ภายหลังมีการเผยแพร่คลิปลับโดยผู้ที่ใช้ชื่อว่า “ohmygod3009” ที่เคยปล่อยคลิปล็อบบี้คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ล่าสุดได้ปล่อยคลิปชุดใหม่จำนวน 3 คลิป โดยใช้ชื่อว่า “พฤติกรรมศาลรัฐธรรมนูญไทย ตอนที่ 1-3” ซึ่งมีความชัดเจนว่าผู้แอบถ่ายคลิปคือนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ มีเนื้อหาอ้างว่าเป็นการปรึกษาหารือกันเพื่อแก้ปัญหาคลิปอีกชุดที่ถูกบันทึกไว้ ซึ่งเป็นคลิปเกี่ยวกับการสอบเข้าเป็นข้าราชการศาลรัฐธรรมนูญด้วยการลักลอบนำข้อสอบไปให้ญาติและพวกพ้องได้อ่านก่อนสอบนั้น
แหล่งข่าวตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนหนึ่งที่มีชื่อถูกพาดพิงถึงในคลิปและเป็นอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา เปิดเผยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ในการประชุมประจำสัปดาห์ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคงจะมีการหารือเรื่องนี้ ตนไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย แต่กลับถูกนำชื่อไปใช้แอบอ้างว่าอยู่ร่วมในกระบวนการนี้ด้วย อยากให้สังคมช่วยลองสืบข้อเท็จจริง จะได้รู้ว่าตัวละครแต่ละตัวที่อยู่ในเรื่องคือใคร เด็กที่มาสอบคือใคร มาจากเส้นทางไหน ยืนยันว่าไม่เคยใช้อำนาจฝากลูกหลานเข้าทำงาน
เขาระบุว่า เรื่องการสอบเข้าเป็นข้าราชการศาลรัฐธรรมนูญนั้น การสอบเกิดขึ้นเมื่อปี 2551 จำได้ว่านายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ เอาข้อสอบมาเร่ขาย บอกว่าช่วยได้อย่างนั้นอย่างนี้ ผู้ใหญ่บางท่านถามว่าช่วยได้จริงหรือ ก็เกิดความสนใจ แต่ของตนโชคดีที่ไม่ได้รับเอาไว้ แต่นายพสิษฐ์ยังพยายามนำไปเสนอขายให้กับภรรยาของตน แต่โชคดีที่ปฏิเสธไป และช่วงนั้นจำได้ว่านายพสิษฐ์พยายามที่จะขอเข้ามาพบที่ห้องทำงานบ่อยครั้ง แต่ตนรู้สึกไม่ไว้ใจ เพราะไม่มีเหตุอะไรแต่จะมาขอเข้าพบ จึงไม่ให้เข้าพบ
“ไอ้หมอนี่มันเร่ขายได้ทุกอย่าง เดี๋ยวก็มาเสนอรับใช้ เดี๋ยวผมทำให้ท่านเอง ทำให้แบบไม่คิดเงินด้วยซ้ำ แต่ความจริงแล้วเขาก็แอบอัดวิดีโอเอาไว้เพื่อใช้สร้างหลักฐานมัดคนนั้นคนนี้เอาไว้ใช้เป็นเครื่องมือต่อรอง พอโดนแบบนี้คนที่ตกเป็นเหยื่อก็หมดสภาพ ต้องกลายเป็นทาสในที่สุด นายพสิษฐ์เหมือนเป็นคนโรคจิต ทำลายหมดทุกคน แม้แต่เจ้านายที่มีพระคุณก็ไม่เว้น เรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนให้กับผู้หลักผู้ใหญ่ต้องคอยตรวจสอบคนใกล้ชิดให้ดี” ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญรายนี้แฉพฤติกรรมนายพสิษฐ์
ชี้แผนบีบตุลาการออก
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญรายนี้เชื่อว่า แผนการโจมตีด้วยการปล่อยคลิปมีเป้าหมายต้องการทำให้ตุลาการออกจากการพิจารณาคดียุบพรรคอีก 3 คน ซึ่งองค์คณะจะเหลือเพียง 4 คน ก็จะตัดสินคดียุบพรรคไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้องค์คณะอย่างต่ำต้อง 5 คน เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเขาคิดว่าในเมื่อซื้อตัวตุลาการไม่สำเร็จก็เลยพาลโค่นล้มมันทุกสถาบันให้หมดสิ้นไปเลย ความจริงพรรคการเมืองทะเลาะกันไม่น่าดึงศาลเข้าไปเกี่ยวข้อง สถานการณ์ตอนนี้เขาหันมาต่อยกรรมการเสียงอมเลย กองเชียร์ก็เชียร์กันสนุกใหญ่ ทั้งที่ความจริงกรรมการคนไหนไม่ดีก็ว่าเป็นรายคนไป อย่าเหมารวม ไม่เช่นนั้นสถาบันศาลอยู่ไม่ได้ แล้วใครจะเป็นหลักให้บ้านเมือง
เขาบอกว่า เรื่องการเอาผิดกับตุลาการที่ถูกกล่าวหานั้นรัฐธรรมนูญมีกลไกจัดการได้อยู่แล้ว ทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยเฉพาะสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินสามารถใช้อำนาจตรวจสอบจริยธรรมหน้าที่ของข้าราชการได้ทั้งระบบรวม
ตุลาการรายนี้กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องกระบวนการพิจารณาตัดสินคดียุบพรรคท่ามกลางกระแสข่าวโจมตีศาลนั้น เวลานี้ยังไม่มีตุลาการคนใดเสนอให้ชะลอการพิจารณาคดีออกไป รวมถึงการถอนตัวก็ยังไม่มีตุลาการคนใดจะถอนตัว และคงถอนตอนนี้ไม่ได้ เพราะต้องเสนอขอถอนตัวออกตั้งแต่ต้น ส่วนเรื่องการเปลี่ยนองค์คณะหรือเปลี่ยนตัวตุลาการใหม่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะศาลรัฐธรรมนูญมีกันอยู่เพียง 9 คน จะเอาที่ไหนมาเปลี่ยน ไม่เหมือนของศาลฎีกาที่มีองค์คณะหรือตัวผู้พิพากษาเป็นสิบๆ คณะ
“ที่สำคัญเวลานี้ตุลาการจะมัวมาท้อถอยไม่ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นเวรกรรม เราต้องเดินหน้าต่อ ถ้าเรามั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดอะไร ก็ไม่มีเหตุให้ต้องออกจากตำแหน่งนี้ ลองคิดดูว่าทางการเขาแต่งตั้ง ให้ตำแหน่ง ให้ทั้งเงินเดือน ให้สายสะพาย แถมมีรถประจำตำแหน่งอีก ก็เพื่อต้องการจูงใจให้รักษาหน้าที่สำคัญนี้เอาไว้ให้ได้ ไม่ใช่พอข้าศึกมาก็ท้อถอยเสียแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ลาออกไป” ตุลาการรายนี้กล่าว
มีรายงานว่านายพสิษฐ์พยายามเข้าตีสนิทตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเกือบทั้งหมด แต่มีตุลาการ 1-2 คนซึ่งถูกปฏิเสธให้เข้าห้องทำงาน เช่น นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ เป็นต้น
ด้านนายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในฐานะอดีตเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีถูกพาดพิงในคลิปฉาวที่จะถูกโยนให้เป็นผู้รับผิดชอบ เรื่องการโกงการสอบเข้าเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญว่า ยังไม่เห็นคลิปดังกล่าว โดยทราบเพียงจากข่าวเท่านั้น และต้องดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะชี้แจงเรื่องนี้อย่างไรก่อน และตนจะชี้แจงทีเดียวเลย ยืนยันว่าตนไม่เคยรับใครเข้าทำงานทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า เคยมอบเอกสารให้กับพรรคพลังประชาชนตามที่มีการพาดพิงหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า ถ้าเป็นเรื่องคดีไม่มีทางเลย ที่ให้มีแต่รายงานกระบวนวิธีพิจารณาคดี เวลาศาลพิจารณาเสร็จเขามาขอรับเราก็ต้องเซ็นรับรองให้
นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ขณะนี้ตนได้เห็นคลิปดังกล่าวแล้ว ขอยืนยันว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และที่ระบุว่าตนฝากเด็ก 3 คนก็ให้ไปถามข้อเท็จจริงจากนายไพบูลย์ดีกว่า ลูกของตนคนเล็กก็เรียนจบแพทยศาสตร์ ลองคิดดูจะให้มาสอบเป็นเจ้าหน้าที่ระดับ 3 หรือ
“เวลานี้ไม่เพียงแต่สังคมเชื่อในสิ่งที่ออกไปว่าตุลาการทำผิดจริง แม้แต่สื่อก็เชื่อ อยากให้สื่อและสังคมตรวจดูความจริงก่อน อย่างเพิ่งด่วนตัดสินใคร เพราะคำพูดของคนคนเดียว ต้องตรวจสอบว่าใครอะไรอย่างไร คลิปที่ออกมาต้องถือว่าดี เพราะเป็นเบาะแสให้ศาลทำความจริงให้ปรากฏ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า สิ่งที่ออกมาทำให้องค์กรศาลเสียหายและกู้ภาพลักษณ์ยาก นายจรัญกล่าวว่า องค์กรไม่ได้ทำอะไรเสียหาย มีแต่คนเท่านั้นแหละ ซึ่งก็ยอมรับว่ามันกระเทือน แต่ที่แน่ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นมันบอกให้เรารู้ว่าการวิ่งเต้นซื้อตุลาการในคดีนี้ทำไม่ได้ มันถึงได้เกิดแผนสองแผนสาม ฉะนั้นเราต้องแยกแยะระหว่างคนทำผิดกับการปฏิบัติหน้าที่ของสถาบัน
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1783 ครั้ง