เมื่อเวลา 07.00 น.ของวันที่ 30 ต.ค. น.ส.ศิริขวัญก็ได้เดินทางไปรายงานตัวสอบที่ คณะแพทย์ศาสตร์จุฬาฯ โดยมี นายปริญญา ศิริสาระการ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ไปให้กำลังใจ ซึ่ง นายปริญญาเปิดเผยว่า ที่สนามสอบเดียวกันนี้ นอกจาก น.ส.ศิริขวัญแล้วยังมี น.ส.นาเดีย จิตเจริญธร นักเรียนจากโรงเรียนมาแตร์เดอี ที่เป็นผู้ถูกตัดสิทธิจากกรณีเดียวกันมาขอสอบด้วยซึ่งทาง กสพท. ก็อนุญาติให้เข้าสอบ แม้ว่าศาลปกครองจะคุ้มครองเพียง ผู้ฟ้องคดีสองรายเท่านั้น โดยอาจารย์ที่ดูแลการสอบก็ให้ความสะดวก แต่ที่น่าเสียใจคือมีเด็กที่อยู่ในสถานการณืเดียวกันถึง 41 คน และเมื่อเขาไม่ทราบว่าศาลปกครองมีคคำสั่งคุ้มครองเช่นนี้ทำให้เขาเสียประโยชน์ ดดยหลังจากนี้ตนก็จะหารือกับประธานกรรมการสิทธิฯว่าจะหาทางช่วยเหลือได้อย่างไรบ้าง อาจจะขออำนาจศาลเพื่อมีคำสั่งให้เปิดสอบใหม่สำหรับผู้ที่เสียโอกาสก็เป็นได้
“กรณีอย่างนี้เป็นบทเรียนที่ใหญ่หลวง และเขาอาจจะเสียสิทธิอย่างถาวรถ้าไม่รู้จักกรรมการสิทธิฯ เพราะประชาชนทุกคนมีสิทธิที่รับความคุ้มครอง โดยเราทำตามอำนาจหน้าที่ และเด็กทุกคนยืนยันว่าส่งรูปครบ ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าเกิดความผิดพลาดตรงไหนหรือไม่ โดยน.ส.ศิริขวัญ เมื่อวานกว่าจะกลับบ้านก็เที่ยงคืนเกือบตีหนึ่ง เขาเสียเวลาไปอยู่ที่ศาลถึงเที่ยงคืนเป็นการบั่นทอนจิตใจพอสมควร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เราไม่โทษใครเพราะอาจเะกิดความผิดพลาด แต่เรื่องแบบนี้ก็น่าจะอนุโลมได้ ตนอยากบอกผู้ที่ออกมาว่าเรื่องแบบนี้ถ้าผิดพลาดก้ไม่น่าจะเป็นหมอต่อไปนี้คนที่ผิดพลาดเขาจะจำข้อผิดพลาดไปจนตายและไม่ทำผิดพลาดอีก” นายปริญญากล่าว
ด้านน.ส.ศรัญญา จันนามวงศ์ เข้าสอบที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต และให้ไปรายงานตัวที่สนามสอบทั้งสองแห่งในเวลา 07.00 น. โดยทางกองอำนวยการสอบจะจัดห้องสอบสารอง และบัตรอนุญาตเข้าห้องสอบชั่วคราวให้ โดย น.พ.แท้จริง ศิริพาณิช กรรมการสิทธิฯ ไปให้กำลังใจโดยน.พ.แท้จริงกล่าวว่า นอกจาก น.ส.ศรัญญาแล้ว ยังมีผู้ที่มาขอเข้าสอบอีกคือ นายอนุพงษ์ (ไม่ทราบนามสกุล) โดยอาจารย์ที่คุมสอบก็ใจดีจัดห้องสอบให้ เพราะไม่มีที่นั่งล่วงหน้านอกจากนี้ยังมีการเตรียมการเผื่อกรณีเดียวกันไว้หลายที่นั่ง ทั้งนี้คำสั่งศาลปกครองเพิ่งออกช่วงกลางคืนที่ผ่านมา ทำให้เราก็สื่อสารเท่าที่ทำได้
น.พ.แท้จริงกล่าวว่า กรณีนี้จับมือใครดมไม่ได้ ว่าเกิดจากใคร ซึ่งจริงๆแล้วหากเกิดข้อผิดพลาดและผู้จัดจะเห็นใจก็แค่ติดต่อกลับไป เพราะใบสมัครก็มีทั้งอีเมล์ เบอร์โทรศัพท์ แต่นี่เขาไปเขียนในเว็บ ซึ่งหากเป็นคน ใน กทม. ที่เข้าถึงได้ง่ายคงไม่ใช่ปัญหา แต่นี่เด็กทั้งประเทศอย่างต่างจังหวัดไกลๆ กว่าจะเข้าอินเตอร์เน็ตต้องออกจากบ้านเข้าเมือง มันไม่สะดวก อีกทั้งพอเข้าเยอะไปก็ล่มอีก ดังนั้นน่าจะมีช่องทางอื่น เพราะความผิดพลาดก็ไม่ได้มีเป็นหมื่น นี่เป็นแค่หลักร้อยเท่านั้น ขอให้คิดว่าขอให้คิดถึงอนาคตเด็ก หากเป็นลูกของเรา เราจะทำไหม หากคณะผู้จัดการสอบคิดว่าเกิดกับลูกตัวเองจะทำอย่างไร
“สภาพ น.ส.ศรัญญากว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบห้าทุ่ม น้องชายต้องมานั่งเฝ้าเพื่อให้หลับ และคอยปลุกตอนเช้าเพราะกลัวจะตื่นไม่ทัน ผมก็บอกว่าทำไมไม่ใช้นาฬิกาปลุก เขาก็บอกว่าวกลัวพลาด เราก็เข้าใจว่า คนมันเคยพลาด เลยระแวง แต่เราก็บอกตลอดว่านี่ยังไม่จบการต่อสู้เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น และกรรมการสิทธิฯ
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1750 ครั้ง