บริษัทลงทุนคูเวตหนี้ท่วมหัว ส่อแววโคม่า

สถาบัน
การเงินของคูเวตจำนวนมากได้มีการรุกเข้าสู่ธุรกิจลงทุน
โดยที่ผ่านมามีการไล่ซื้อกิจการและสินทรัพย์มากมายไม่ว่าจะเป็น
อสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคและในต่างประเทศ, กองุทน private quity
และหุ้น ทั้งนี้เนื่องมาจากแรงกระตุ้นจากสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ
สภาพคล่องล้นเกินปริมาณมหาศาล และโอกาสการลงทุนในประเทศที่ค่อนข้างต่ำ
เนื่องมาจากเศรษฐกิจถูกควบคุมโดยรัฐบาลแทบทั้งสิ้น
ในช่วงจุดสูงสุดของอุตสาหกรรมบริษัทลงทุนนั้น
สินทรัพย์รวมของบริษัทลงทุนในคูเวตมีมูลค่าสูงถึง 50,000 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม การลงทุนจำนวนมากของสถาบันการเงินคูเวตมาจากการกู้
ยืมเงินระยะสั้น และวิกฤตการเงินที่ผ่านมาก็เข้ากระแทกสถาบันการ
เงินเหล่านี้อย่างจังเหมือน “คลื่นสึนามิ” นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าว

แม้นาย
ธนาคารจำนวนมากจะประสานเสียงตรงกันว่า วิกฤตของบริษัทลงทุนเอกชนจะถูกจำกัด
ความเสียหายแค่ในคูเวตและไม่กระจายไปทั้งภูมิภาค
แต่วิกฤตครั้งนี้จะนำไปสู่การเทขายสินทรัพย์ในต่างประเทศและจะ
ลุกลามมาสู่ภาคธนาคารในประเทศซึ่งปล่อยกู้ให้กับบริษัทเหล่านี้

ในปี 2009 ที่ผ่านมามีบริษัทลงทุนคูเวตใหญ่ที่สุด 2
แห่งผิดนัดชำระหนี้มาแล้ว ขณะที่ในตอนนี้ไม่มีสถาบันการเงินอื่นๆส่อ
แววล้มเพิ่ม แต่บรรดาคนในวงการต่างเห็นว่า บริษัทลงทุนเกือบทั้งหมดก็ต้องดิ้นรน
หาเงินมาชำระหนี้แม้จะยังเผชิญผลขาดทุนหนักอยู่ก็ตาม
และบางแห่งนั้นขาดทุนเนื่องจากการไปลงทุนในดูไบซึ่งก็มีวิกฤตด้วย
“เมื่อก่อนมีบริษัทลงทุนจำนวน 100 แห่งในคูเวต แต่คุณจะเห็นไม่ถึง 50
แห่งที่ยังคงดำเนินงานอยู่ในปี 2011” นายจาเซ็ม อัลซาดุน ประธานกรรมการของ
Alshall Investment กล่าวกับไฟแนนเชียลไทม์

นายธนาคารระหว่างประเทศหลายคนกล่าวว่า
ตอนนี้บริษัทลงทุนหลายแห่งนั้นได้ล้มละลายไปแล้วในทางปฏิบัติแต่
ทุกวันนี้ยังคงดำเนินงานอยู่เนื่องจากธนาคารในคูเวตไม่กล้าที่จะ
ฟ้องล้มละลายบริษัทเหล่านี้ แต่ธนาคารในคูเวตเลือกที่จะประนี
ประนอมด้วยการยืดระยะเวลาชำระหนี้หรือปรับเงื่อนไขการผ่อนชำระ
ใหม่มากกว่า

ในบางกรณี แม้ว่าธนาคารระดับโลกบางแห่งเช่น HSBC, Credit Suisse
หรือ UBS จะช่วยปรับโครงสร้่างหนี้ในหลายๆบริษัทก็ตาม
แต่การควบรวมกิจการของบรรดาบริษัทลงทุนกลับไม่เกิดขึ้น
ทั้งนี้เนื่องจากบรรดาผู้ถือหุ้นไม่ต้องการที่จะขายกิจการให้ไปตก
อยู่ในมือของตระกูลหรือบริษัทคู่แข่ง

“ตอนนี้พวกเขากำลังรอให้ตลาดฟื้นตัวอยู่” นายมัจดี การ์เซ็ดดีน
หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Kamco ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ทำธุรกิจบลจ.ของ Kipco
บริษัทลงทุนที่ราชวงศ์คูเวตถือหุ้นใหญ่

ความกังวลเกี่ยวกับสถานะ
ทางการเงินของบริษัทลงทุนในคูเวตส่งผลให้มูลค่าหุ้นของบริษัทลง
ทุนที่จะดทะเบียนในตลาดหุ้นคูเวตหายไปกว่า 8,000 ล้านดีน่าร์ หรือราว
27,000 ล้านดอลลาร์ หรือหายไปกว่า 70% จากจุดสูงสุดของตลาด จากข้อมูลของ
Kamco

ผลกระทบจากบริษัทลงทุนยังได้ลามเข้าสู่ภาคธนาคารของประเทศคูเวต
ด้วย ส่งผลให้การปล่อยสินเชื่อมีปัญหา เนื่องจากธนาคารเหล่านี้ต้องเผชิญ
ปัญหาการชำระหนี้ที่ต้องเลื่อนออกไปและการขาดทุนจากการปล่อยกู้
ให้บริษัทเหล่านี้

ข้อมูลจากมูดี้ส์ระบุว่า
ระบบเศรษฐกิจส่วนใหญ่ของคูเวตนั้นอยู่ในมือของรัฐบาลซึ่งย่อมไม่
ต้องการเงินกู้ ดังนั้นการปล่อยกู้ของธนาีคารคูเวตจึงมุ่งไปที่สิน
เชื่อผู้บริโภค อสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้าง และบริษัทลงทุนเป็นหลัก

ที่มา Financial Times
http://www.ft.com/cms/s/0/87f5a690-1f19-11df-9584-00144feab49a.html