พล.อ.อนุพงษ์เป็นประชุมผู้บังคับหน่วยทั่วประเทศครั้งสุดท้ายก่อนเกษียณ ฝาก “ประยุทธ์” สานต่องานกองทัพ-เกาะติดบุคคลสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมือง เตือนจัดซื้ออาวุธด้วยความระมัดระวังเพราะมีหลายฝ่ายมุ่งโจมตี ยันดำเนินการโปร่งใส
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เป็นประธานการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.) และ ผู้บังคับหน่วยระดับกองพันทั่วประเทศ ประจำเดือนกันยายน 2553 ซึงถือเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายในการดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก
ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ได้กล่าวขอบคุณ ผบ.หน่วย ผู้บังคับกองพัน และกำลังพลทุกคนที่ให้ความร่วมมือ ปฏิบัติตามนโยบายของกองทัพบก จนทำให้ภารกิจและแผนงานประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ในระหว่างที่ดำรงตำแหน่ง 3 ปีที่ผ่านมา และขอให้กำลังพลทุกคนปฏิบัติติงานตามภาระหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ รวมทั้งระบุว่า มีความมั่นใจว่ากองทัพบกจะเป็นสถาบันหลักในการดูแลความมั่นคงของประเทศทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และสังคมไทยมีความสุขตลอดไป
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า การปรับย้ายนายทหารที่ผ่านมา มีทั้งคนสมหวัง และผิดหวัง แต่ยืนยันว่าการพิจารณาปรับย้ายมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะการคัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และเหมาะสมกับตำแหน่ง โดยเฉพาะเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันมาดูแลความสงบเรียบร้อยของประเทศให้มั่นคง
“การปรับย้ายไม่ได้ทำเพื่อวางทายาท หรือ สืบทอดอำนาจอย่างที่หลายฝ่ายนำมาวิเคราะห์วิจารณ์กันอยู่ในเวลานี้ อีกทั้งอยากให้กำลังพลมีใจเป็นหนึ่งเดียว และร่วมกันทำงานแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติให้เกิดความสงบสุข และสันติสุข เหมือนเดิม” พล.อ.อนุพงษ์กล่าว
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า ขอฝากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.คนใหม่ ให้สานงานต่อของกองทัพด้วยความเข้มแข็ง และแข็งแรง โดยเฉพาะการบูรณาการข่าวทั้งระบบต่อต้านข่าวกรอง ให้เกิดความชัดเจน และเกาะติดกับบุคคลที่สร้างความวุ่นวายให้กับบ้านเมือง เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ถือว่าเป็นอันตรายต่อบ้านเมือง
นอกจากนี้ยังฝากให้ฝ่ายยุทธการ เตรียมฝึกกำลังพลให้มีความพร้อมในการดูแลสถานการณ์บ้านเมือง หากเกิดกรณีฉุกเฉิน เหมือนกับเหตุการณ์ความวุ่นวายที่ผ่านมา เมื่อเตรียมพร้อมแล้วก็จะสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที
ขณะที่ฝ่ายส่งกำลังบำรุง ให้ระมัดระวังในเรื่องการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ เพราะขณะนี้มีหลายฝ่ายพยายามโจมตีถึงความโปร่งใสในการจัดซื้อ ถึงแม้ว่ากองทัพจะดำเนินการด้วยความโปร่งใสก็ตาม แต่ทุกอย่างจะต้องชัดเจน และชี้แจงให้สาธารณชนได้รับทราบ
อย่างไรก็ตามยอมรับว่า การจัดซื้ออาวุธที่ผ่านมาไม่ได้เป็นอาวุธที่ดีที่สุด แต่การจัดซื้อถือว่ามีความจำเป็นในการดูแลความมั่นคงของประเทศ อาวุธที่มีราคาแพงกองทัพไม่สามารถจัดซื้อได้ เนื่องจากด้วยงบประมาณไม่เพียงพอ
“ผมมีความภาคภูมิใจในการงานของกิจการพลเรือน โดยเฉพาะการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ต่าง ๆ ขณะนี้ประชาชนมองกองทัพในทางที่ดี ผมมั่นใจว่าประชาชนไม่ได้เกลียดทหาร ทหารจะต้องทำตามหน้าที่ในการดูแลชาติบ้านเมืองให้รอดปลอดภัย กองทัพไม่ได้เป็นบริษัท แต่กองทัพเป็นสถาบันหลักของประเทศในการปกป้องสถาบันหลักทั้ง 4 คือ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน เข้มแข็งและทำให้สถาบันทั้ง 4 ดำรงไว้อยู่คู่ประเทศไทยตลอดไป”พล.อ.อนุพงษ์กล่าว
ทั้งนี้เมื่อ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวจบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ. ได้ลุกขึ้นนำนายทหารทุกคนปรบมือเพื่อเป็นเกียรติแก่ พล.อ.อนุพงษ์ ในฐานะ ผบ.ทบ. และประธานการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงของกองทัพบก และประชุมผู้บังคับกองพันทั่วประเทศเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะอำลาตำแหน่ง ผบ.ทบ. ในวันที่ 30 ก.ย
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1955 ครั้ง