สุรชัย แซ่ด่าน เดินสายปราศรัยจาบจ้างเบื้องสูง

เสื้อแดง อ.พาน จัดงานขายบัตร เปิดเวทีให้ “สุรชัย แซ่ด่าน” ปราศรัยจาบจ้างเบื้องสูง ยกจักรพรรดิญี่ปุ่นกระทบสถาบันสูงสุดของไทย ขณะที่ก๊วนหางแดงเมืองพ่อขุนฯ เตรียมเคลื่อนไหวเปิดเวทีกันอย่างคึกคัก 
       
ที่อ.พาน จ.เชียงราย ค่ำวันที่ 5 ก.ย.กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในพื้นที่ อ.พาน ซึ่งนำโดย น.ส.พุทธชาด โกฎแก้ว, นางหรรษา ชื่นจิตร, นางเพ็ญศิริ ณรงค์แสง ฯลฯ พร้อมพรรคพวกคนเสื้อแดงในพื้นที่อีกหลายคน ร่วมกันจัดงานพบปะสังสรรค์คนเสื้อแดงขึ้น ภายในบ้านเลขที่ 236 หมู่บ้านป่าบง หมู่ 3 ต.ป่าหุ่ง อ.พาน ซึ่งเป็นของ “เจ๊ศรี” แม่ค้าขายผ้าในตลาดเมืองพาน ภรรยา “จ่าขวัญ” อดีตทหารนอกราชการคนหนึ่ง
       
เวทีปราศรัยครั้งนี้ค่อนข้างปิดลับสำหรับบุคคลภายนอก โดยมีจำหน่ายบัตรเข้าฟังใบละ 100 บาทในจำนวนจำกัด และพบว่ามีผู้ถือบัตรเข้าร่วมรับฟังประมาณ 120-150 คน หลังจากนั้นก็ไม่อนุญาตให้บุคคลอื่นเข้ารับฟังอีก รวมทั้งยังมีการว่าจ้างวัยรุ่นเป็นคนดูแลความปลอดภัยหรือการ์ดตามจุดต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ไม่มีบัตรเข้าใกล้ในรัศมีประมาณ 500 เมตร โดยบรรดาการ์ดจะประจำอยู่ตั้งแต่ปากซอย บริเวณลานจอดรถ เพื่อคอตรวจดูรถแปลกปลอมและจดทะเบียนรถต้องสงสัยเอาไว้ด้วย
       
ภายในงานได้จัดให้นายสุรชัย แซ่ด่าน หรือนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำจากกลุ่มแดงสยาม ไปปราศรัยบนเวทีผ่านเครื่องเสียง เริ่มต้นด้วยการใช้ใช้รูปแบบการปราศรัยแบบเดิมของตัวเองคือโอ้อวดถึงประวัติการต่อสู้ ก่อนที่จะวกมาถึงสถานการณ์ของประเทศไทยในปัจจุบัน
       
นายสุรชัยให้ข้อมูลอย่างคลาดเคลื่อนว่า ความแตกแตกวุ่นวายในปัจจุบันเกิดจากพวกอำมาตย์ที่เหลื่อมล้ำกับพวกไพร่อย่างคนเสื้อแดง แต่นายสุรชัยไม่ได้อธิบายข้อเท็จจริงว่าความวุ่นวายเกิดจากการควบรวมอำนาจและทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างหนักในรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ก่อขึ้นตามที่ศาลได้พิพากษาคดีความต่างๆ ไปแล้วก่อนหน้านี้และยังมีคดีคงค้างอีกหลายคดี จนทำให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหารจากทหารและเรื่องยืดเยื้อเรื่อยมา
       
นอกจากนี้ นายสุรชัยยังคงกล่าวปราศรัยจาบจ้วงไปถึงสถาบันเบื้องสูงอย่างอุกอาจ โดยนำสถาบันกษัตริย์ของญี่ปุ่นมาเปรียบเทียบ ในกรณีการแต่งตั้งแม่ทัพ ประธานศาลฎีกา ฯลฯ รวมถึงการบริจาคทรัพย์ให้สถาบันเบื้องสูง 
       
นายสุรชัยยังกล่าวโจมตีฝ่ายต่างๆ อย่างปูพรมตั้งแต่เรื่องการต่อสู้ของคนเสื้อแดงที่นำโดยสามเกลอหัวขวดคือนายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ว่ามีความผิดพลาดจึงทำให้คนเสื้อแดงพ่ายแพ้ และยังโจมตีรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าได้ใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามประชาชนในเหตุการณ์ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ยอมพูดถึงการก่อการร้ายที่เกิดจากกลุ่มติดอาวุธภายในการชุมนุมของคนเสื้อแดงจนทำให้ทหาร-ประชาชนเสียชีวิตไปหลายสิบคน และท้ายที่สุดร่วมกันเผากรุงเทพฯ จนวอดวายด้วย รวมทั้งโจมตีนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ด้วยข้อมูลที่หยาบคายโดยไม่มีข้อเท็จจริงรองรับ
       
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า นอกจากการจัดปราศรัยครั้งนี้แล้วกลุ่มคนเสื้อแดงใน จ.เชียงราย ยังมีกำหนดจะกลับมาเคลื่อนไหวหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มพลังมวลชนเชียงรายนำโดยนายธนิต บุญญลสินีเกษม จะจัดเวทีเสวนาที่ห้องประชุมโรงแรมราชภัฏเชียงรายอินน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (มรช.) ในวันเสาร์ที่ 11 ก.ย.นี้
       
จากนั้นกลุ่มชมรมคนรักทักษิณเชียงราย 49 นำโดย น.ส.เกษนีย์ ชื่นชม นางมติ แซ่อั้ง ฯลฯ จะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ลานบนถนนบรรพปราการ เขตเทศบาลนครเชียงราย หน้าโรงแรมแสนภูเพลส ซึ่งเป็นสถานที่เดิมที่เคยใช้จัดเวทีตลอดช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมาในวันที่ 20 ก.ย.นี้โดยเลื่อนจากเดิมจะจัดวันที่ 19 ก.ย.เพราะวันดังกล่าวจะพากันไปร่วมเวทีที่เชียงใหม่ก่อน