วันที่ 9พ.ย.ที่สนามฟุตบอลที่ร้อยตชด.346 อ.แม่สอด จ.ตากมีผู้ลี้ภัยพักพิงราว 15,000 คน กางเต้นท์สนามอยู่ทั่วบริเวณ ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด ขณะที่องค์กรเอกชนหลายองค์กรทยอยเดินทางเข้าแจกอาหารและน้ำดื่ม ขณะเดียวกันแม้จะมีการยืนยันว่าการสู้รบสงบลงแล้ว แต่ก็มีรายงานว่ายังมีผู้ลี้ภัยบางส่วนยังทยอยเข้ามาเนื่องจากไม่มั่นใจความปลอดภัย และเวลา 06.40 น.วันนี้ มีรายงานว่ามีกระสุนปืนค.ตกลงมายังฝั่งไทยใกล้ตลาดริมเมยอีก 1 ลูก แต่ไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้บาดเจ็บและผุ้เสียชีวิต ส่วนร้านค้ายังปิด โดยมีกำลังทหารของไทยตรึงกำลังอยู่ตลอดแนว โดยมีการปิดกั้นไม่ให้รถทุกชนิด และคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าออกในบริเวณดังกล่าว
เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ที่กองร้อย ตชด.346 อ.สอด จ.ตาก พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วยนายวุฒิ สิทธิสุราษฎร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก นายกิตติศักดิ์ โตมรศักดิ์ นายอำเภอแม่สอด และตัวแทนฝ่ายทหารและฝ่ายปกครองได้ร่วมประชุม เพื่อติดตามสถานการณ์ ผู้ลี้ภัยจากการสู้รบระหว่างทหารรัฐบาลพม่ากับกองกำลังกระเหรี่ยงพุทธ (ดีเคบีเอ)
พล.ท.วรรณทิพย์ กล่าวภายหลังว่า ขณะนี้มีการติดต่อไปยังผู้ว่าฯเมียวดี รวมถึงมีการประสานงานระหว่างคณะกรรมการทีบีซี ระดับท้องถิ่นของสองฝ่าย โดยช่วงเช้าวันนี้ ได้รับการยืนยันจากผู้ว่าฯเมียวดีว่าการสู้รบได้ยุติลงแล้ว โดยทหารพม่าได้ผลักดันกองกำลังกระเหรี่ยงดีเคบีเอ ออกจากนอกพื้นที่เมืองเมียวดีแล้ว
ล่าสุดฝ่ายไทยจะส่งรองผู้ว่าฯตาก เข้าหารือและประเมินถึงความปลอดภัย หากทั้งหมดยืนยันแล้ว เราจะผลักดันผู้ลี้ภัยกลับ ส่วนในเรื่องระยะเวลายังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะส่งกลับเมื่อไหร่ แต่หากทางผู้ว่าฯเมียวดีการันตีถึงความปลอดภัยแล้ว จะให้รองผู้ว่าฯ ตาก เดินนำผู้ลี้ภัยทั้งหมดข้ามสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ไปส่งผู้ลี้ภัยถึงเมืองเมียวดี
ด้านนายพจน์ หรูวรนันท์ นายอำเภอพบพระ จ.ตาก กล่าวว่า มีการเตรียมการเอาไว้แล้ว โดยเตรียมพื้นที่ไว้หลายจุดในการรองรับผู้อพยพจากพม่า แต่ละจุดสามารถรองรับผู้อพยพได้จุดละ 1500 คน ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่รุนแรง ยังไม่จำเป็นต้องอพยพชาวไทย แต่ถ้าประเมนสถานการณ์ว่ามีการสู้รบการหนักมากขึ้นอาจจะต้องมีการอพยพประชาชนชาวไทยในหมู่บ้านตามแนวชายแดน ประมาณ 5 หมู่บ้านที่อาจะได้รับผลกระทบ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการสู้รบระหว่างทหารพม่ากับกะเหรี่ยง 3 ฝ่าย ในพื้นที่ อ.พญาตองซู ประเทศพม่า ตรงข้ามชายแดน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ว่า การสู้รบดังกล่าวส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจของพม่า 4 นาย ได้รับบาดเจ็บและและเสียชีวิต 1 นาย ในจำนวนนี้ นายตำรวจยศร้อยตำรวจเอกรวมอยู่ด้วย
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา ร.อ.เอวัน ผู้นำกองกำลังทหารกะเหรี่ยง ดีเคบีเอ สามารถคุม 8 อาสาทหารพรานของพม่าได้ ขณะที่มีรายงานว่า กองพลของทหารพม่า 1 กองพัน ได้เคลื่อนเข้าสู่อำเภอพะยาตองซู เพื่อช่วยเหลือกองกำลังทหารพม่าประมาณ 100 นาย ที่นำโดย พ.ท.อ่องวิน ไข่ ที่ถูกทหารกะเหรี่ยง 3 ฝ่าย โอบล้อมอยู๋ในขณะนี้
สำหรับบรรยากาศในตลาดสดอำเภอสังขละบุรี ซึ่งห่างชายแดนพื้นที่การสู้รบประมาณ 20 กม. พลุกผล่านไปด้วยชาวพม่าและมอญ เนื่องจากบริเวณชานแดนด่านเจดีย์สามองค์ ไม่มีข้าวปลาอาหารจำหน่าย จึงจำเป็นต้องเดินทางเข้ามาซื้อในตัวตลาดดังกล่าว
ด้าน นางหน่อย ไม่มีนามสกุล อายุ 30 ปี แม่ค้าขายข้าวแกงในตัวตลาดสังขละบุรี กล่าวว่า มีญาติอยู่ฝั่งพม่าเล่าให้ฟังว่า มีชาวพม่าประมาณ 100 คน ที่ยังหลบซ้อนอยู่ในป่าฝั่ง อำเภอพญาตองซู ไม่มีอาหารกิน ซึ่งต้องไหว้วานพม่า ที่มีบัตรประจำตัว ที่ออกให้โดยทางการไทย เข้ามาซื้ออาหารเข้าไปแจกจ่ายกันรับประทาน ทำให้ตนขายอาหารได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 00.10 น.วันนี้ พล.ต.ตะวัน เรืองศรี ผบ.พล.ร. 9 ในฐานะ ผบ.กกล.สุรสีห์ พร้อมคณะเดินทางมายังรร.บ้านซองกาเรีย สาขา บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ที่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยคณะผบ.พล.ร.9 ได้ประชุมหารือกับ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกว่า 30 นาที
ต่อจากนั้นได้ตรวจเยี่ยมผู้ลี้ภัยชาวพม่าที่เดินทางหนีภัยจากการสู้รบจำนวนประมาณ 3,000 คน จากนั้นคณะพล.ต.ตะวัน เดินทางต่อไปยังวัดพระเจดีย์สามองค์เพื่อเยี่ยมผู้อพยพอีกจำนวนกว่า 500 คน และเดินทางต่อไปยังด้านหลังพระสยามเทวาธิราช บริเวณด่านพระเจดีย์สามองค์ซึ่งเป็นบริเวณที่ลูกปืน เอ็ม 79 ตก 4 ลูก เสร็จแล้วจึงเดินทางต่อไปยังที่ตั้งหน่วย ชป.ฉก.ลาดหญ้า เพื่อประชุมหารืออีกครั้งแล้วจึงเดินทางกลับ
นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผวจ.กาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับการดำเนินการต่อผู้อพยพว่า นับจากการที่มีผู้อพยพเข้าในพื้นที่ด่านเจดีย์สามองค์ ได้ทำการเจรจากับผู้อพยพและได้ข้อตกลงว่า หากวันนี้ (9 พ.ย.) เหตุการณ์สงบลงดีขึ้น ทางผู้อพยพจะเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อไปดูแลบ้านเรือน แต่หากเกิดการสู้รบอีกก็สามารถเดินทางข้ามมายังประเทศไทยได้อีก ซึ่งเป็นการให้การช่วยเหลือตามหลักมนุษยชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเต็มใจ โดยขณะนี้ทาง ผู้อพยพเริ่มเก็บข้าวของและทยอยเดินทางกลับไปยังฝั่งประเทศพม่าแล้ว
นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เปิดเผยว่า สถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารพม่าและกะเหรี่ยงพุทธ (DKBA) ในจ.เมียวดี ประเทศพม่า ตั้งแต่เวลา 07.00 น.ไม่พบว่าเกิดเสียงปืนหรือเสียงระเบิดขึ้นแล้ว แต่ช่วงเช้าที่ผ่านมายังมีชาวพม่าอพยพมาจากจ.เมียวดีเข้ามาเพิ่มอีกกว่า 200 คน ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากในพื้นที่จ.เมียวดี แจ้งว่ากองกำลังดีเคบีเอได้ถอนกำลังออกไปเกือบหมดแล้ว ซึ่งจากวิเคราะห์คาดว่าสถานการณ์การสู้รบน่าจะสิ้นสุดลงแล้ว
ในส่วนของการผลักดันผู้อพยพชาวพม่าที่ลี้ภัยสงครามกว่า 15,000 คนนั้นขณะนี้อาศัยอยู่ค่ายผู้อพยพที่กองร้อย ตชด.346 อ.สอด เพียงแห่งเดียว ไม่ได้มีการถ่ายเทไปสถานที่อื่นแต่อย่างใด ขณะนี้มีหน่วยงานเอ็นจีโอ เหล่ากาชาด มูลนิธิต่างๆ คอยให้ความดูแลแจกจ่ายอาหารและน้ำ
ส่วนเรื่องการผลักดันกับพื้นที่นั้นภายใน 1-2 ชั่วโมงจะจับตาอย่างใกล้ชิดเกิดการปะทะกันอีกหรือไม่ หากเหตุการณ์สงบ ก็จะเร่งผลักดันชาวพม่าให้กลับจ.เมียวดีอย่างเร็วที่สุด
ผู้ลี้ภัยอีกครึ่งพันผวาไม่กล้ากลับ
ล่าสุดบรรยากาศภายในกองร้อย ตชด.346 อ.แม่สอด จ.ตาก ช่วงเย็นยังคงมีชาวพม่าที่อพยพหนีภัยสู้รบตกค้างอยู่ในจุดลี้ภัยชั่วคราวประมาณ 500 คน จากการสอบถามชาวพม่ารายหนึ่งที่ลี้ภัยมาเล่าว่า สาเหตุที่ยังไม่ยอมกลับเพราะช่วงที่อพยพหนีเข้ามาในฝั่งไทย ระหว่างทางพบและเดินผ่านศพทหารพม่าจำนวนมาก แม้ว่าทางการพม่าจะแจ้งมายังทางการไทยว่าสถานการณ์คลี่คลายและปลอดภัยแล้วแต่ก็ยังไม่ไว้วางใจ
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับความเป็นอยู่ของผู้ลี้ภัยชาวพม่าที่ตกค้างอยู่ราว 500 คนในกองร้อย ตชด.346 เป็นไปอย่างยากลำบาก ขณะเดียวกันเครื่องกันหนาว เช่น ผ้าห่มก็มีไม่เพียงพอ ซึ่งผู้อพยพที่เหลือมีเด็กเล็กอยู่ถึง 100 คน
แหล่งข่าวองค์กรเอกชน หรือเอ็นจีโอ ของไทยรายหนึ่งที่เข้ามาดูแลผู้อพยพชาวพม่า กล่าวตำหนิ UNHCR ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลผู้อพยพโดยตรงว่า เร่งรีบถอนเต็นท์และที่กำบังลมออกไปทั้งที่ยังมีผู้อพยพตกค้างอยู่ โดยอ้างว่ายังมีผู้ลี้ภัยจุดอื่นอีกจำนวนมากที่ต้องไปช่วยเหลือ
รายงานข่าวเพิ่มเติมแจ้งว่า ในวันที่ 10 พฤศจิกายน รองแม่ทัพภาคที่ 3 จะเดินทางมายังกองร้อย ตชด.346 เพื่อพูดคุยให้ผู้ลี้ภัยชาวพม่าที่ยังตกค้างอยู่เดินทางกลับ
สลดพม่าปะทะกะเหรี่ยง9ขวบถูกค.81ดับ
ความคืบหน้ากรณีสู้รบที่ชายแดนตรงข้ามอ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลา 21.30 น. ของวันที่ 9 พ.ย. พล.ต.ตะวัน เรืองศรี ผบ.พล.ร.9 ในฐานะ ผบ.กองกำลังสุรสีห์ที่คุมกำลังดูแลพื้นที่แนวชายแดนด้านจังหวัดกาญจนบุรีถึงจ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้เปิดเผยถึงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่อ.สังขละบุรีจ.กาญจนบุรี ว่า หลังจากมีการสู้รบกันระหว่าง ทหารพม่า และกำลังทหารกะเหรี่ยง ดีเคบีเอ ได้มีประชาชนชาวพม่าอพยพเข้ามาอาศัยอยู่ตามแนวเขตชายแดนเป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันเจ้าหน้าที่ทหารพร้อมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดพื้นที่ให้กับประชาชนเหล่านี้ได้อยู่อาศัยเป็นการชั่วคราว และยังมีองค์กรต่างๆ ได้ทยอยนำสิ่งของมาบริจาคเพื่อช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ อาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งไม่มีปัญหาสำหรับผู้อพยพและขณะนี้ได้จัดพื้นที่พักคอยไว้จำนวน 2 จุด คือ บริเวณวัดถ้ำแก้วสวรรค์บันดาลมีผู้อพยพทั้งหมด 300 คน และบริเวณโรงเรียนบ้านซองกาเลียซึ่งเป็นจุดที่ใหญ่ที่สุด มีผู้อพยพทั้งหมด 3,000 คน ซึ่งมี่ทั้งเด็ก และคนชรา
ผลกระทบจากการสู้รบกันระหว่างทหารพม่าและทหารกะเหรี่ยง ดีเคบีเอ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนหลายราย แต่ภาพที่น่าเวทนามากที่สุดสำหรับผู้ที่เห็นเหตุการณ์รวมทั้งเจ้าหน้าที่พยาบาลที่ช่วยกันยื้อชีวิตเอาไว้ต่างมีน้ำตาไหลออกมาด้วยความสงสาร คือ กรณีของ เด็กหญิง มิล ซินตั้ว อายุ 9 ขวบ ชาวพม่าซึ่งกำลังอยู่ในวัยซุกซน ซึ่งขณะมีการยิงปะทะกันของกำลังทั้งสองฝ่าย ด.ญ.มิล ซินตั้ว พร้อมกับพ่อและแม่ได้วิ่งเข้าไปหลบอยู่ที่บริเวณวัดเสาร้อยต้น อ.พญาตองซู สหภาพพม่า ขณะที่กำลังจะหาที่หลบซ่อนภายในวัด จู่ๆก็มีระเบิดเข้ามาตกภายในวัด และด.ญ.มิล ถูกสะเก็ดระเบิดเจาะเข้าที่บริเวณกลางหลัง และบริเวณใบหูด้านซ้าย อาการสาหัส ส่วนผู้เป็นแม่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จากนั้นชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้รีบอุ้มร่างของเด็กหญิง มิล ข้ามมายังฝั่งไทยและเจ้าหน้าที่ของไทยได้รีบนำตัวส่งไปรักษาที่สถานีอนามัยบ้านพระเจดีย์ แต่ต้องมาเสียชีวิตระหว่างนำส่งไปรักษา สำหรับสะเก็ดชนิดดังกล่าวคือ สะเก็ดจากระเบิด ค.81
ตรึงกำลังที่สังขะบุรี
เวลา 20.30 น. ทหารจาก กองพลทหารราบที่ 9 กองกำลังสุรสีห์ จำนวน 1 กองร้อย พร้อมอาวุธครบมือ ได้เคลื่อนกำลังพลไปยังบริเวณชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่9 ต.หลองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ภายหลังจากได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า จะมีการปะทะกันเกิดขึ้นระหว่างกองกำลังทหารพม่ากับกองกำลังกะเหรี่ยง DKBA ในฝั่งบ้านพญาตองซู อ.พญาตองซู จ.ตันบูซายัต ประเทศพม่า ในช่วงกลางดึกของวันนี้ ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาททางกองพลทหารราบที่9 จึงนำกำลังไปตรึงไว้ตลอดแนวชายแดนเพื่อมิให้มีการล่วงล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย
ขณะที่โรงเรียนบ้านซองกาเรีย สาขาบ้านพระเจดีย์สามองค์ ซึ่งตั้งเป็นศูนย์อพยพยังคงมีกลุ่มผู้ลี้ภัยจากการสู้รบในฝั่งพญาตองซูทยอยเดินเท้าเข้ามาขอพักพิงในเขตบ้านพระเจดีย์สามองค์อย่างต่อเนื่อง ทางเจ้าหน้าที่ทหารจึงได้มีการจัดระเบียบการแจกจ่ายอาหารและน้ำดื่ม ภายหลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดความวุ่นวายในการแจกจ่ายอาหารและน้ำ โดยขณะนี้มียอดผู้ลี้ภัยเข้ามาขอพักพิงแล้วกว่า 4,000 คน อย่างไรก็ตามคาดว่าหากเกิดการปะทะรุนแรงในฝั่งพม่า ก็จะมีผู้ลี้ภัยข้ามเข้ามาในฝั่งไทยเพื่อขอที่พักพิงเพิ่มขึ้นอีก ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจึงเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นตลอดเวลา
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1463 ครั้ง