วันที่ 30 ก.ย.เวลา 10.00 น. ที่ห้องพิจารณา 715 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ คดีที่เลขานุการศาลอาญา เป็นผู้กล่าวหา นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตประธานผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ในความผิดดูหมิ่นหรือฐานละเมิดอำนาจศาล กรณีให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 3 ปี ปรับเงินอีก 6,900 ล้านบาทในคดีปั่นหุ้นทีพีไอฯ ด้วยข้อความทำนองว่า “แล้วหวังว่าเราจะได้รับความยุติธรรมในชั้นอุทธรณ์และฎีกาต่อไป แต่คราวนี้แสดงถึงว่าอิทธิพลของคุณทักษิณยังครอบคลุมอยู่ทั้งประเทศไทย”ซึ่งศาลชั้นต้น พิพากษาจำคุกเป็นเวลา 1 เดือน ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.31 (1) ต่อมานายประชัยได้ยื่นอุทธรณ์
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยไม่ได้มีเจตนาดูหมิ่นศาลหรือแสดงความไม่เคารพคำพิพากษา โดยข้อความที่จำเลยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า “แล้วหวังว่าเราจะได้รับความยุติธรรมในชั้นอุทธรณ์และฎีกาต่อไป แต่คราวนี้แสดงถึงว่าอิทธิพลของคุณทักษิณยังครอบคลุมอยู่ทั้งประเทศไทย” และให้สัมภาษณ์อีกว่า” การตัดสินในวันนี้ก็แสดงถึงอิทธิพลเขายังล้นฟ้ามาก” ซึ่งนั้นเป็นการนำข้อความที่อยู่คนละช่วงกันคนละตอน มาตัดต่อให้เห็นว่าเป็นข้อความลักษณะดูหมิ่นศาล ซึ่งการที่จำเลยใ ห้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เนื่องจากถูกจำเลยบีบคั้นจากปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจในสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคำให้สัมภาษณ์จำเลย ดังกล่าวหมายถึงอำนาจเก่ามีอิทธิพลครอบคลุมหน่วยงานราชการอื่น ไม่ได้หมายถึงศาล
อีกทั้งภายหลังถูกศาลจำคุก จำเลยยังให้สัมภาษณ์ว่า “ตนมีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม” ประกอบกับ พฤติการณ์แวดล้อมและพฤติการณ์ของจำเลยที่ได้ใช้สิทธิ์ต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมตลอดมา โดยที่ศาลชั้นต้นพิพากษานั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย พิพากษากลับ จำเลยไม่ละเมิดอำนาจศาล
ภายหลังศาลมีคำพิพากษานายประชัย มีสีหน้ายิ้มแย้มและไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1154 ครั้ง