รูปภาพ : นายกวง เจี้ยนจง ประธานกรรมการบริษัทต้ากง โกลบอล เครดิต เรตติ้ง ของจีน
ที่มา : Bloomberg
บริษัทต้ากง โกลบอล เครดิตเรตติ้ง จำกัด (Dagong Global Credit Rating Co.,Ltd) บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือหรือเครดิตเรตติ้งได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศสหรัฐฯจาก AA เหลือ A+ โดยให้เหตุผลถึงความมุ่งมั่นและความสามารถในการชำระหนี้ที่ตกต่ำลงของรัฐบาลสหรัฐฯหลังธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟดประกาศมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม
มุมมองด้านเครดิตหรือ Credit Outlook ของสหรัฐฯยังคงเป็น “ลบ” เช่นเดิม เนื่องจากแผนที่จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลของเฟดจะลดค่าดอลลาร์ลงและถือเป็นการ “ละเมิด” ผลประโยชน์ทั้งหมดของเจ้าหนี้ นักวิเคราะห์จากต้ากงซึ่งเป็น 1 ใน 5 บริษัทเครดิตเรตติ้งของทางการจีนกล่าวในแถลงการณ์วานนี้ (9 พฤศจิกายน) ขณะที่เครดิตเรตติ้งชองสหรัฐฯอยู่ที่ AAA และ Aaa โดยมูดี้ส์และเอสแอนด์พี 2 บริษัทเครดิตเรตติ้งชั้นนำของโลกจากสหรัฐฯ ซึ่งทั้ง 2 ถือเป็นอันดับความน่าเชื่อถือที่สูงที่สุดแล้ว
การลดอันดับความน่าเชื่อถือครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนการประชุมกลุ่ม G20 จะเริ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้และเนื่องจากสหรัฐฯได้เพิ่มแรงกดดันให้จีนปรับเงินหยวนให้แข็งค่าขึ้นเพื่อช่วยสหรัฐฯลดการขาดดุลการค้า จีนตอบโต้ข้อกล่าวหาโดยการซัดกลับว่า นโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯคุกคามเสถียรภาพประเทศกำลังพัฒนา
“การรับรู้โดยทั่วไปของตลาดคือว่า บริษัทเรตติ้งของจีนกำลังเล่นการเมืองเสียมากกว่าการให้การวิเคราะห์ที่เป็นอิสระ” นายเอียน ลินเก้น นักกลยุทธ์พันธบัตรรัฐบาลจากบริษัท ซีอาร์ที แคปิตอล กรุ๊ป แอลแอลซี ในเมืองสแตมฟอร์ด มลรัฐตอนเน็กติกัต ให้ความเห็นกับบลูมเบิร์กทางโทรศัพท์ “ผมไม่คิดว่านี่จะมีผลเช่นเดียวกับการลดอันดับความน่าเชื่อถือโดยบริษัทเรตติ้งกระแสหลักอย่างเอสแอนด์พีและมูดี้ส์ ดังนั้นกล่าวได้ว่า เหตุผลในการให้เครดิตเรตติ้งสหรัฐฯเกิดขึ้นท่ามกลางความกดดันเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดสำหรับคนส่วนมาก”
‘มีเหตุผลอยู่บ้าง’
“การให้เรตติ้่งประเทศต่างๆกลายเป็นธุรกิจหลักของต้ากงเนื่องจากส่วนแบ่งตลาดในการให้เรตติ้งบริษัทเอกชนนั้นเล็กกว่าคู่แข่งจากต่างประเทศมาก” นายซื่อ เหลย (Shi Lei) หัวหน้าฝ่ายวิจัยตราสารหนี้จากบริษัทหลักทรัพย์ผิง อัน ในเมืองเซินเจิ้น ซึ่งบล.ผิง อัน เป็นบริษัทลูกของบริษัทประกันผิง อัน บริษัทประกันชั้นนำอันดับที่ 2 ของจีน “การลดเรตติ้งของสหรัฐฯโดยต้ากงก็มีเหตุผลอยู่บ้างเนื่องจากการพิมพ์เงินออกมาเพื่อช่วยกับเรื่องการขาดดุลงบประมาณกลับทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่งลงกว่าการรักษาระดับการขาดดุลการคลังในระดับสูงมาก”
‘ตำหนิร้ายแรง’
การลดอันดับความน่าเชื่อถือสหรัฐฯ “สะท้อนถึงความสามารถในการชำระหนี้ซึ่งแย่ลงและการตกต่ำลงอย่างมากของความตั้งใจในการชำระหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ” 2 นักวิเคราะห์จากต้ากงหลู่ ซื่อหนาน (Lu Sinan) และ ตู้ หมิงเอี้ยน (Du Mingyan) เขียนในแถลงการณ์ล่าสุดของต้ากงที่ออกวานนี้ “ตำหนิร้ายแรงในแบบจำลองการพัฒนาและการบริหารเศรษฐกิจสหรัฐฯจะนำไปสู่การตกต่ำของเศรษฐกิจสหรัฐฯในระยะยาวและลดความสามารถในการชำระหนี้ในขั้นปัจจัยพื้นฐาน”
ด้านนายเซี่ย ปิน (Xia Bin) ที่ปรึกษาธนาคารกลางของจีนกล่าวเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า แผนการซื้อพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 600,000 ล้านดอลลาร์ของเฟดคือ การพิมพ์เงินที่ “ควบคุมไม่ได้” และขณะเดียวกัน นายจู กวงเหยา (Zhu Guangyao) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของจีนออกมากล่าววานนี้ว่า การออกมาตรการ QE มูลค่า 600,000 ล้านดอลลาร์ของเฟดจะส่งผลให้เกิดอาการ “ช็อค” ต่อตลาดเกิดใหม่เนื่องจากเงินทุนมหาศาลจะท่วมประเทศเหล่านี้
“หลายประเทศรู้สึกเป็นกังวลกับผลกระทบของนโยบาย (หมายถึง QE) ต่อเศรษฐกิจของเขา” นายฉุย เทียนไข (Cui Tiankai) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวในการแถลงข่าว ณ กรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา “มันจะดูเหมาะสมสำหรับบางคนที่จะก้าวออกมาและให้คำอธิบายกับเรา ไม่เช่นนั้นแล้ว ความเชื่อมั่นระหว่างประเทศในการฟื้นตัวและการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะเกิดความเสียหาย”
ด้านนายกวน เจี้ยนจง (Guan Jianzhong) ประธานกรรมการบริษัทต้ากงออกมากล่าวเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า วิธีวิทยาในการกำหนดเครดิตเรตติ้งของบริษัทตะวันตก “ไร้เหตุผล” และ “ไม่สามารถสะท้อนความสามารถในการคชำระหนี้ได้อย่างแท้จริง”
ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทางก.ล.ต.สหรัฐฯได้ปฏิเสธใบสมัครของต้ากงในการเป็น “องค์กรเรตติ้งเชิงสถิติที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศ” หรือ Nationally Recognized Statistical Rating Organization ในสหรัฐฯ
ที่มา Bloomberg
อ่านแถลงการณ์เต็มๆของต้ากงซึ่งเป็นภาษาจีนได้ที่
ท่านสามารถหาเข้าลิ้งก์ของบริษัทต้ากงหน้าภาษาอังกฤษเพื่ออ่านรายงานเครดิตเรตติ้งของสหรัฐฯได้ตามด้านล่างหากมีปัญหาในการดาวน์โหลดรายงานฉบับภาษาอังกฤาจากเว็บไซต์เรา
แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ MToday