เวลา 07.00 น. วันที่ 16 พ.ย. มุสลิมในประเทศไทยและมุสลิมทั่วโลก ร่วมกันเฉลิมฉลองวันอีด อีดี้ลอัดฮา วันสำคัญทางศาสนาอิสลาม พร้อมกับพี่น้องมุสลิมที่เดินทางไปร่วมพิธีฮัจย์ที่มักกะห์ ประเทศซาอุดิอารเบีย โดยตั้งแต่ช่วงเช้ามุสลิมทุกภูมิภาคได้ร่วมกันละหมาดอีด อีดิ้ลอัดฮา และพบปะกัน เพื่อขออภัยโทษต่อกัน และทำอาหารเลี้ยงกัน บรรยายกาศตามมัสยิดต่างๆเต็มไปด้วยความคึกคักตั้งแต่เช้า มุสลิมจำนวนมาก เชือดแพะ และวัว ทำกุรบ่านเพื่อแจกจ่ายให้ญาติพี่น้อง และคนยากจน ในขณะที่มุสลิมทั่วโลกร่วมฉลองวันอีดอย่างพร้อมเพรียงกัน
ที่ลานหน้ามัสยิดตลาดเมืองใหม่ เทศบาลนครยะลา บรรดาชาวไทยมุสลิมจำนวนกว่า 1 พันคน เดินทางมาร่วมกันประกอบพิธีละหมาด เนื่องในวันตรุษอีดิลอัฎฮา ภายหลังจากการละหมาดจะมีการฟังคุตบะห์ (ฟังธรรมเทศนา) จากนั้นจะมีการแสดงความยินดี และขออภัยต่อกันในสิ่งที่ได้ล่วงละเมิด
นอกจากนั้นจะมีการบริจาคทานกับเด็ก คนชรา หรือผู้ยากไร้ พร้อมทั้งออกไปเยี่ยมเยียนญาติพี่น้อง โดยวันนี้มุสลิมทั้งหญิง ชายและเด็กๆ ต่างสวมใส่เสื้อผ้าใหม่เพื่อต้อนรับวันตรุษอีดิลอัฎฮา และมีการเชือดสัตว์พลีทาน หรือการทำกุรบาน ซึ่งเป็นการฆ่าสัตว์ วัว ควาย แพะหรือ แกะ เพื่อทำทาน โดยเนื้อสัตว์ที่ถูกฆ่าจะนำไปขายไม่ได้ นอกจากทำอาหารเลี้ยงหรือแจกจ่ายให้แก่ผู้ยากไร้
วันตรุษอีดิลอัฎฮา หรือวันฮารีรายอฮัจญี เป็นวันสำคัญของชาวไทยมุสลิมทั่วโลก ที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญโดยคณะรัฐมนตรี ได้มีมติเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2517 กำหนดให้วันตรุษอิดิลอัฎฮา เป็นวันหยุดราชการประจำปี สำหรับจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล ซึ่งปีนี้ ตรงกับวันอังคาร ที่ 16 พ.ย.53 เพื่อให้ชาวไทยมุสลิมได้ประกอบศาสนกิจอันสำคัญ และร่วมเฉลิมฉลองวันฮารีรายออิดิลอัฎฮา
นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้กล่าวว่า เนื่องในวันตรุษอีดิลอัฎฮาหรือวันรายอฮัจญี ขออำนวยพรให้ชาวไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จงมีความสุข และประกอบศาสนกิจโดยสมบูรณ์ได้รับผลบุญจากพระผู้เป็นเจ้า
การประกอบพิธีฮัจญ์ อันศักดิ์สิทธิ์ คือ วิวัฒนาการของมนุษย์ไปสู่พระผู้เป็นเจ้า เป็นการแสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ ความเป็นเอกภาพ อุดมการณ์แห่งอิสลาม โดยมุสลิมทั่วโลก ต่างกระตือรือร้น ที่จะเข้าร่วมในพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธ์นี้ ทั้งนี้เพื่อสร้างความรัก ความสามัคคี การเฉลิมฉลองวันรายออีดิลอัฎฮา ถือเป็นการสานสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณ ระหว่างผู้ที่ประกอบพิธีฮัจญ์ในดินแดน อันศักดิ์สิทธ์กับผู้ที่รอคอยการกลับมา และใช้ชีวิตอย่างมีความรัก มีความสมัครสมานสามัคคี และ ร่วมสร้างสรรค์ให้จังหวัดชายแดนภาคใต้และประเทศชาติเกิดความสงบสันติสุข
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 4295 ครั้ง