เพื่อไทยเข้ายุคปรองดอง จ่อเด้ง “พร้อมพงศ์” ให้ลูกสาวชัจจ์ เป็นโฆษกพรรคแทน “โกวิท”ขอรับเป็นหัวน้าพรรคถึงก่อนเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า หลังจากที่ทางแกนนำของพรรคได้วางตัวพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีตรองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ที่จะมีการเลือกในที่ประชุมใหญ่สมัยวิสามัญของพรรค ในวันที่ 14 ก.ย. โดยพล.ต.อ.โกวิทได้รับปากกับแกนนำพรรคที่ติดต่อว่า จะขอนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคขัดตาทัพเดินหน้าสู่แผนปรองดองเท่านั้น เมื่อใกล้ถึงการเลือกตั้งจะให้ทางพรรคหาคนที่เป็นหัวหน้าพรรคตัวจริงที่จะชูเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
สำหรับบุคคลที่จะเข้ามาเป็นกรรมการบริหารพรรคในตำแหน่งอื่นๆตามแผนปรองดองมีการจัดวางบุคคลที่ไม่ให้มีภาพของตระกูลชินวัตร รวมถึงคนของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาเกี่ยวข้อง พร้อมลดบทบาทการตอบโต้ทางการเมือง เพื่อให้เห็นภาพของการประนีประนอม โดยที่น่าจับตามองคือ ตำแหน่งโฆษกพรรค แกนนำได้ทาบทามน.ส.จารุพรรณ กุลดิลก บุตรสาวของพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลลดิลก แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่มีภาพนุ่มนวล ไม่ก้าวร้าว และเคยขึ้นเวทีเสื้อแดงที่เวทีผ่านฟ้าทำหน้าที่เป็นผู้ประสานกลุ่มองค์กรต่างประเทศ
น.ส.จารุพรรณ ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่ทราบข่าวเลย แต่ผู้ใหญ่คงเปรยขึ้นมา ขอพูดคุยกับผู้ใหญ่ก่อนว่าขอบเขตการทำหน้าที่เป็นอย่างไรบ้าง
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากมีการปรับเปลี่ยนตามกระแสข่าวจริง ก็ไม่น้อยใจหรือเสียใจ ถือว่าตลอดระยะเวลาการทำหน้าที่1ปี9เดือน ได้ตรวจสอบรัฐบาล ทำงานให้พรรค ประชาชนและประเทศชาติอย่างเต็มที่แล้ว ตัวเองไม่ได้ยึดติดตำแหน่ง มีหรือไม่มีก็ทำงานได้
ทั้งนี้หากได้รับความเมตตาจากผู้ใหญ่ก็พร้อมที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในอนาคต ส่วนเรื่องที่มองกันว่าการปรับเปลี่ยนโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคใหม่รวมทั้งตำแหน่งโฆษก เพื่อจะช่วยเสริมสร้างความปรองดองนั้น เป็นธรรมดาทางการเมืองที่จะต้องมีการตอบโต้กัน ในบางเรื่องจะไม่พูดก็ได้ แต่เรื่องที่ถูกกล่าวหาอย่างร้ายแรง เช่นเรื่องล้มสถาบัน เราไม่ตอบโต้ไม่ได้ หากไม่ชี้แจงประชาชนที่รับฟังข่าวสารจะเชื่ออย่างนั้น ทั้งที่จริงไม่ใช่ และไม่ว่าใครมาเป็นโฆษกฯก็ต้องชี้แจงตอบโต้ เหมือนกัน
นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในส่วนผู้ที่จะเหมาะสมได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี วันนี้ค่อนข้างตกผนึกแล้วว่าจะสนับสนุนให้ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน เนื่องจากพรรคต้องการภาพลักษณ์ในการประนีประนอม เน้นแก้ปัญหาเศรษฐกิจของชาติ ซึ่งจากนี้ไปอยากเสนอให้นายมิ่งขวัญ จะต้องออกมามีบทบาทร่วมกับการขับเคลื่อนของพรรคเพื่อไทยให้มากขึ้นทั้งการสะท้อนความคิดเห็นวิสัยทัศน์ต่อการแก้ไขเศรษฐกิจในบ้านเมือง ให้สังคมได้เห็นแม้จะอยู่ในซีกฝ่ายค้านและยังเป็นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอนาคต
ส่วนกรณีการเกิดเหตุรุนแรงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุการณ์ยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าไปในค่ายขุนเณร อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ว่า ยังไม่ได้รับรายงาน ว่าวิถียิงมาจากจุดใดหรือเป็นฝีมือกลุ่มใด ยอมรับเป็นเรื่องยากในการเฝ้าระวังการยิงเอ็ม 79 เข้าไปในสถานที่ราชการ เจ้าหน้าที่จะสืบสวนสอบสวน รวมทั้งทำงานด้านการข่าวและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำร้อย อย่างไรก็ตามจะไม่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่อีก หลังยกเลิกไปแล้ว
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงการดูแลสถานการณ์ในช่วงวันที่ 19 กันยายน ที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.เตรียมเคลื่อนไหวทางการเมืองว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมแผนปฏิบัติการไว้แล้ว พร้อมย้ำว่า การเคลื่อนไหวต่างๆ ต้องไม่ละเมิดกฎหมาย และไม่ขัดต่อการประกาศของ ศอฉ.โดยไม่รู้สึกกังวลใจ และไม่ประมาท เพื่อดูแลให้เกิดความสงบเรียบร้อย และไม่ใช่การดำเนินการแบบ 2 มาตรฐาน
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1355 ครั้ง