วันที่ 9 ตุลาคม เมื่อเวลา 22.30 น. ถึง 24.30 น.ที่ผ่านมา เกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุนสูงเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนชายฝั่งในเขตพื้นที่อ.เมืองระนอง ,อำเภอกะเปอร์,อ.ละอุ่น,อำเภอสุขสำราญ และพื้นที่ชุมชนบริเวณ 6 เกาะในเขตพื้นที่จังหวัดระนอง ประกอบด้วยเกาะทรายดำ,เกาะทรายดำเกาะพยาม เกาะช้าง และเกาะตาครุฑ รวมกว่า 1,000 ครัวเรือน สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุนที่ท่วมสูงกว่า 5 เมตร สูงกว่าเมื่อคืนวันที่ 8 ต.ค. 2553 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ทรัพย์สิน ข้าวของเครื่องใช้ประชาชนได้รับความเสียหายเนื่องจากเคลื่อนย้ายไม่ทัน
นายประวิง ย้อยนวล อายุ 45 ปี ชาวบ้านชุมชนซอยสามัคคี บ้านเลขที่ 230/8 ม. 5 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง ซึ่งเป็นชุมชนชายฝั่ง กล่าวว่า ตนอยู่ในซอยดังกล่าวมากว่า 20 ปี ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน แต่ในปีนี้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมาพบว่าปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุนได้เพิ่มระดับสูงมากขึ้น จนชาวบ้านเริ่มหวาดวิตก
นางรุ่ง กันทะไชย ชาวบ้านชุมชนชายฝั่งบริเวณบ้านปากคลอง ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง กล่าวว่าตนเริ่มวิตกกับปริมาณน้ำทะเลที่เพิ่มระดับมากยิ่งขึ้น กำลังเตรียมที่จะปรึกษากับสามีถึงการย้ายออกจากพื้นที่ หากน้ำทะเลยังจะหนุนสูงเช่นนี้อีก
นอกจากปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุนสูง ยังได้เกิดฝนตกหนักในเขตพื้นที่จังหวัดระนอง เนื่องจากอิทธิพลของพายุในอ่าวเบงกอล ทั้งยังส่งผลให้เกิดคลื่นสูงถึง 1 ม. ทำให้เรือเล็กต้องงดออกจากฝั่ง ส่วนปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุนสูงพบว่าล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 00.30 น.ที่ผ่านมา น้ำทะเลได้ลดระดับเข้าสู่สภาวะปกติ
โดยประชาชนที่ได้อพยพหลบภัยไปยังพื้นที่สูงได้ทยอยลงมาสำรวจความเสียหาย ในขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่มีหน่วยงานใดออกมาให้การ
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1908 ครั้ง