รูปภาพ : นายนอร์แมน ชาน ผู้ว่าการแบงก์ชาติฮ่องกง
ที่มา : นิตยสารไฉ่จิง (Caijing Magazine)
นายนอร์แมน ชาน (Norman Chan) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารกลางฮ่องกงหรือHKMA (Hong Kong Monetary Authority) ยอมรับในที่ประชุมปักกิ่งซัมมิตว่า
ฮ่องกงสนใจโยกทุนสำรองบางส่วนมาเก็บไว้ในรูปของเงินหยวน ขณะเดียวกันก็ฮ่องกงก็กระตือรือร้นที่จะเข้าตลาดพันธบัตรของจีนด้วย
อย่างไรก็ตาม นายชานก็ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องทุนสำรอง
ด้านนายมาร์ค ว่าน (Mark Wan) หัวหน้านักวิเคราะห์จากฮั่งเส็งแบงก์ อินเวสต์เมนต์
ซึ่งเป็นบริษัทลูกของธนาคารฮั่งเส็งในฮ่องกงให้ความเห็นกับหนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่ฉบับฮ่องกงว่า
ความเคลื่อนไหวใดๆในลักษณะนั้น (หมายถึงการโยกทุนสำรองเข้าหยวน) เป็นไปไม่ได้ในทางเทคนิคในตอนนี้
เนื่องจากจีนยังคงมีการปิดกั้นการเคลื่อนย้ายเงินผ่านบัญชีทุนและเงินหยวนยังไม่สามารถแลกเปลี่ยนได้อย่างเสรี
อย่างไรก็ตาม นายว่านเชื่อว่า การออกมาประกาศของนายชานครั้งนี้เกิดขึ้นจากการเรียกร้องให้มีการตรึงค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงไว้กับเงินหยวนแทนเงินดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงไม่นานมานี้
เนื่องด้วยมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะมีการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE (Quantitative Easing) ระลอกที่ 2 ขึ้นมา เงินดอลลาร์จึงมีการอ่อนค่าลงอย่างมากเทียบกับเงินตราสกุลหลักทั้งหลาย
โดยในวันที่ 15 ตุลาคม
เงินดอลลาร์ร่วงลงมาใกล้จุดต่ำสุดในรอบ 15 ปีเทียบกับเงินเยน
ก่อนการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเบน เบอร์นันกี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯที่บอสตัน สุนทรพจน์นี้ได้วางพื้นฐานสำหรับการแทรกแซงในรอบหน้าซึ่งคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะมีการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายกว่านี้
ภายใต้ระบบตรึงค่าเงินในปัจจุบันของฮ่องกง
เงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนย่อมหมายถึงเงินดอลลาร์ฮ่องกงที่อ่อนด้วย ก่อให้เกิดความกังวลถึงการเงินเฟ้อที่นำเข้ามาจากนอกประเทศ
ตรงกันข้าม เงินหยวนที่มีเสถียรภาพถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ นายว่านกล่าว
ด้านนายหลี่ ฮุ่ยหยง (Li Huiyong) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ด้านการวิจัยมหภาคที่เอสดับบลิวเอส
รีเสิร์ช ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยภายใต้บริษัทโบรกเกอร์จีนที่ชื่อ Shenyinwanguoคาดการณ์ว่า เงินหยวนจะแข็งค่ามากกว่าเดิมในปี 2011 เขายังวิเคราะห์อีกว่า เงินหยวนจะแข็งค่าไปถึงระดับ 6 หยวนต่อดอลลาร์ภายในอีก 3 ปีข้างหน้า
ที่มา China
Daily
http://www.chinadaily.com.cn/hkedition/2010-10/16/content_11418133.htm