สลดแม่ขี้ลืม ทิ้งลูกสาววัย 10 วันไว้ในเครื่องซักผ้า ก่อนปั่นไปพร้อมกองผ้า ญาติมาเยี่ยมบ้านได้ยินเสียงผิดสังเกต เปิดเครื่องออกมาแทบช็อก เห็นหนูน้อยดับอนาถคาเครื่อง ตำรวจเชื่อแม่เด็กเสพยาเข้าไปทำให้เบลอจนลืมลูกทิ้งไว้
วันที่ 8 พฤศจิกายน เดอะซันราย ของอังกฤษงานว่า เกิดเหตุสะทือนใจ เมื่อทารกเพศหญิงรายหนึ่งต้องมาจบชีวิตในเครื่องซักผ้าอย่างน่าสลด หลังแม่ขี้ยาขี้ลืมเผลอนำลูกน้อยใส่ลงไปในเครื่องซักผ้าพร้อมกับกองผ้า และกดปั่นทิ้งไว้นานหลายสิบนาที ทั้งนี้มีรายงานว่า น.ส.ลินด์เซย์ ฟิดด์เลอร์ อายุ 26 ปี ที่อาศัยอยู่ในห้องพักเมืองบาร์เทิลสวิลล์ รัฐโอคลาโฮมา แม่ของหนูน้อยแมกกี เมย์ วัย 10 วัน เป็นผู้ใส่ลูกสาวลงไปในเครื่องซักผ้าพร้อมกับกองผ้า และปล่อยให้เครื่องทำงานไปถึง 40 นาที ก่อนจะพบว่าหนูน้อยแมกกีกลายเป็นศพ ญาติคนหนึ่งของลินด์เซย์ได้ยินเสียงแปลกๆ ดังออกมาจากเครื่อง
ภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจและทีมแพทย์เดินทางไปยังห้องพักอันซอมซ่อของลินด์เซย์ และพบศพหนูน้อยแมกกีถูกปั่นอยู่ในเครื่องซักผ้า โดยบรรดาตำรวจและเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินทุกคนต่างร้องไห้เมื่อเห็นสภาพเด็กน้อยผู้ไร้เดียงสา ขณะที่นายตำรวจคนหนึ่งที่พบเห็นการฆาตกรรมสยองมานับไม่ถ้วนบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นคดีอาชญากรรมที่รู้สึกเศร้าที่สุดตั้งแต่เคยสอบสวนมา อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า น.ส.ลินด์เซย์ คุณแม่ลูก 3 เคยติดยาเสพติด และถูกตั้งข้อหาฆ่าโดยไม่เจตนา ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ตำรวจพยายามสืบสวนว่า แท้จจริงแล้ว น.ส.ลินด์เซย์มีเจตนาฆ่าลูกสาวหรือไม่
ทอม ฮอลแลนด์ ผู้บัญชาการตำรวจ กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า น.ส.ลินด์เซย์เผลองีบหลับไปหลังจากนำผ้าใส่เครื่อง และกดปั่นทิ้งไว้ภายในห้องพัก โดยขณะเกิดเหตุ นางรอนดา โคแชตต์ ป้าของเด็กเดินทางไปเยี่ยม น.ส.ลินด์เซย์ ที่ห้องพักพอดี แต่หาตัวไม่พบ ระหว่างนั้นเธอได้ยินเสียงแปลกๆ ดังออกมาจากเครื่องซักผ้า แต่ไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งเปิดเครื่องออกมาต้องถึงกับช็อก เมื่อพบร่างหลานสาววัย 10 วัน ปะปนอยู่กับกองผ้า ทั้งนี้มีรายงานว่า ระหว่างโทรศัพท์เรียกรถฉุกเฉิน น.ส.ลินด์เซย์กล่าวโทษนางรอนดาว่าเป็นคนฆ่าลูก แต่นางรอนดายืนกรานปฏิเสธ และพยายามชี้แจงว่า น.ส.ลินด์เซย์ เป็นคนทำ
ขณะที่ นายเบนจามิน แทรมเมล พ่อของทารกน้อย กล่าวว่า ไม่สามารถเชื่อว่าแฟนสาวจะจงใจฆ่าลูกสาว พร้อมย้ำว่า “ในใจของผมไม่สามารถเชื่อว่าลินด์เซย์จะทำร้ายลูกน้อยของเรา”
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า เหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเกิดจากผลของยาเสพติดที่ น.ส.ลินด์เซย์ เสพเข้าไป โดยก่อนหน้านี้สมาชิกในครอบครัวเคยแสดงความกังวลเกี่ยวกับการใช้ยาของเธอในช่วงที่ผ่านมา และเมื่อต้นปีนี้ครอบครัวพยายามยกเลิกสิทธิการเป็นผู้ปกครองของ น.ส.ลินด์เซย์ ก่อนการเกิดของหนูน้อย เพราะแม่ของเด็กถูกจับกุมในข้อหายาเสพติดเมื่อตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1628 ครั้ง