ทั้งนี้เนื่องจากในช่วงปีที่ผ่านมา ระดับน้ำในแม่น้ำสายบุรีล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนในที่ราบลุ่มภายในเขตเทศบาล ต.รือเสาะโดยมีระดับน้ำสูงถึง 2 – 4 เมตร ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นวงกว้างมาแล้ว
นายนิตย์ อุ่ยเต็กเค่ง ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง เปิดเผยถึงบรรยากาศการค้าขายตามแนวชายแดนไทย-พม่าด้านจังหวัดระนอง-เกาะสองว่า มีความคึกคักเป็นอย่างมาก มีประชาชนชาวพม่านั่งเรือข้ามฟากเข้ามาซื้อสินค้าในฝั่งไทยตลอดเวลา รวมถึงการนำเข้า-ส่งออกที่พบว่าช่วงนี้มียอดการส่งออกสินค้าไปยังประเทศพม่าเพิ่มขึ้นเช่นกัน เนื่องจากเกิดหวาดวิตกถึงปัญหาภัยธรรมชาติ รวมถึงปัญหาราคาสินค้าที่ขยับตัวเพิ่มขึ้นจากการที่ประเทศไทยประสบปัญหาอุทกภัย ทำให้ชาวพม่าเกิดความหวาดวิตกว่าสินค้าของไทยจะปรับราคาขาย ส่วนหนึ่งจึงซื้อเพื่อกักตุนไว้ รวมถึงสำรองไว้หากเกิดภัยธรรมชาติในฝั่งประเทศพม่า ส่งผลให้ตัวเลขการส่งขยับเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30%
นายโกเลียง ประธานหอการค้าจังหวัดเกาะสอง ประเทศพม่า เปิดเผยว่า ขณะนี้สินค้าหลายรายการที่นำเข้าจากประเทศไทยมีการปรับราคาขึ้น อาทิกลุ่มสินค้าหมวดก่อสร้าง รวมถึงสินค้าอุปโภค-บริโภค จึงทำให้กลุ่มค้ามีการสั่งสินค้าในปริมาณมากขึ้นเพื่อสต็อกสินค้าส่วนหนึ่งกลัวราคาสินค้าจะขยับเพิ่มขึ้น อีกส่วนต้องการเก็งกำไร
นายหาญศักดิ์ วัลลศิริ นายด่านศุลกากร จ.ระนอง กล่าวถึงสถานการณ์การค้าชายแดนไทย-พม่าด้านจังหวัดระนอง-เกาะสอง ว่า ในส่วนยอดการส่งออกสินค้าจากไทยไปยังพม่ากลับมีตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากเดิมที่ยอดการส่งออกโดยเฉลี่ย 800-900 ล้านบาทต่อเดือน แต่จากความต้องการบริโภคสินค้าในทุกกลุ่มสินค้าของประชาชนชาวพม่าที่เพิ่มขึ้นทำให้ตัวเลขการส่งออกเพิ่มโดยเฉลี่ย 1,000-1,200 ล้านบาทต่อเดือน
อีกด้านหนึ่ง กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัย “ฝนตกหนักในภาคใต้และคลื่นลมแรงในอ่าวไทย” ฉบับที่ 13 ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2553 เวลา 05.00 น. ว่า ในช่วงวันที่ 30-31 ตุลาคม บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีร่องมรสุมพาดผ่านทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นกับฝนตกหนักหลายพื้นที่ และคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง
ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดสภาวะ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งได้ ส่วนชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย
สำหรับภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ในระยะนี้จะมีอากาศเย็นลงโดยทั่วไป โดยอุณหภูมิลดลงได้ 2-3 องศา
ในช่วงวันที่ 1-3 พ.ย. หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนล่างนี้จะมีกำลังแรงขึ้นและเคลื่อนตัวเข้ามาปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักและคลื่นลมแรงต่อเนื่องได้อีก ขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและเตือนภัย จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1982 ครั้ง