“อนุพงษ์” ยอมรับหัวระเบิดอาร์พีจีหายไปจากคลังแสงลพบุรี 30 ลูก เตรียมเชิญผู้ต้องสงสัยสอบสวน พร้อมสั่งหาอาวุธที่หายไปกลับคืนมาด่วน-เสธ.หนั่นมาแปลก ไปเยี่ยมณัญวุฒิ อ้างเพื่อปรองดอง
วันที่ 20 กันยายน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงอาวุธหายไปจากคลังแสง ค่ายทหาร จ.ลพบุรีว่า ยอมรับว่ามีระเบิดอาร์พีจีหายไปจำนวน 30 ลูก ซึ่งขณะนี้กำลังใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบ เพื่อเชิญบุคคลต้องสงสัยมาตรวจสอบ เบื้องต้นจะต้องหาอาวุธที่หายไปกลับมาให้ได้ก่อน ส่วนบทลงโทษผู้กระทำผิดนั้นจะต้องมีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้นายกรัฐมนตรีทราบแล้ว
ส่วนการจัดกิจกรรมของกลุ่มคนเสื้อแดง 4 ปีรัฐประหาร 4 เดือนราชประสงค์นั้น พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า การจัดกิจกรรมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดีไม่มีอะไร ส่วนการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุม ศอฉ.ในการประเมินสถานการณ์อีกครั้ง ซึ่งจะมาถามตนคนเดียวคงไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศว่าจะจัดกิจกรรมเพื่อแสดงออกทางการเมืองบ่อยขึ้น พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า หากผู้ชุมนุมไม่ทำผิดกฎหมายก็สามารถชุมนุมได้ ดังนั้นอย่าถามเป็นประเด็นตนคงตนไม่ตอบหรอก
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ตนได้รับรายงานจาก พล.อ.อนุพงษ์ว่ามีหัวระเบิดอาร์พีจีหายไปจากคลังแสงในค่ายทหาร จ.ลพบุรี 30 ลูก ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการสอบสวน แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเชื่อมโยงกับกลุ่มที่สร้างสถานการณ์ เพราะต้องรอผลการสอบสวนให้มีความชัดเจนก่อน
นายสุเทพยังกล่าวขอบคุณ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. และตำรวจ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ดูแลการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อวานนี้ (19 ก.ย.) ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนจำนวนผู้ชุมนุมที่มีมากนั้น ตนไม่รู้สึกอะไรกับตัวเลขของผู้มาชุมนุม เนื่องจากไม่ได้คาดการไว้ล่วงหน้า
ส่วนที่กลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมจะจัดกิจกรรมทุกเย็นนั้น นายสุเทพกล่าวว่า สามารถทำได้หากไม่ละเมิดกฎหมาย
วันเดียวกัน ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.สนั่น ขจรประสาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าเยี่ยม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยระบุว่า การเดินทางมาวันนี้ในนามส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลตามที่เคยประกาศไว้ในงานครบรอบวันเกิดว่าจะพยายามสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น เนื่องจากนายณัฐวุฒิเป็นญาติและเพื่อนสนิท โดยหลังจากนี้หากมีโอกาสจะเข้าพบกับทุกฝ่ายเพื่อหารือสร้างความปรองดองต่อไป เพราะเชื่อว่าหากมีความพยายามสร้างความปรองดอง ปัญหาความขัดแย้งทั้งหมดจะลดลง ซึ่งทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือ ทั้งนี้ ตนไม่กังวลว่านายกรัฐมนตรีจะเข้าใจผิด เพราะก่อนหน้านี้เคยพูดเปรยไว้แล้ว
พล.ต.สนั่น ยังกล่าวถึงการออกกฎหมายนิรโทษกรรมว่าเป็นเรื่องใหญ่จะต้องหารือกันอีกมาก ส่วนแนวโน้มการปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองนั้น ขณะนี้ผู้ต้องหากลุ่มนปช. ยังไม่ใช่นักโทษจะต้องดูว่าจะมีการอภัยโทษหรือไม่ รวมถึงต้องดูกฎหมายอีกหลายฉบับที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรัฐบาลจะต้องรีบพิจารณา
ทั้งนี้ พล.ต.สนั่น ได้นำส้มโอพันธุ์สายน้ำผึ้งจำนวน 4 ลัง มาเยี่ยมด้วย โดยการเข้าเยี่ยมทางเรือนจำได้จัดสถานที่พิเศษไว้รับรอง
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 2449 ครั้ง