นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม อดีต ส.ส.อยุธยา พรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งเป็น 1 ใน 6 ส.ส.ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้สิ้นสุดความเป็นสมาชิกภาพ ส.ส. เนื่องจากถือครองหุ้นในบริษัทต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า แม้ศาลจะวินิจฉัยให้พ้นจาก ส.ส. แต่ในฐานะที่ตนเองเป็นส.ส.ลงพื้นที่มาโดยตลอดในช่วงวันเสาร์และอาทิตย์ ซึ่งแยกแยะระหว่างการทำหน้าที่รัฐมนตรีกับ ส.ส.มาตลอด อีกทั้งญาติพี่น้องของตนเองก็ไม่ได้ทำงานการเมือง ดังนั้นการเลือกตั้งซ่อมส.ส.อยุธยา เขต 1 ตนเองพร้อมจะลงสมัครอีก เพราะประชาชนในพื้นที่ยังไว้เนื้อเชื่อใจตนเองทำหน้าที่ ส.ส. โดยหลังจากนี้ต้องรอให้ที่ประชุมพรรคมีมติอีกครั้ง ส่วนการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในขณะนี้ คงต้องขึ้นอยู่ที่มติของพรรคว่าจะออกมาอย่างไร ว่าการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีจะกระทบต่อกฎหมายหรือไม่ หากลงสมัคร ส.ส.
ทั้งนี้จะยึดบรรทัดฐานเดียวกับที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เคยลาออกจากรองนายกรัฐมนตรี เพื่อลงสมัครเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ นายเกื้อกูล กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้พูดถึง คงต้องรอคุยกับทางพรรคก่อน และคงต้องให้ผู้ใหญ่ให้ความเห็นว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งการทำหน้าที่รัฐมนตรีที่ผ่านมาของตนเองก็ไม่เคยบกพร่อง ขอให้เรื่องที่เกิดกับ 6 ส.ส.ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ตนเองไม่ได้ทำอะไรให้รัฐเสียหาย ไม่เคยทุจริตต่อหน้าที่หรือทำเลว และเลือกตั้งครั้งที่แล้วคู่สมรสได้ซื้อหุ้นก็เป็นเพียงหุ้นจำนวนไม่เท่าไร ส่วนตัวทำทุกอย่างถูกต้องตามกติกา และที่คู่สมรสไม่ขายหุ้นในก่อนหน้านี้ที่ตนเองเป็นส.ส. ก็เพราะยังขาดทุนอยู่ ต้องถามว่ามีกติกาอย่างนี้แล้วสังคมได้ประโยชน์อะไร เราต้องการอะไรถึงออกกฎอย่างนี้
ทางด้านพรรคภูมิใจไทย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ( ภท. ) กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ มีมติให้นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ส.ส.นครราชสีมา พ้นสภาพการเป็นส.ส. ว่า ต้องคอยการประชุมพรรค โดยจะต้องดูตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งกฎหมายไม่ได้ห้ามให้ลงสมัครเลือกตั้ง ก็แล้วแต่การตัดสินใจของเจ้าตัวตัดสินใจเอง โดยการประชุมพรรค ภท.ก็จะมีการพิจารณาความชอบธรรมและความเหมาะสม ว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งขณะที่เป็นรัฐมนตรีอยู่ หรือ ลาออกก่อน ซึ่ง ภท.ก็พยายามทำทุกอย่างที่จะให้เป็นขั่วบวกกับรัฐบาล เช่น การออกไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ก็เป็นการเพิ่มเครดิตให้รัฐบาล อย่างไรก็ตาม หลังการตัดสินของศาลตนยังไม่ได้พูดคุยกับนายบุญจง
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พ้นสมาชิกภาพจากความเป็นส.ส.ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรี แต่ตนขอน้อมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนจะลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมหรือไม่รวมถึงการตัดสินใจว่าตนจะต้องลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีหรือนั้นเป็นการตัดสินใจของพรรค จะต้องรอมติจากที่ประชุมพรรคภูมิใจไทยก่อน ทั้งนี้คาดว่าจะมีการหารือกันภายในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม ตนมาด้วยมติของพรรคดังนั้นเรื่องนี้ก็ขอให้พรรคเป็นผู้ตัดสิน เพราะส่วนตัวได้รับมอบหมายจากพรรคมาทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรี ฉะนั้นก็ต้องทำตามความเห็นของพรรคว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ตนต้องยึดกฎกติกาของพรรค และทำไปตามขบวนการตามกฎหมาย
มาตรฐานปชป.ไม่เกี่ยวภท.
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย แกนนำพรรคภูมิใจไทย ใกล้ชิดนายเนวิน ชิดชอบ กล่าววันที่ 4 พฤศจิกายนถึงอนาคตทางการเมืองของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นสภาพ ส.ส.นครราชสีมา และกระแสสังคมเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทย หากจะลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมว่า หลักการของกรณีนี้คือ 1.พรรคภูมิใจไทยเห็นว่านายบุญจง นั้นเหมาะสมที่สุดที่จะอยู่ในตำแหน่งรมช.มหาดไทยต่อไป 2.รัฐธรรมนูญ ไม่ได้กำหนดข้อห้ามไม่ให้ข้าราชการการเมืองลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. เพราะห้ามข้อห้ามไว้เฉพาะข้าราชการประจำเท่านั้น และหมายความว่าคนเป็นรัฐมนตรีก็ยังสามารถลงสมัครับเลือกตั้ง ส.ส.ได้ ซึ่งแสดงว่านายบุญจง ยังลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครราชสีมาได้ การจะบอกว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ ว่าที่ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เพื่อไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.สุราษฎร์ธานีนั้นเป็นบรรทัดฐานทางการเมืองคงไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดให้ต้องกระทำเช่นนั้นทุกคน
“นายสุเทพ ลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นการตัดสินใจไปตามมติของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งวันนี้เราไม่ควรที่จะมาสร้างความสับสนให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชนว่า มติของพรรคประชาธิปัตย์ จะมาเป็นบรรทัดฐานกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดให้ต้องทำเช่นนั้น เพราะหากเกิดการยุบสภาและต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกคนต้องอยู่ในตำแหน่งรักษาการ ก็แสดงว่านายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์จะไม่อยู่ในตำแหน่งรักษาการเพื่อไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. หลังการยุบสภาใช่หรือไม่ ซึ่งคำตอบมันก็รู้กันอยู่แล้วว่าเมื่อถึงเวลานั้นคงจะไม่ใช่”
นายศุภชัย กล่าวว่า วันนี้เราต้องทำความเข้าใจกันให้ชัดเจนและขอเลยว่าอย่าเอามติพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นบรรทัดฐานให้พรรคร่วมรัฐบาลจะต้องปฏิบัติ เพราะการที่นายบุญจง จะลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครราชสีมา โดยมีตำแหน่งเป็น รมช.มหาดไทยอยู่ด้วยนั้นมันเป็นคนละเรื่องกัน
ไอ้ตู่มาตรฐานสูงให้บุญจง-เกื้อกูลลาออก
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แถลงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ 6 ส.ส.พ้น สมาชิกภาพจากความเป็น ส.ส.กรณีการถือครองหุ้นในสัมปานของรัฐนั้น หากนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม จะลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ด้วยก็ควรที่จะลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีเสียก่อน เหมือนกับที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเพื่อไปลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมส.ส.สุราษฎร์ธานีเขต 1 เพราะหากทั้ง 2 คนยังเป็นรัฐมนตรีอยู่แล้วไปลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมส.ส.ก็จะถือเป็นการเอาเปรียบคู่แข่งมากจนเกินไป อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งผู้สมัครลงแข่งขันด้วยอย่างเต็มที่ โดยตั้งเป้าที่จะต้องเอาชนะให้ได้
กำหนดวันเลือกตั้งซ่อม 12 ธันวา
นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงการจัดการเลือกตั้งส.ส.แทนตำแหน่งที่ว่างใน 5 เขตเลือกตั้ง หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากความเป็นส.ส. ว่า ที่ประชุมกกต.มีมติเสนอเรื่องไปคณะรัฐมนตรี เพื่อทูลเกล้าให้ตราพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้ง ส.ส. แทนตำแหน่งที่ว่างใน 5 เขตเลือกตั้ง ในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ และกำหนดวันเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 4 – 5 ธ.ค. วันรับสมัครจะมีขึ้นในวันที่ 22-26 พ.ย.นี้ ส่วนส.ส.สัดส่วนอีก 1 ตำแหน่งที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้สิ้นสมาชิกภาพนั้นเป็นหน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎรจะประกาศเลื่อนลำดับ คาดว่า งบประมาณที่จะใช้ในการจัดการเลือกตั้งจะอยู่ที่เขตเลือกตั้งละประมาณ 16 ล้านบาท
“ กกต.มีความเป็นห่วงเรื่องสถานการณ์น้ำท่วม แต่ก็คาดว่ากว่าจะถึงวันเลือกตั้งอีกเป็นเดือนน้ำก็คงจะลดลงแล้ว ส่วนการแจกสิ่งของ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมของที่จะผู้ลงสมัครนั้น ในการประชุมครั้งนี้นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต. ด้านมีส่วนร่วม ไม่ได้เข้าร่วมประชุม ทางกกต.จึงจะมีการหารือเรื่องดังกล่าวอีกครั้งในวันที่ 9 พ.ย.นี้ เพราะจากความเห็นของที่ปรึกษากฎหมายที่เสนอเข้ามามีความหลากลายมากว่า ผู้ที่จะลงสมัครสามารถแจกสิ่งของได้หรือไม่ “ นางสดศรี กล่าว
นางสดศรี กล่าวถึงกรณีส.ส.ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้สิ้นสมาชิกภาพมีสถานะเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล หากจะลงเลือกตั้งจะต้องลาออกจากตำแหน่งหรือไม่ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นสปิริตของแต่ละบุคคล แต่ก็เคยมีมาแล้วในการเลือกตั้งส.ส.สุราษฎร์ธานี ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ลาออกจาตำแหน่งรองนายกฯ เนื่องจากไม่อยากถูกร้องเรียนว่า ใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปในทางไม่ชอบ ดังนั้นเรื่องสปิริตจึงเป็นเรื่องที่แต่ละคนจะใช้ดุลพินิจ อย่างไรก็ตามการที่อดีตส.ส. ที่ยังดำรงตำแหร่วงรัฐมนตรีจะส่งบุคคลใกล้ชิดลงสมัครแทน ก็เป็นสิ่งที่ทำได้และเคยมีมาก่อนแล้ว ซึ่งก็ขึ้นกับประชาชนว่าจะยอมรับหรือไม่
ในส่วนการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 1 ที่นายสุเทพได้รับเลือกตั้งนั้น ขณะนี้ทางกกต.จว.สุราษฎร์ธานียังไม่ได้รายงานเข้ามา แต่คิดว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ซึ่งตามกฎหมายหากไม่มีเรื่องร้องเรียน กกต.ก็ต้องประกาศรับรองภายใน 7 วัน คาดว่า ทางกกต.จว.สุราษฎร์ธานีจะรายงานเข้ามาภายในวันนี้ ซึ่งหากข้อมูลต่างๆพร้อม กกต.ก็จะประชุมและพิจารณารับรองในวันที่ 5 พ.ย.นี้
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1537 ครั้ง