นายกฯป้องศิริโชคทำหน้าที่ส.ส.หลังดอดพบวิเตอร์ บูธ ไม่เกี่ยวฝ่ายบริหาร สั่งจนท.ดูแลพ่อตาความตายเข้มหวั่นชิงตัวประกัน เผยไม่รู้เรื่องเทปเสียงต้องว่ากันไปตามกฏหมาย สั่งกต.เชิญทูตสองประเทศทำความเข้าใจ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ครอบครัวของ นายวิกเตอร์ บูท ผู้ต้องหาค้าอาวุธสงคราม ชาวรัสเซีย ออกมากล่าวว่า มีเทปการสนทนาระหว่างนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กับนายวิกเตอร์ บูท ในช่วงที่นายศิริโชคไปพบนายวิกเตอร์ ว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบต้องไปถามเจ้าตัวเขาเอง ว่ารัฐบาลไปแทรกแซงเกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม รวมถึงการออกมากล่าวว่ามีความพยายามเอาเรื่องต่างๆมาต่อรอง
“ข้อเท็จจริงก็คือว่า ข้อกล่าวหาทั้งหมดมันเป็นเท็จ เป็นเท็จเพราะว่าเราจะเห็นว่ากระบวนการ มันก็เดินไปตามปกติของคดี ที่จริงจะเห็นว่าในส่วนของคดีอุทธรณ์ ทางสหรัฐฯเองก็ไม่ มั่นใจเลยว่าจะชนะ ถึงได้มีการพยายามยื่นคดีที่สองหรือคดีที่สามตามมา เพราะฉะนั้นไม่มีเรื่องของการแทรกแซงกระบวนการอยู่แล้ว เรื่องต่อรองก็ไม่มีโดยเฉพาะที่กล่าวว่าจะไปให้การซัดทอดนั้น ก็ไม่มีความจำเป็น ขณะนี้ทุกอย่างเป็นไปตามข้อเท็จจริง “ นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า เวลาที่รัฐบาลได้ข้อมูลมา และขณะนั้นมีคนมาให้ข้อมูลเรื่องกระบวนการค้าอาวุธ ว่าเกี่ยวโยงกับกับ นปช.หรือไม่เราก็ตรวจสอบเพื่อให้ความเป็นธรรม โดยไม่ได้ไปกล่าวหาใครเลย ส่วนที่กล่าวมาทั้งหมดแล้วมาบอกว่า รัฐบาลพยายามเอาเรื่องนั้นไปต่อรอง เพื่อนำไปสู่การแทรกแซงคดี เหตุการณ์ที่ตามมามันก็พิสูจน์แล้วว่าไม่มีความจริงอะไรและก็ไม่มีประเด็นอะไรด้วย ส่วนจะมีการดำเนินคดีอย่างไรหรือไม่กับคนที่พูดไม่จริง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เขาพูดจนเป็นปกติของเขาไปแล้ว พวกยกตัวเอง ตอนหลังก็ยอมรับไม่ใช่หรือว่าข้อมูลไม่จริง
เมื่อถามว่าทางภรรยาของนายวิกเตอร์ บูท ออกมากล่าวว่าจะมีการแปลเทปการสนทนาระหว่างนายวิกเตอร์ บูท กับ นายศิริโชค นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าตนไม่ทราบ เมื่อถามย้ำว่า หากมีตามที่กล่าวถือเป็นความผิดหรือไม่นั้น เพราะเป็นกฎข้อห้ามของทางเรือนจำ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้ามีใครทำผิดก็ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายได้ แต่ตนยืนยันอีกครั้งว่า ไม่มีกระบวนในการที่จะเข้าไปแทรกแซงอะไรทั้งสิ้น
“ ที่จริงแล้วจะเห็นว่า ณ.วันที่มีคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ หรือ รัสเซีย ก็ไม่มีใครทราบว่าคำตัดสินจะเป็นอย่างไร ผมว่าเรื่องนี้อย่าเอาความพยายามที่จะสร้างความเสียหายทางการเมืองทำให้เกิดการลุกลามไปถึงกระบวนการยุติธรรมของไทย ผมขอยืนยันว่าศาลไทย กระบวนการยุติธรรมของไทยไม่มีการเข้าไปแทรกแซงจากฝ่ายบริหารอย่างเด็ดขาด อยากจะเล่นการเมืองกันก็ควรจะระมัดระวังกันซักหน่อย ว่าอย่าไปกระเทือนถึงศาลหรือระบบการยุติธรรมของไทย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า จะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับรัสเซียหรือไม่นั้นนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีเรื่องความสัมพันธ์ขณะนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศจะใช้เวลาในช่วงนี้ทำความเข้าใจ กับทั้งสหรัฐฯและรัสเซีย ว่ากระบวนการของไทยเป็นอย่างไร มีทั้งสนธิสัญญา และกฎหมาย ซึ่งคดีแรกใช้กฎหมายเก่า คดีที่สองใช้กฎหมายใหม่ รวมไปถึงขั้นตอนที่จะต้องดำเนินการต่อไปและเมื่อใช้เวลาตรงนี้เข้าใจแล้วกระบวนการที่จะเดินต่อไปก็จะไปได้ง่าย
เมื่อถามว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างไรที่รัสเซียมีปฎิกิริยาออกมานั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คดีนี้ตั้งแต่ที่ตนเข้ามารับตำแหน่ง เป็นคดีที่ 2 ประเทศให้ความสนใจอย่าสงมาก ต่างฝ่ายต่างมีความคาดหวังว่า ผลของคดีจะออกมาทสงใดทางหนึ่ง ซึ่งตรงกันข้ามกันระหว่าง 2 ประเทศ แต่ที่ยืนยันกับ 2 ประเทศมาโดยตลอดคือ เรืองนี้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ทุกอย่าจะเป็นไปตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย รัฐบาลคงเข้าไปแทรกแซงไม่ได้ ส่วนใหญ่ที่มาพบก็จะกังวลว่า อีกฝ่ายแทรกแซงหรือไม่ และอีกฝ่ายกดดันหรือไม่ และมีความรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ เราก็จะดูแลให้
เมื่อถามว่ามีการรายงานจากกระทรวงต่างประเทศหรือไม่ว่ารัสเซียเริ่มมีการบอยคอตประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยัง และเมื่อวานทาง( 25 ส.ค.)กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกับรัสเซียและสหรัฐมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ไม่มีประเด็นอะไรที่มีใครติดใจค้างคาใจ ในเรื่องการเข้าไปแทรกแซง ส่วนความพอใจและผลของการตัดสินเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนจำเป็นต้องเชิญทูตรัสเซียมาทำความเข้าใจหรือไม่นั้น ทางกระทรวงการต่างประเทศกำลังทำอยู่ เพราะ 2 ประเทศ นั้นให้ความสนใจติดตามอยู่แล้ว คงต้องใช่เวลา เพราะมีข่าวารเยอะ เราต้องช่วยชี้แจง
เมื่อถามว่า กังวลในเรื่องการชิงตัวผู้ต้องหาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าได้กับแล้วว่า หน่วยงานที่ เกี่ยวข้องจะต้องดูแลให้ดี
เมื่อถามว่า นายศิริโชค บอกหรือไม่ว่าจะไปทำอะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อด้วยว่าประเด็นที่นายศิริโชค ไปตามที่เขาชี้แจงก็เป็นเรื่องที่เขาไปตรวจสอบประเด็นข่าวสาร เรื่องของอาวุธ ว่ามีความเกี่ยวโยงอะไรกับใครหรือไม่ เพราะมีข้อกล่าวหาในขณะนั้น ไม่มีอะไรที่ไปเกี่ยวข้องกับตัวคดีเลย ส่วนการที่มีคนโยงมาถึงตัวนายกรัฐมนตรีนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คนโยง โยงผิดมาหลายเรื่องแล้ว และเรื่องนี้ก็ยอมรับแล้ว ไปพาดพิงคนอื่นเขา เขจาก็ชี้แจงมาแล้วว่าไม่เป็นความจริง
เมื่อถามว่าการที่ นายศิริโชคไปทำในหลายเรื่องแล้วมีปัญหามาเสมออาทิ เรื่องดาวเทียมไทยคม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เจ้าตัวเขาเป็นนักการเมือง เป็นส.ส. เขาก็ทำหน้าที่ในสิ่งที่เขาสนใจเกี่ยวข้องกับประโยชน์ของประเทศ แต่เขาไม่ได้อยู่ฝ่ายบริหาร ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำงานฝ่ายบริหาร การฟังข้อมูลตนฟังข้อมูลทั้งหมดทุกคนอยู่แล้ว และการที่นายศิริโชคจะไปทำอะไรบ้างนั้น ตนก็ไม่เคยทราบล่วงหน้ามาก่อน แต่หลังจากที่ไปมาแล้เวก็มารายงานให้ทราบเหมือนส.ส.คนอื่นๆ
เมื่อถามว่าจะมีการกำชับเรื่องการทำหน้าที่ของคนใกล้ชิดอย่างไรที่จะไม่ให้ถูกมองว่าเป็นการก้าวก่ายการทำงานของเจ้าหน้าที่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็บอกเขาตลอดเวลาอยู่แล้ว
“ ทุกคนก็ทราบดีว่าบทบัญญัติรัฐธรรมนูญเป็นย่างไร ขณะนี้ยังไม่เห็นว่าเขาไปทำในสิ่งที่ถูกกล่าวหาเลย ที่บอกว่าเขาไปต่อรอง มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว และมันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ข้อมูลที่นายศิริโชคได้มา นั้นเอื้อประโยชน์ต่อทางราชการอย่างไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนทำงานก็ฟังข้อมูลทั้งนั้น ข้อมูลราชการ ภาคประชาชน ข้อมูล ส.ส.ฟังหมด ตนทำงานในสภาฯ เวลาประชุมสภาฯที่ผ่านมาตนก็เชิญมาพูดคุยเรื่องข้อมูลต่างๆ ใครสนใจอยากจะเสนอแนะอะไรก็เข้ามาต่างคนต่างทำหน้าที่ภายใต้กรอบของกฎหมาย อยู่แล้ว
แหล่งที่มา : โพสทูเดย์
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 957 ครั้ง