วันที่ 2 ตุลาคม เมื่อเวลา 10.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยถึงการติดตามเหตุการณ์ระเบิดป่วนเมือง เหตุคนร้ายปาระเบิดใส่บริเวณคาดฟ้าตึกแถวปากซอยเพชรบุรี 32 เชิงสะพานข้ามแยกประตู แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. ฝั่งตรงข้ามห้างสรรพสินค้าประตูน้ำเซ็นเตอร์ ว่า ตนได้เรียก พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ให้มาพบ ในเวลา 15.00 น. เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อรายงานสถานการณ์ความไม่สงบหลังจากเกิดเหตุระเบิดหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมาในพื้นที่กทม. ก่อนที่จะเดินทางไปประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป(อาเซม)ที่ประเทศเบลเยี่ยมในวันพรุ่งนี้ (3 ต.ค.) และเดินทางกลับในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 8 ต.ค. ส่วนเหตุที่ประตูน้ำ แต่ยังไม่ได้มีการสรุปว่าสาเหตุเกิดจากอะไร แต่ก็อย่างที่บอกไปว่าในทางการข่าวทราบว่าจะมีการเคลื่อนไหวในช่วงเดือนตุลาคม โดยเฉพาะที่เราเป็นห่วงอยู่คือเหตุระเบิดในลักษณะเดียวกับที่เกิดขึ้น ซึ่งจะต้องพูดคุยกับทาง ผบ.ตร.ถึงการดูแลอีกครั้งหนึ่ง โดยพล.ต.อ.วิเชียร จะมารายงานผลการประเมินและจัดกลไกการดูแลพื้นที่อยู่
เมื่อถามว่านอกจากเป็นห่วงการเคลื่อนไหวสร้างสถานการณ์แล้วจะมีการเคลื่อนไหวชุมนุมของคนเสื้อแดงในช่วงเดือนตุลาคมอีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า งานรำลึกหลายเหตุการณ์ในเดือนตุลาคม ส่วนใหญ่ก็จะจัดขึ้นทุกปีอยู่แล้ว ซึ่งเราก็จะต้องช่วยกันดูเรื่องรูปแบบของการจัดงาน เมื่อถามว่าช่วงเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศในสัปดาห์หน้าเป็นห่วงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)จะรักษาการนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว จะน่าจะอยู่ในตำแหน่งรักษาการไปพอดีกับช่วงที่ตนเดินทางกลับมา เมื่อถามว่าในช่วงที่นายกรัฐมนตรีไปต่างประเทศจะมีใครตัดสินใจเด็ดขาดหากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รักษาการนายกรัฐมนตรีสามารถตัดสินใจได้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่าเมื่อมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นทำให้ต้องต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในปริมณฑลและกทม.ต่อไปอีก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทางผู้ที่เกี่ยวข้องจะสรุปการประเมินผลมาให้ในวันที่ 5 ตุลาคม แต่แนวโน้มคงจะมีการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่ดังกล่าวควบคู่ไปกับการดูว่าการแก้ปัญหาในลักษณะแบบนี้หากไม่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วจะทำอย่างไร เมื่อถามว่าจำเป็นที่จะต้องให้ทหารเข้ามาควบคุมพื้นที่จุดเสี่ยงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ก็มีการทำหน้าที่ร่วมกันอยู่แล้ว แต่เบื้องต้นทางตำรวจจะต้องรับผิดชอบก่อน
เมื่อถามว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นนอกจากจ้องทำลายเชิงสัญลักษณ์แล้วจะลุกลามไปถึงการทำลายสถานที่ราชการหรือชีวิตประชาชนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรามีหน้าที่ดูแลทั้งหมด โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจัดระบบการดูแลอยู่ ซึ่งเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ก็ได้เล่าให้ฟังว่าในที่ประชุมศอฉ. ก็ได้คุยกันถึงแนวทางการทำงานที่จะต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วย
เมื่อถามว่าด้านการข่าวแจ้งถึงสถานการณ์ระเบิดรายวันอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า บางเรื่องไม่ใช่เรื่องที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ในภาพรวม แต่เราจำเป็นที่จะต้องดูแลทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่าน ฝึกซ้อมและดูแลพื้นที่มากขึ้น โดยเฉพาะการทำเรื่องลาดตระเวณและสายตรวจที่จะเพิ่มมากขึ้น
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.ต.อ.วิเชียร ระบุว่ามีนักการเมือง 5-6 คนที่เกี่ยวโยงกับเหตุการณ์ระเบิด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการรายงานมา แต่คงเป็นเรื่องที่จะต้องขยายผลและสาวไปให้ถึงผู้บงการ เมื่อถามว่าฝ่ายพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง อยากให้รัฐบาลระบุให้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้กระทำเพราะการกล่าวหาลักษณะนี้ทำให้ฝ่ายค้านถูกสังคมจับตา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้คิดว่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้ฝ่ายค้านถูกจับตา แต่ก็อยากให้มาให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1074 ครั้ง