ไอ้ตู่ อ้ำอึ้ง ระเบิดย่านบางบัวทองไม่เกี่ยวนปช. อ้างสู้สันติ-เมียยันสมัยแดงเถือก

วันที่ 7 ตุลาคม ที่รัฐสภา นายจตุพร  พรหมพันธุ์ ส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า เหตุระเบิดที่สมานเมตตา แมนชั่น ย่านบางบัวทอง ไม่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่ม นปช.  เพราะมีจุดยืนในการต่อสู้ด้วยสันติวิธี   ซึ่งที่ผ่านมาก็มีคนมาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก  แต่ยอมรับว่ามีกลุ่ม นปช. บางส่วนไม่พอใจเจ้าหน้าที่ทหารจากเหตุการณ์ขอคืนพื้นที่และจากการที่รัฐบาลปิดกั้นสื่อของกลุ่ม นปช. ซึ่งอยากให้กลุ่ม นปช. ใช้ความอดทน เพราะแนวทางการใช้อาวุธไม่ใช่ทางออก 

ทั้งนี้ อยากให้รัฐบาลควรประเมินสถานการณ์ให้สอดคล้องกับความเป็นจริง และประสานงานกับหน่วยงานการข่าวของฝ่ายทหาร เนื่องจากสถานการณ์ในขณะนี้บานปลาย และมีการผสมโรงจากกลุ่มอื่นๆ จนทำให้สถานการณ์ยากเกินกว่าจะควบคุมได้   เพื่อป้องกันไม่ให้กรุงเทพมหานคร และ 3 จังหวัดปริมณฑลที่ยังคง พรก. ฉุกเฉินเป็นเหมือน 3 จังหวัดชายแดนใต้

นายจตุพร กล่าวอีกว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการวางยาและเชื่อมโยงกับการจับกุมกลุ่ม 11นักรบแดงที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ไม่มีหลักฐานเอาผิด  ซึ่งเชื่อว่าผู้ที่เสียชีวิตเป็นเหยื่อของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น   พร้อมกันนี้ยังทราบว่านายสมัย  วงศ์สุวรรณ ผู้เสียชีวิตเป็นญาติห่างๆ กับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม  อย่างไรก็ตาม ตนเองอยากให้ตำรวจดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงให้เกิดความชัดเจน เพราะหากส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ  เป็นผู้รับผิดชอบ เกรงจะเป็นกลายประเด็นทางการเมือง

อภิวันท์โบ้ยรมว.กลาโหมน่าจะรู้เพราะมือบึ้มนามสกุลคล้ายกัน 

พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร และ สส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึง เหตุระเบิดย่านบางบัวทองที่มีการโยงว่ามีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มเสื้อแดงว่า เรื่องนี้คงต้องรอให้ผลพิสูจน์ออกมาให้ชัดเจนก่อนว่าสาเหตุมาจากอะไร เท่าที่ทราบจากข่าวมีนามสกุล วงศ์สุวรรณเกี่ยวข้องด้วย คิดว่ากระทรวงกลาโหมน่าจะรู้ดีว่าเป็นใครและทำไมถึงทำ เพราะตนทราบว่าเป็นญาติห่างของท่านด้วย คงต้องไปถามรมว.กลาโหม

เมื่อถามว่าจะมีปัจจัยอื่นมาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า  คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้มากขึ้น เพราะหากมีการคงพรก.ฉุกเฉินอยู่ มันก็ต้องมีคนที่คิดจะลองของบ้าง ไม่ใช่แต่กลุ่มคนเสื้อแดงอย่างเดียว มีทุกสี ซึ่ง พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่วิตกเท่าไร แต่กังวลเรื่องอาวุธสงครามที่หายไปจากค่ายทหาร และทราบว่านายทหารหลายท่านไม่สบายใจกับการปราบปรามประชาชน ตนจึงอยากเรียกร้องให้ทางกองทัพติดตามเอาคืนมาให้ได้โดยเร็ว

พ.อ.อภิวันท์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะมาเป็นรองนายกฯนั้น ตนไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ แต่หากเป็นความจริง ตนคิดว่ามีความเหมาะสม เพราะตามข่าวว่าท่านเป็นผู้จัดการรัฐบาลตัวจริง จัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหารตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่ จึงสมควรที่จะมารับหน้าที่

เมียยัน สมัยเป็นแดงตัวพ่อ

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ตำรวจสืบสวน ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ เข้าตรวจสอบภายในบ้านเลขที่ 168  หมู่ 12 ต.บ้านแหวน อ.หางดง จ.เชียงใหม่  บ้านพักของนายสมัย วงศ์สุวรรณ อายุ 46 ปี เจ้าของห้องเช่า 202 สมานเมตตาแมนชั่น อ.บางบัวทอง  จ.นนทบุรี ที่เกิดระเบิดจนมีผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บหลายราย

 จากการตรวจสอบพบบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านปูนชั้นเดียวสภาพเก่าทรุดโทรมทั่วบริเวณ บ้านพบสติ๊กเกอร์ที่มีข้อความสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และกลุ่ม นปช.ติด หลายจุดทั่วบ้าน โดยมีนางบัวคำ เมืองมา ภรรยาของนายสมัยอยู่ภายในบ้าน ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบสิ่งวัตถุระเบิด อาวุธ หรือ สิ่งผิดกฏหมายอื่นใด พบเพียงกล่องอุปกรณ์ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ ภายในห้องนอน

 สอบถามนางบัวคำ เปิดเผยว่า นายสมัย มีภูมิลำเนาเดิม  อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี ตนอยู่กินกับนายสมัยมานานกว่า 10 ปี ก่อนหน้านี้นายสมัยมีอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่ธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ส่วนตนเป็นพนักงานในโรงแรมแห่งหนึ่ง

 นางบัวคำ กล่าวว่า ตนเองและสามีชื่นชอบแนวทางการต่อสู้ของคนเสื้อแดงมานาน โดยนายสมัยจะเข้าร่วมการชุมนุมของคนเสื้อแดงทุกครั้ง  รวมทั้งการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ในกรุงเทพฯ   ซึ่งการเข้าร่วมชุมนุมในเหตุการณ์แยกคอกวัวเมื่อ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา นายสมัยถูกยิงที่แก้มจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะกลับมารักษาตัวและทำงานตามปกติ

 ต่อมานายสมัยได้เข้าร่วมการชุมนุมอีกครั้งที่แยกราชประสงค์โดยปักหลักอย่างต่อเนื่อง  แต่ปรากฏว่าก่อนสลายการชุมนุมเพียงหนึ่งวัน นายสมัยได้เดินทางกลับบ้านและอยู่บ้านได้ เพียงไม่กี่วันจึงเก็บเสื้อผ้าออกจากบ้าน โดยไม่ยอมบอกว่าไปที่ไหน สามีเป็นคนรอบคอบ บอกสั้น ๆ  เพียงว่าไม่ต้องเป็นห่วงและไม่ต้องติดต่อโดยบอกว่ากลัวถูกดักฟัง มีอะไรจะติดต่อกลับมาเองก่อน  และหายไปนานกว่า 4 เดือน กระทั่งมาทราบข่าวว่าเป็นเจ้าของห้องที่เกิดระเบิดดังกล่าว

 นางบัวคำ กล่าวว่า   สามีเข้าร่วมการชุมนุมที่ผ่านมา ไม่ได้เข้าไปเป็นการ์ดให้กับกลุ่มใด  และไม่เคยเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุใด ๆ เป็นเพียงการชุมนุมทั่วไป  ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยเห็นนำอาวุธหรือวัตถุ ระเบิดเข้ามาในบ้าน ส่วนเครื่องมือช่างที่เก็บไว้ในบ้านก็ใช้ในการรับจ้างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่อง มืออิเลกทรอนิคส์หารายได้เสริม เพราะสามีมีความรู้ในเรื่องนี้ 

 “สามีชื่นชอบพ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร   พูดตลอดว่าจะต้องเอาประชาธิปไตยคืนให้ได้ ถ้าเป็นแบบนี้ในวันข้างหน้าลูกหลานเกิดมาก็จะเป็นหนี้ ตอนนี้ไม่รู้ว่าสามีจะชีวิตไปแล้วหรือยัง และไม่รู้ว่า เหตุระเบิดเกี่ยวข้องกับสามีหรือไม่ แต่หากเสียชีวิตเพราะเกี่ยวข้องกันก็รู้สึกภูมิที่มันเกิดเหตุการณ์ แบบนี้ “นางบัวคำ กล่าว

 รายงานแจ้งว่านายสมัยเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ร่วมกับพวกบุกปาระเบิดและขว้างปาก้อน หินถล่ม  “ศูนย์เฮาฮักพระเจ้าอยู่หัว” บริเวณอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เลขที่  133 ถนนกองทราย ต.วัดเกต  อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จนได้รับความเสียหายเมื่อวันที่ 23 ก.ย.2552 โดยนายสมัยอยู่ในระหว่างประกันตัว เพื่อสู้คดีก่อนจะหายตัวไปดังกล่าว

 ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงความเคลื่อนไหวของนายสมัยและภรรยาจากเพื่อน บ้าน แต่ได้รับการปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลโดยอ้างว่าไม่ทราบเรื่อง

 ด้าน พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ ศรีทองสุข ผกก.สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ ให้ข้อมูลที่ต่างกันว่า  นายสมัยรู้จักกับนางบัวคำระหว่างร่วมการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ก่อนเดินทางกลับมาที่บ้านของนางบัวคำและหายตัวไปอีกครั้งเมื่อ 4  เดือนก่อน