึกษารัฐบาลฮุน เซน “กษิต” มั่นใจสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ดีขึ้นดังเดิม จะทำให้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างกันน่าจะดีขึ้น คาด 3 คนไทยจะถูกปล่อยตัวไม่เกิน 3 วัน ส่งทูตกลับไปทำงานต่อ
วันที่ 23 สิงหาคม รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เสนอขอยุติการปฎิบัติหน้าที่ในฐานะที่ปรึกษาส่วนตัวสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และที่ปรึกษารัฐบาลด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้นำความกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดมสีหมุนี เพื่อทรงลงพระนามในพระราชกฤษฎีกาลงวันที่ 23 สิงหาคม 2553 ให้พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นจากตำแหน่งดังกล่าว
ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มีส่วนอย่างสำคัญในการให้ความช่วยเหลือเพื่อช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการค้า พาณิชย์ การลงทุน กสิกรรม และการท่องเที่ยว ทั้งยังได้ช่วยให้นักลงทุนระดับสำคัญของต่างประเทศสนใจและเข้าใจถึงศักยภาพของกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ดี โดยที่พ.ต.ท.ทักษิณ ประสบความยากลำบากส่วนตัว จึงไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นจึงได้เสนอขอลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาได้รับทราบข้อเสนอและขอแสดงความขอบคุณพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ต่างๆด้านเศรษฐกิจแก่ประเทศกัมพูชา
สำนักข่าวเกียวโดและเอเอฟพีรายงานว่า รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาส่วนตัวของสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และตำแหน่งที่ปรึกษาเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชาแล้ว โดยกล่าวอ้างเหตุผลด้วยความไม่สะดวกส่วนตัวจึงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้กัมพูชาแต่งตั้งพ.ต.ท.ทักษิณให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวในเดือนพฤศจิกายน 2552 ทำให้ไทยประกาศลดระดับความสัมพันธ์กับกัมพูชาพร้อมกับเรียกเอกอัครราชทูตกลับประเทศทันที แถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชาระบุด้วยว่าระหว่างทำหน้าที่ที่ปรึกษา ทักษิณได้แลกเปลี่ยนความเห็น แนวคิด และประสบการณืเพื่อช่วยกัมพูชาในเรื่องการค้า การลงทุน การเกษตร และการท่องเที่ยว
วันที่ 24 ส.ค.นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ กล่าวถึงการส่งตัวเอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชากลับไปประจำที่ประเทศกัมพูชา หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออกจากการเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาว่า ประเทศไทยจะส่งเอกอัครราชทูตกลับไปประจำกรุงพนมเปญในวันที่ 24 ส.ค. เช่นเดียวกับกัมพูชาจะส่งเอกอัครราชทูตกลับมาประจำที่ประเทศไทยในวันเดียวกัน
“ได้สั่งการให้นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชา เดินทางกลับไปปฏิบัติหน้าที่ที่ประเทศกัมพูชาในวันที่ 24 สิงหาคม หลังจากที่ทางกัมพูชาได้มีถ้อยแถลงออกมาว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะได้ลาออกจากตำแหน่งแล้ว ทำให้เงื่อนไขของการเรียกเอกอัครราชทูตไทยกลับประเทศหมดไปโดยปริยาย ขณะที่กัมพูชาก็จะส่งเอกอัครราชทูตกลับมาปฏิบัติหน้าที่ในไทยเช่นกัน”ผมรู้สึกยินดีและขอบคุณรัฐบาลกัมพูชาที่จะร่วมมือกันสร้างความสัมพันธ์ให้คืบหน้าต่อไป”นายกษิตกล่าว
ส่วนความคืบหน้าการส่งตัว 3 คนไทยที่ถูกกัมพูชาจับกุมไปก่อนหน้านี้ นายกษิตกล่าวว่า มีการรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ หวังว่าจะกลับมาถึงประเทศไทยได้ไม่เกินภายใน 3 วัน ทั้งนี้ เชื่อว่าหลังจากที่ทั้ง 2 ประเทศฟื้นความสัมพันธ์กลับคืนมาจะทำให้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างกันในทุกเรื่องน่าจะดีขึ้น เรามีเรื่องของความร่วมมือจำนวนมาก ดังนั้น ความสัมพันธ์จนถึงขณะนี้ถือว่าดีขึ้น ส่วนปัญหาข้อพิพาทปราสาทพระวิหารต้องใช้การเจรจาต่อไปเป็นระยะ
ด้านนายกอย กวง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชายืนยันกับสำนักข่าวเกียวโดว่า จะส่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยเดินทางกลับไปปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 24 สิงหาคมด้วย
นายถวิล เปลี่ยนสี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงสัญญาณความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชา ภายหลังที่มีการส่งทูตกลับไปประจำทั้ง 2 ประเทศว่าทำให้บรรยากาศการแก้ปัญหาข้อพิพาทต่างๆ ดีขึ้น รวมทั้งความตึงเครียดตามแนวชายแดนของทั้ง 2 ประเทศ คงจะคลายลงด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า 3 คนไทยที่ถูกจับอยู่ที่กัมพูชาที่มีข่าวว่าถูกปล่อยตัวแล้วได้รับการรายงานหรือไม่ นายถวิลกล่าวว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องนี้
สำหรับกรณีที่ 3 คนไทยถูกทางการกัมพูชาจับกุมตัว ขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำ จ.เสียมราฐ รายงานล่าสุด สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มีคำสั่งให้ปล่อยตัว 3 คนไทย หลังความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาดีขึ้นในระดับที่น่าพอใจ โดยทูตไทยกลับไปประจำยังสถานทูตที่กรุงพนมเปญแล้ว
ด้านนายซู พีริน ผู้ว่าราชการ จ.เสียมราฐ เตรียมทำหนังสือตอบกลับมายัง นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการ จ.สุรินทร์ เพื่อยืนยันการส่งตัว 3 คนไทย ซึ่งจะมีขึ้นภายใน 3-4 วันนี้หากไม่ติดขัดอะไร
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 2136 ครั้ง