พันธมิตรฯทยอยชุมนุมหน้ารัฐสภา คัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญ เชื่อมีผู้ชุมนุมนับหมื่น ยันไม่ค้างคืน หรือปิดทางเข้า-ออก ด้านเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม เตรียม 4 กองร้อยรับมือม็อบ
วันที่ 23 พ.ย. ตั้งแต่ช่วงเช้า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำดดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลองศรีเมือง ได้นำมวลชน ไปหลักหน้ารัฐสภา คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า จะไม่ค้างคืนและไม่ใช่เครื่องขยายเสียง แต่จะใช้โทรโข่งแทน โดยยืนยันสามารถควบคุมมวลชนได้ ขณะที่อยากให้พิจารณาในสภาฯตีตกให้หมด พล.ต.จำลองกล่าวยืนยันว่า รธน.แก้ไขได้แต่ต้องทำประชามติ
นายสนธิ กล่าวว่า ไม่ได้ต้องการต่อต้านการแก้ไขรธน.แต่อยากให้ผ่านการทำประชามติก่อน และอยากเห็นการพลิกสภาโดยรับร่างรธน.ของนพ.เหวง เพื่อที่นายอภิสิทธิ์จะได้เป็นผู้สร้างประวีติศาสตร์ว่าทำลายสภาบัน และทำลายประชาธิปไตย
เวลา 10.30 น. นายประพันธ์ คูณมี แกนนำพธม. ขึ้นเวทีปราศรัยว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าทำไมนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีถึงเร่งรีบที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญช่วงนี้ ทั้งที่ผ่านมามีการถ่วงเวลามาโดยตลอด ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำให้ผู้ใหญ่ภายในพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษา อยู่ในภาวะอึดอัดและน้ำท่วมปาก อย่างไรก็ดีของให้จับตาช่วงวันที่ 25 พ.ย. ที่จะมีการโหวตรับหรือไม่ร่างร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะมีการโหวตเป็นรายบุคคล ซึ่งบุคคลที่สนับสนุนให้แก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นจะถูกนำชื่อมาจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ด้วย ว่าเป็นบุคคลที่ทรยศเจตนารมย์ของประชาชนที่คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลาที่นายประพันธ์ ปราศรัยนั้น นายอถรรพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ และนายสุรบถ หลีกภัย ลูกชายนายชวน ได้เดินมาสังเกตการณ์ชุมนุมด้วย
จนท.เตรียม4กองร้อยคุมม็อบ ยันไร้แดงป่วน
ด้านพล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. เปิดเผยถึงการดูแลความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ที่หน้ารัฐสภา ว่า ทางกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ เริ่มทยอยเดินทางมาที่หน้ารัฐสภา เพื่อคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว ทาง บช.น.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เป็นผู้เจรจากับแกนนำกลุ่มพันธมตร ส่วนการดูแลความสงบเรียบร้อย เบื้องต้น ใช้กำลังตำรวจ 4 กองร้อย และจะมีการประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา ซึ่งจากการพูดคุยกับแกนนำผู้ชุมนุมยืนยันว่าจะไม่มีการปิดการจราจร หรือประตูเข้าออกรัฐสภา และจะไม่ค้างคืนที่บริเวณหน้ารัฐสภาแน่นอน โดยจะไปปักหลักที่พรรคการเมืองใหม่แทน ซึ่งทางตำรวจได้ประเมินจำนวนผู้ชุมนุมแล้วน่าจะใกล้เคียงกับการชุมนุมคราวที่แล้ว
ทั้งนี้ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เตรียมไว้ 4 กองร้อย นั้น คาดว่าจะรับมือไหว ส่วนกำลังทหาร อยู่ที่ตำรวจจะร้องขอไป และทราบว่ามีการเตรียมกำลังเอาไว้แล้ว ส่วนเรื่องการใช้เครื่องขยายเสียงบนรถปราศรัยนั้น ทำไม่ได้แน่ จะใช้ได้แค่เครื่องโทรโข่งเท่านั้น แต่หากว่าผู้ชุมนุมมาจำนวนมาก ก็อาจจะต้องใช้เครื่องเสียงของตำรวจแทน ในการจัดระเบียบผู้ชุมนุมทั้งหมดเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย
ขณะที่พล.ต.ต กรีรินทร์ อินทร์แก้ว รอง ผบช.น. ซึ่งรับผิดชอบเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร กล่าวว่า จากการประสานงาน และเจรจากับแกนนำ ยืนยันว่า จะอยู่ใต้กรองกฎหมาย และจากการวางแผนดูแลความปลอดภัย ก็เชื่อมั่นว่า จะสามารถดูแลความสงบ และความปลอดภัยให้ผู้ชุมนุมและประชาชนได้ แต่หากพบว่า ทำผิดกฎหมาย ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนกรณีกระแสข่าวว่า จะมีกลุ่มคนเสื้อแดง เดินทางมาชุมนุม บริเวณรัฐสภาเช่นกัน พล.ต.ต กรีรินทร์ ยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวเป็นเพียงข่าวลือไม่มีมูล ซึ่งอาจเป็นการยั่วยุ หรือปล่อยข่าว ให้เกิดความรู้สึกในการชุมนุมเท่านั้น แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ยังไม่พบข้อมูลดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม รอง ผบช.น. ยืนยันว่า การชุมนุมครั้งนี้ จะไม่มีการยืดเยื้อ แม้จะมีการประชุมสภา 3 วัน แต่กลุ่มพันธมิตรจะเดินทางกลับในช่วงเวลา ที่เลิกประชุมและกลับมาใหม่ในเช้าวันต่อมา ซึ่งต้องเฝ้าจับตา กลุ่มมือที่ 3 ที่อาจเข้ามาสร้างสถานการณ์ปั่นป่วน หรือความไม่ประสงค์ดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ได้เฝ้าระวัง และวางมาตรการดูแลอย่างเข้มงวดแล้ว
บทความนี้ถูกอ่านไปแล้ว 1001 ครั้ง